อยากปั่นต้องลองไป! บินสบาย นอนสนิท ปั่นสนุก บุกกระบี่-ลันตา
ปัจจุบันกระแสการปั่นจักรยาน เพื่อการท่องเที่ยวกำลังมาแรงสุดๆ และไม่จำกัดเส้นทางในการในการปั่นว่าจะใกล้หรือไกลอีกต่อไป
หากเพื่อนๆ ที่เคยปั่นจักรยานท่องเที่ยวอยู่แต่เส้นทางแถวบ้าน แถวออฟฟิศ หรือจังหวัดใกล้ๆ อยู่ทุกวัน แล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศการหาเส้นทางปั่นจักรยานใหม่ๆ ไปท่องเที่ยวกันดูบ้าง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ก็ดูเหมือนจะไม่เรื่องยากกันอีกต่อไป เพราะตอนนี้สายการบินหลายสาย เขาได้เปิดให้ผู้โดยสารที่นิยมการปั่นจักรยาน สามารถนำจักรยานขึ้นเครื่องไปได้แล้วเช่นกัน
ทริปล่าสุดที่ สนุก! ท่องเที่ยว มีโอกาสได้บินลัดฟ้าไปเที่ยวจังหวัดกระบี่ ในโครงการ "บินสบาย นอนสนิท ปั่นสนุก บุกกระบี่-ลันตา" เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยสายการบินนกแอร์ ร่วมกับโรงแรมไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง สโมสรจักรยานเพื่อสุขภาพ และการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
กิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อเป็นการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ทั้งในตัวจังหวัดและบนเกาะลันตาด้วยการปั่นจักรยาน อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้จักรยานเป็นพาหนะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองกระบี่และบนเกาะลันตาอีกด้วย
Day 1.
วันแรกพวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองบินลัดฟ้าสู่จังหวัดกระบี่ โดยใช้เวลาเพียงชั่วโมงๆ นิด ซึ่งทริปนี้มีผองเพื่อนนักปั่นตำนำจักรยานขึ้นเครื่องไปด้วย
โดยสายการบินนกแอร์ ได้กำหนดกติกาไว้ว่า ผู้โดยสารที่นำจักรยานขึ้นเครื่องไปด้วย จะต้องมีซองหรือกล่องใส่จักรยาน และปล่อยลมยางออกก่อนให้เรียบร้อย ก็สามารถพาจักรยานคันโปรดขึ้นเครื่องบินลัดฟ้าไปปั่นเที่ยวกันได้อย่างสนุกสนาน
ล้อเครื่องบินแตะสนามบินกระบี่ปุ๊บ! เราก็ไปเติมพลังกันมื้อกลางวันกันก่อน ที่ร้านขนมจีนโกจ้อย ร้านอาหารท้องถิ่นชื่อดังของเมืองกระบี่ มีเมนูเด็ด คือขนมจีนเส้นสด น้ำยารสจัดจ้าน และไก่ทอด ที่ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน เวลากินคู่ขนมจีนบอกเลยว่าอร่อยเข้ากันสุดๆ
อิ่มแล้วก็เดินทางไปเช็คอินพักผ่อนนอนเล่นชิลล์ๆ ในช่วงบ่าย ที่โรงแรมไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง โรงแรมขนาดกลางใกล้ชิดวิวภูเขา ที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความมากมาย
มีห้องพักให้เลือก 2 แบบ คือห้องแบบมาตรฐาน และห้องแบบครอบครัว ที่มีเตียงสำหรับเด็กอายุใม่เกิน 12 ปีไว้รองรับอีกด้วย
ส่วนกิจกรรมของที่นี่ก็มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ หรือถ้าจะไปเที่ยวอ่าวนาง ก็มีรถรับส่งพาไปเล่นน้ำทะเลหรือเดินชอปปิ้งก็เลือกได้ตามใจชอบ หรือถ้าไม่อยากออกไปจะกิน พัก นอนเล่น หรือแฮ็งค์เอ้าดื่มเบาๆ ที่นี่ก็มีให้พร้อม
พักผ่อนชาร์จแบตกันเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาออกไปปั่นจักรยานแล้ว โดยเราเริ่มออกสตาร์ทกันที่หน้ารูปหล่อองค์จตุคามรามเทพ ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่แห่งใหม่
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่จะได้สัมผัสความสวยงามของวิถีชีวิตชาวบ้านรอบๆ เมืองตลอดระยะ 7 กิโลเมตร
ปั่น ปั่น ปั่น กันมาได้สักพัก เราก็แวะเที่ยวศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมและหอศิลป์อันดามัน ซึ่งรวบรวมข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมจังหวัดริมฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ จ.กระบี่ พังงา สตูล ภูเก็ต ตรัง และระนอง ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ตื่นตาตื่นใจกับงานศิลปะหลากหลายรูปแบบแล้ว เราก็ขี่จักรยานต่อที่กำแพงประวัติศาสตร์เมืองกระบี่ ตั้งอยู่กำแพงด้านหลังศาลากลางจังหวัดกระบี่ ถ. เจ้าฟ้า บริเวณนักท่องเที่ยวได้จะได้เดินชมภาพเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาของเมืองกระบี่หลายยุคหลายสมัยจำนวน 28 ช่อง ยาวกกว่า 250 เมตร
ก่อนมาปิดนักปั่นวันแรกที่ พิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงลันตา บริเวณนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามและยิ่งใหญ่เรือรบหลวงลันตา วิวสุดอลังการของธรรมชาติเมืองกระบี่ และสักการะพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
Day 2.
พักชาร์จแบตกันมาทั้งคืน เช้าวันที่สอง พวกเราเตรียมตัวไปบุกตะลุยปั่นจักรยานบนเกาะลันตา โดยยกขบวนกันไปขึ้นเรือที่ท่าเรือพีพีทัวร์ จากนั้นก็ขนเจ้าสองล้อขึ้นเรือสปี๊ดโบ้ทออกเดินทางไปเกาะลันตา พอถึงท่าเรือปุ๊บ ทุกคนก็ช่วยกันทยอยจักรยานขึ้นเรือ ก่อนแบ่งสายการปั่นเป็น 2 เส้นทางคือ สายปั่นจริงจัง พลังเกินร้อย ใช้เส้นทางศาลาด่าน-เขาใหญ่ ระยะทาง 30 กิโลเมตร
ส่วนสายสมัครเล่นก็ปั่นไปชมเมืองเก่า หรือลันตาโอลทาวน์ ชมวิถีชีวิตชุมชนเมืองเก่าลันตา
ในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเป็นชุมชนที่มีความเจริญมาแห่งหนึ่งของภาคใต้ ในฐานะเมืองท่าและทางผ่านของพ่อค้าที่มาจากจินแผ่นดินใหญ่ ปีนัง อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ที่เดินทางมาค้าขายทางเรือ แวะพัก แลกเปลี่ยนสินค้ากัน จนเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และกลายเป็นวัฒนธรรมของชาวลันตาที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ขี่จักรยานเสร็จก็ได้เวลาแวะไปเติมพลังกันที่ร้านอาหารเขาใหญ่ ร้านอาหารวิวสวยบนเกาะลันตา ที่สามารถมองเห็นท้องทะเลสีคราม ตัดกับสวนยางพาราสีเขียว เป็นภาพที่เห็นแล้วหลายคนต้องยกกล้องขึ้นมากัดชัตเตอร์เก็บไว้กันเป็นที่ระลึกกันทีเดียว
Day 3.
หลังจากออกแรงปั่นจักรยานอย่างสนุกสนานกันมา 2 วัน วันสุดท้ายก่อนบินกลับกรุงเทพฯ พวกเรายังได้แวะเที่ยวป่าพรุท่าปอมคลองสองน้ำ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองจิกหมู่ที่ 2 ตำบลเขาครามห่างจากตัวเมืองกระบี่ 23 กิโลเมตร
ป่าพรุท่าปอมเป็นป่าที่มีแหล่งน้ำสวยงามหลายแห่งมีต้นกำเนิดจากแอ่งน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำจืดใสสะอาดจนมองเห็นพื้นน้ำและรากไม้ป่าหลุมพีไหลเอื่อยมาบรรจบกับป่าโกงกางสู่ทะเล ซึ่งเป็นน้ำเค็มจึงได้ชื่อว่าคลองสองน้ำภายในมีทางเดินศึกษาธรรมชาติทำด้วยไม้ระแนงบางช่วงมีเก้าอี้ไม้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักชมทัศนียภาพสองข้างทางบางส่วนอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้
ทริปนี้เป็นหนึ่งทริปที่เพื่อนนักปั่นที่เดินทางไปด้วยกันบอกว่าสนุกมาก และประทับใจมากกว่าที่คิดไว้
วันหยุดนี้หากยังนึกไม่ออกว่าจะเที่ยวกันไหน ลองตี๊ตั๋วบินลัดฟ้าไปปั่นจักรยานเล่นเหมือนพวกเราที่กระบี่กันไหมครับ บอกเลยว่าสนุกและประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน
รายละเอียดการการเดินทางไปเที่ยวกระบี่เพิ่มเติม:
สายการบินนกแอร์ให้บริการบินในเส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - กระบี่ วันละ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737-800 ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 189 ที่นั่ง อีกทั้งยังสามารถระบุที่นั่งได้ฟรี พร้อมอาหารว่างบนเครื่อง ฟรีน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่อง 15 กิโลกรัม (20 กิโลกรัมสำหรับสมาชิกนกแฟนคลับ) สอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.NokAir.com หรือ Call center 1318
ทั้งนี้สำหรับผู้โดยสารที่นิยมการปั่นจักรยาน สามารถนำจักรยานขึ้นเครื่องไปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยทำตามกติกา คือ จะต้องมีซองหรือกล่องใส่จักรยาน และปล่อยลมยางให้เรียบร้อย ก็สามารถเดินทางพร้อมกับจักรยานได้แล้ว
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ โทร.0 7562 2163