รีวิว "ไหว้พระเสริมดวง" วัดไหนฮิต คนไทยชอบไปในประเทศพม่า
ก่อนอื่นต้องปรับเวลากันซะหน่อย เพราะเวลาที่ประเทศพม่านั้นช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 30 นาที เมื่อถึงสนามบินกาลาดอน กรุงย่างกุ้ง เรารอตรวจเอกสารเข้าเมือง จากนั้นจุดหมายแรกของเราก็คือ พระธาตุอินทร์แขวน
ก่อนขึ้นเขานมัสการพระธาตุอินทร์แขวน เราต้องขึ้นรถบรรทุกหกล้อ ที่ คิมปูนแคมป์(เชิงเขาไจ๊ก์ทีโย) ใช้เวลา เดินทางจากบริเวณนี้ประมาณ 35 นาที รูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้
รูปร่างหน้าตารถ 6 ล้อขึ้นเขา นมัสการพระธาตุอินทร์แขวน
รูปร่างหน้าตาด้านหลังรถ 6 ล้อขึ้นเขา นมัสการพระธาตุอินทร์แขวน
แอบถ่าย ขณะนั่งรถ 6 ล้อขึ้นเขา ระหว่างทาง รถก็จะหยุดบ้างเป็นจุดๆ เพื่อเก็บค่ารถบ้าง บางทีก็จะเจอคนมาเขย่าขันเพื่อให้ร่วมทำบุญเป็นจุดๆไป บางทีก็จะมาขายน้ำบ้าง
พอมาถึงก็ต้องลงเดินอีกนิด ประมาณสัก 800 เมตรได้มั๊งครับ จำไม่ได้แหละแต่เดินไปเรื่อยๆก็เพลินดี แต่ที่สำคัญกระเป๋าเนี่ยแหละตัวหนัก เลยจ้างคนพื้นที่ช่วยแบกขึ้นไป
ทางเดินลาดชันพอเดินได้ครับ
คนพื้นที่ช่วยแบกกระเป๋า ช่วยอุดหนุนคนพื้นที่สักนิดนึง
แอบแปลกใจนิดหนึง ทางเดินขึ้นไป มีเครื่องตรวจด้วย
เราก็เดินผ่านมาแต่โดยดี ^^
เดินขึ้นมาจะเจอลานกว้าง บริเวณลานกว้าง ตกกลางคืนคนพื้นที่ก็จะจับจองพื้นที่เพื่อเตรียมสวดมนต์ไหว้พระ และหลับนอนตรงนี้เลยครับ ขึ้นมาข้างบนอากาศดีมากตอนค่ำเย็นสบาย
นี่คือโรงแรมที่ผมพักครับ Yoe Yoe Lay Hotel ถ้าไม่อยากเดินไปไหว้นมัสการพระธาตุอินทร์แขวนไกลๆ เดินไม่กี่ก้าวก็เจอ แนะนำเลยครับที่นี่ ใกล้สุดแหละ แต่อย่าได้วาดฝันไว้เยอะนะครับ เป็นโรงแรมระดับ สามดาว ถ้าบ้านเราก็สองดาวได้มั๊งครับ แต่หรูสุดแหละที่นี่ครับ
ถึงแม้ห้องพักจะไม่โดนใจเท่าไร แต่วิวตรงโต๊ะทานข้าวโอเคสวยเลยครับ อากาศก็ดี เย็นสบาย ประทับใจเลย
พระธาตุอินทร์แขวน ถ่ายตอนกลางคืนครับ
ยอดพระธาตุอินทร์แขวนก็ทองไปหมด
พระธาตุอินทร์แขวน
เป็นองค์เจดีย์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ สูง 5.5 เมตร ปิดทองทั้งองค์ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาอย่างหมิ่นเหม่ดูคล้ายว่าจะตกลงไปในหุบ เหวได้ทุกขณะ พระธาตุอินทร์แขวนนี้นับเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรต์ ปี พุทธศักราช 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรมเรื่อง “เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน”
คนที่นั่นร่วมถ่ายรูปกับเรา เห็นชุดพื้นเมืองเค้ามั๊ยครับ น่ารักสุดๆๆ
พระธาตุอินทร์แขวน มีความเชื่อกันว่าควรจะมานมัสการให้ได้ครบ 3 ครั้ง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ทำการนมัสการ 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 พอไปถึงก่อนพระอาทิตย์ตก ครั้งที่ 2 ตอนค่ำๆ และครั้งที่ 3 ประมาณตี 5 ถวายข้าวพระพุทธ มีชุดจำหน่ายบริเวณวัด และสิ่งที่ผมรู้มาว่าสำหรับคนที่เกิดปีมะแม การทำบุญอย่างหนึงถ้ามีโอกาส คือ ต้องไปไหว้สักการะพระธาตุบนภูเขาสูง
จุดเทียนไหว้พระข้างหน้า พระธาตุอินทร์แขวน ครับ
พอเราลงจากเขามาก็มุ่งสู่ตัวเมืองย่างกุ้ง ผมพักที่ Taw win Garden Hotel คือคนละแบบกับบนเขาเลยครับ สบายกว่าเยอะมากๆ โรงแรมนี้อยู่ใกล้ห้างสุดแหละ แต่ห้างบ้านเขา อารมณ์ พาต้าบ้านเรานะครับ ก็ยังดีให้มีซื้อของใช้บ้างนิดหน่อย
ติดต่อเคาวน์เตอร์เพื่อเข้าพัก ตอนไป เจอคนไทยเข้าพักหลายคนอยู่ครับ
มุมศิลปะของโรงแรมตามมุมต่างๆ
เครื่องดีดของพม่า สวยงาม
งานศิลปะช่างงามนัก
บริเวณห้องโถงของโรงแรม
นางแบบตัวเล็กบอกว่าโอสุดๆค่ะ
มหาเจดีย์ชเวดากอง
มาต่อกันที่ นมัสการมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shawedagon Pagoda) กันครับ
พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศ พม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะชื้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด ซึ่งมีทั้งผู้คน ชาวพม่าและชาวต่างชาติมากมายที่พากันเที่ยวชมและนมัสการทั้ง กลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย โดยกล่าวขานกันว่า ทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มีจำนวนมากมายมหาศาล กว่าทองคำที่เก็บอยู่ที่ธนาคารชาติอังกฤษเสียอีกและนับเป็นมหาเจดีย์ที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
มหาเจดีย์ชเวดากองถ่ายจากมุมสูง คงหาถ่ายได้ยากแน่ๆครับภาพนี้ ... อิอิ
ตามความเชื่อ สำหรับคนที่เกิดปีมะเมีย ถ้ามีโอกาสคุณต้องมาสักการะให้ได้สัก 1 ครั้งครับ ตรงลานอธิษฐาน..มองเห็นอาคารพิพิธภัณฑ์อยู่ด้านหลัง (มีภาพพระเจดีย์ชเวดากอง) แนะนำว่า..ให้เข้าไปชมการนำยอดพระเจดีย์ขึ้นประดิษฐานบนยอดเมื่อครั้งบูรณะใหญ่ และจะได้เห็นว่า ที่ยอดพระเจดีย์มีเพชร พลอย นิล จินดา มากมาย ที่ทั้งชาวบ้านและทางการร่วมกันบริจาคเพื่อประดับไว้ที่ยอดพระเจดีย์ ด้วยแรงแห่งศรัทธา
ถัดมาจากลานอธิษฐานก็จะเห็นคนไทยเพียบมาถ่ายรูปกันครับ และยังมีมือกล้องท้องถิ่นรับบริการถ่ายภาพพร้อมอัดเรียบร้อยครับ
จริงๆขึ้นมาระหว่างเดินรอบๆ เราจะเจอจุดไหว้พระประจำวันเกิดด้วยครับ ส่วนผมและนางแบบตัวน้อย เกิดวันอังคาร ก็จะไปไหว้ทิศวันอังคาร วิธีการรดน้ำพระประจำวัน จะมีน้ำเปิดจากก๊อกใส่ในขันได้เลย ก่อนรดน้ำ ให้ไหว้พระก่อนเราอาจเอาดอกไม้มาบูชาพระก็ได้ อธิษฐานก่อนแล้วจึงตักน้ำรดพระพุทธรูปตามกำลังวันเลยครับ วันอังคารก็ 8 ขันครับ
จุดไหว้นมัสการดูไม่ยากเลยครับที่เสาจะมีภาษาอังกฤษอยู่ด้วยครับ
คนที่ไปไหว้ก็เยอะอยู่ครับ แต่ก็เดินได้สบายๆเลย
เดินๆไปอีกสักนิดเป็นวงกลม ก็จะเจออีก 1 จุด ตรงนี้ สำหรับผู้ที่ทำมาค้าขาย บูชา พระอาทิตย์และพระจันทร์ (สุริยัน จันทรา) เค้าบอกว่ามีรายการดัง รายการหนึงในเมืองไทยเคยมาไหว้ ทุกวันนี้รวยเป็นพันๆล้านครับ ก็เลยไหว้สักหน่อย จะได้รวยกับเค้าบ้าง
อีกที่ ที่ชาวไทยนิยมไปกันคือ “เทพทันใจ” (นัตโบโบยี แห่งวัดโบตะทาว) ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนา เล่ากันว่า การขอพรควรขอแค่ข้อเดียวและเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ท่านจะช่วยเราและคนไทยหลายๆคนทำการสักการะและได้ผลชะงัดรวดเร็วทันใจยิ่งนักในสิ่งที่ตัวเองอธิฐาน จึงกลับมานมัสการกันอีกเรื่อยๆ (ที่จริงแล้วคำว่า โบโบยี นั้นไม่ใช่ชื่อเฉพาะของนัตองค์ใด แต่เป็นคำกลางเรียก นัตผู้ชายที่เป็นที่เคารพนับถือ คล้ายกับคำว่า เจ้าพ่อ หรือเจ้าปู่ ที่คนไทยใช้เรียกอารักษ์แบบไทยๆ)
เทพทันใจ
วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบจี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะเทพทันใจจะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) แล้วเอาไปใส่มือของเทพทันใจสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของเทพทันใจ แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปราถนาที่ขอไว้ครับ
เทพกระซิบ
พอไหว้เทพทันใจเสร็จก็มาฝั่งตรงข้ามหน้าวัดโบตะทาว มีศาลนัตอีกองค์หนึ่งซึ่งชาวพม่าเรียกว่า “อะมาดอว์เมียะ” หรือตอนนี้คนไทยรู้จักกันทั่วในนามว่า "เทพกระซิบ" ถ้าจะอธิษฐานขออะไรกับเทพองค์นี้ ต้องกระซิบที่ข้างๆหูของเทพกระซิบครับ ... (แอบขอมากกว่า 1 ข้อครับ) ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต
การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
เมื่อไหว้พระกันแล้วคราวนี้จะพาไป ช้อปปิ้ง กันบ้าง ที่จะซื้อของฝากกัน ที่ตลาดโบโจ๊ก หรือ ตลาดสก็อต (Scott Market) เป็นตลาดที่มีสินค้าหลากหลาย เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ เครื่องเงิน อัญมณี ตลาดสก็อตปิดทุกวันจันทร์ แต่ผมมองแค่หยก เค้าว่ากันว่าหยกพม่าดีที่สุด ของจีนบางทียังมาเอา ที่พม่า การเลือกหยกแม่ค้าบอกว่า หยกขาวถ้าส่องแสงแล้วมีสีม่วง มีความเชื่อกันว่าจะเฮงๆรวยๆครับ
มืออาจจะดำไปหน่อยให้ดูหยกนะครับ ^^
แต่ผมชอบ ช้อปปิ้ง ที่หงสาวดีนะครับที่วัดพระนอนชเวตาเลียว หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว ที่นี้เน้นงานไม้ ผ้าพื้นเมือง ผมชอบงานฝีมืองานไม้แกะสลักครับ เลยได้ ไม้จันทน์ เป็นไม้หอม แกะสลักเป็นรูปพระพุทธเจ้าหลายๆองค์มาครับเพื่อนำกลับไปบูชาต่อที่บ้าน ที่สำคัญต้องเลือกไม้จันทน์ เป็นตัวเมีย นะครับจะมีกลิ่นหอม ส่วนตัวผู้ราคาถูกกว่าไม่มีกลิ่นครับ มาซื้อของยังได้นมัสการพระนอนประจำวันอังคารอีกด้วย วัดนี้เป็นพระนอนที่งดงามที่สุด ของเมืองหงสาวดี มีความสุขแหละ ^^
พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว ต้องขึ้นบรรไดไปอีกนิด
ตลาดข้างล่างพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว
งานไม้ ฝีมือแกะสลักชาวพม่า ต้องดูดีๆนะครับ บางอันระดับอาจารย์แกะสลัก บางอันลูกศิษย์แกะสลัก
ซื้อของแล้วขอถ่ายรูปกับแม่ค้าสักนิดเพื่อเป็นการยืนยันว่าของแท้ ^^
ถ้ามีโอกาสอย่าลืม ชิมถั่วอัดเม็ดนะครับ และก็เบียร์ที่อร่อยที่สุดในพม่า ฮ่าๆ คนที่นี่เค้าบอกว่าดื่มกันเยอะครับ ... ทริปนี้คงจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
รีวิวโดย Tommy Hello
อัลบั้มภาพ 59 ภาพ