2 Days Trip ปั่นจักรยานที่ Kyoto เที่ยววัดต่างๆ ไม่ยากอย่างที่คิด ตอนที่ 1

ขอเชิญคนที่ชอบออกกำลังกายไปปั่นจักรยานเที่ยวที่วัดต่างๆ ใน Kyoto กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วตามคุณgoodgodth ไปกันเลยค่ะ

สวัสดีครับ สมาชิกชาว blueplanet ทุกท่าน สงกรานต์ที่ผ่านมานี้ คงมีหลายท่านได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันหลายท่าน แต่ก็เป็นโชคไม่ค่อยดีของพวกเราที่ช่วงนั้น ญี่ปุ่นเกิดมรสุม ฝนตกตลอดวัน ทั่วเกือบทั้งประเทศ

ในทริปสงกรานต์ครั้งนี้ ผมได้มีโอกาสไป Tokyo - Osaka - Kyoto ความรู้สึก feel goood คับแต่ไม่สุดเท่าไหร่เพราะ เจอพิษฝน + ความหนาวเข้าไปตลอดทริป แต่ชั่งเหอะ ถ้าเราคิดลบไปแล้วจะเที่ยวสนุกได้ไงจริงไหมคับ

กระทู้นี้ผมขอแชร์เรื่องการปั่นจักรยานเที่ยววัดต่างๆใน Kyoto จริงๆแล้วผมก็ไม่ตั้งใจจะปั่นจักรยานหรอกนะคับ แต่แบบว่าตอนไปพักโรงแรมที่ Kyoto เแล้วดันไปเจอโบชัวร์อันนี้ขึ้น ต่อมอยากปั่นจักรยานทำงานทันที จริงๆเราก็นั่งรถบัสไปก็ได้นะสบายกว่ากันเยอะเลย แต่พอดีผมกลัวอย่างนึงคือ กลัวลงป้ายผิดแบบว่า “ลงป้ายผิดชีวิตเปลี่ยน” ต้องมานั่งรออีกหลายนาที

ได้อ่านกระทู้หลายๆตอนใน blueplanet บอกว่า Kyoto ปั่นจักรยานยากเพราะส่วนใหญ่เป็นเนิน แต่ผมก็ได้ไปลองแล้ว ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกคับ เจอเนินน้อยมาก ถ้าเจอเนินก็เข็นรถเอา ไม่ยาก 555



สิ่งที่ต้องเตรียมกันก่อนจะเริ่มขี่จักรยาน trip นี้ของผม
1. Mobile Phone  เพื่อเปิด Google Maps - ผมใช้ Sony Xperia Z  มันดีมากตรงที่เป็น มือถือกันน้ำ ต้องขี่ฝ่าฝนที่ตกเพียงใด มือถืออันนี้ก็สามารถอยู่ในตะกร้าจักรยานได้ตลอดตากฝนไปพร้อมกับผมได้


2. Pocket Wifi - เพื่อต่อ Net สำหรับ Google Maps ผมใช้บริการของ 4gpocketwifi (http://www.4gpocketwifi.com) อยู่กันยาวตั้งแต่เช้ายันเย็น
PS:  ผมขอโฆษณาหน่อยแบบว่าตอนไปรับของที่ Office น้องผู้หญิงเค้าน่ารักมาก บริการดีมาก

3. Powerbank - มือถือเปิด Google Maps แบตหมดเร็วมากคับ แนะนำเลย

4. น้ำ + ข้าวกล่อง ร้านสะดวกซื้อ

5. ลำโพงจิ๋ว - เวลาปั่นเหงาๆ เสียบกับมือถือเปิดเพลงฟัง วางไว้หน้าตะแกรงรถจักรยาน ได้อารมณ์ติ๊ดแตกเลยคับ 555

6. ภาษาญี่ปุ่นนิดหน่อย - เวลาถามทาง ต้องยอมรับคน Kyoto คุยอังกฤษไม่ค่อยได้คับ จำไว้ให้มั่น (Massugu - ตรงไป , Hidari - ซ้าย , Migi -ขวา) บางทีเค้าก็คิดว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น เค้าก็ใส่ญี่ปุ่นแหลกเลย ผมก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ เกาหัว แล้วก็ตอบไปว่า “วาการิมาเซ็น english please”

อุปกรณ์ครบชุดพร้อมลุย ถ้าพร้อมแล้ว OK Let’s go

โรงแรมที่ผมพัก First Cabin Kyoto Karasuma

เจอโบชัวร์เจ้ากรรมวางอยู่ที่เคาท์เตอร์ นั่งอ่านสักพัก มันมี plan วางไว้เลยนี่หว่า ว่าวันนี้ถ้าขี่ไปจะได้ไปวัดไหนมั่ง Oh! Very Good

ไม่รอช้าตื่นแต่เช้า ไปร้านเช่าจักรยานทันที เดินไกลพอสมควรจากโรงแรม (34.992363, 135.760140)

ถึงร้านแล้ว เจ้าของร้านพูดอังกฤษได้ มีจักรยานให้เลือกหลายประเภทเลย ผมขอเลือกจักรยานพิมพ์นิยมเลย จักรยานแม่บ้าน ค่าเสียหาย 1000 yen

จักรยานเยอะเชียว

มี plan ให้เลือกด้วยจะขี่ไปไหน

ให้แผนที่ใหญ่สำหรับขี่จักรยานมาให้ด้วย เจ้าของร้านแนะนำการขี่ highlight เส้นทางของเราให้ด้วย

เจ้าของร้าน ถามว่า วันนี้มีแผนขี่จกรยานไปเส้นไหมไอ้หนุ่ม
ผม: ว่าจะไป 2 เส้นทาง south , west
เจ้าของร้าน: Impossible! No, you can’t
ผม: จิงสิคับ ถ้าเวลาเหลือผมว่าจะขี่ไปอีกเส้นหนึ่งแล้วกันคับ
เจ้าของร้านทำหน้ายิ้มคงคิดให้ใจกูเตือนแล้วนะ 555


เจ้าของร้านสอนวิธีใช้จักรยานเสร็จสับ เตรียมตัวจะออก เจ้าของร้านวิ่งมาบอก เดี๋ยวก่อน วันนี้ฝนน่าจะตก เอาเสื้อฝนไปไอ้หนุ่ม ให้ฟรี (มีน้ำใจจัง)

Plan วันแรก South route

ปล. เพื่อให้มีอรรถรสในการอ่าน ผมขออนุญาติไป copy ประวัติจาก web ชาวบ้าน เค้ามาแปะนะคับ อยากรู้ความเป็นมากด link ดูเองนะคับ

Plan Day 1


1. Higashihoungan Temple - ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/honganji-temple/  Official : http://www.higashihonganji.or.jp/

เปิดหูเปิดตากับวัดแรกคับ เป็นวัดใหญ่ สร้างด้วยไม้โบราณ สวยมาก สร้างขึ้นในศตวรรษ 16 เป็นวัดพี่น้องกับ Nishiongan Temple ซึ่งแบ่งแยกนิกายกัน สำหรับวัด Higashihoungan เป็นวัดสำหรับนิกาย ชินแต่แอบเซ็งนิดนึงคือ กำลังซ่อมบำรุงไปด้วย

เข้าไปข้างในรู้สึกขนลุกเลย (เค้าห้ามถ่ายรูปข้างในอ่ะ ไม่มีรูปให้ดูนะ ถ่ายได้แค่หน้าประตู) เห็นประติมากรรมข้างในใหญ่โตมโหฬาร เสื่อซาตามิ นุ่มและหอมมาก


2. Nishiongan Temple - ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/honganji-temple/  Official : http://www.hongwanji.or.jp
เป็นวัดใหญ่ สร้างด้วยไม้โบราณ สวยมาก สร้างขึ้นในศตวรรษ 16 เป็นวัดพี่น้องกับ Higashihoungan ซึ่งแบ่งแยกนิกายกัน สำหรับวัด  Nishiongan เป็นวัดสำหรับนิกาย โจโด

เหมือนจะมีพิธีอะไรสักอย่าง

น้านไง ตอนแรกว่าจะไม่เข้าไปนะ แต่พอเห็นฝรั่งมันเข้าก็เลยเข้าตาม เหอะ ๆ ๆ

บรรยากาศ

หลงทางขี่ไปเจ้ามหาลัยเก่าแก่ที่ Kyoto ชื่อ Ryokoku University ตึกสวยมากเลย

ตะกร้าหน้ารถ รกมาก เหอะ ๆ ๆ


คลิปขี่จักรยานรอดอุโมงค์รถไฟ

มุ่งหน้าต่อไปวัด Touji


3. Touji Temple - ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/toji-temple-kyoto/   Official : http://www.toji.or.jp/

บรรยากาศในวัด


เข้าไปข้างในอีกชั้น เสียเงินอีก 500 yen

ฟังจากไกด์แล้ว เค้าบอกว่า เป็นที่พักผ่อนของท่านโชกุนสมัยก่อน ข้างในมีภาพจิตรกรรมที่ประตูที่ทำด้วยทองคำด้วย เสียดายที่เค้าห้ามถ่ายรูป

4.Fusimiinari-taisya : ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/fushimi-inari-shrine/  Official : http://inari.jp/

คงไม่ต้องบรรยายที่นี่มากคับ เพราะแค่ผมขี่จักรยานเข้ามาก็ได้ยินเสียง “อ้าวหนึ่งสองซั่ม” ตลอดทางแล้ว 555 ที่ฮิตของชาวไทยโน่ อย่างเราอยู่แล้ว

ระหว่างทางเดินเสาประตูแดง มีป้ายบอกว่า Viewpoint ไม่รอช้า ผมลองเดินขึ้นเลย สุดท้าย หลง เจอป่าไผ่บนเขา แถมศาลเจ้าร้างบนเขาอีก เดินไปเดินมา เริ่มนึกถึงบรรยากาศ The Shock กันเลยทีเดียว

สุดท้ายขณะกำลังเดิน เจอคนจีนเดินย้อนกลับผมถามเค้าว่า ยูๆข้างบนมีอะไร สเปเชี่ยลมั่ง เค้าบอกว่า ดินมันเป็นโคลน เดินแล้วอันตราย ไอกลับดีกว่า โอเค ไอเชื่อยูล่ะกัน กลับดีกว่า เลยได้ภาพแค่นี้

ก่อนจะไปเห็นเด็กนักเรียนมายืนต่อคิวยาว เพื่อยกหินอธิษฐาน ไม่รอช้าตีเนียนเป็นคนญี่ปุ่นไปยกกะเค้ามั่ง

 

5. Toufuku-Ji Temple : ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/tofukuji-temple/  Official : http://www.tofukuji.jp
เดินไปเข้าประตูผิด นึกว่า ประตูวัด ที่ไหนได้ มันคือ โรงเรียนอนุบาล อยู่หน้าวัดเลย

วัดนี้ต้องบอกว่า ผมมาผิดเวลาเพราะ จากที่ดูในเวปแล้ว ต้องมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะสวยมาก ตามรูปใน google

บางที google ก็ชอบพาเราหลงไปเจออะไรแปลก อย่างเช่น เด็กอนุบาลกำลังเรียนศิลปะในสวนสาธารณะ

หรือชอบหาทางจักรยานแปลกๆ แบบว่านั่งรถบัสคงไม่ได้เจอแน่ๆ

6. Sanjūsangen-dō  : ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/sanjusangendo-temple/   Official : http://www.sanjusangendo.jp/

ตอนแรกผมก็ไม่รู้นะคับ ว่าวัดนี้มีอะไร แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ เด็กนักเรียนทัศนศึกษาเยอะมาก บวกกับ ฝรั่งเยอะมาก แทบไม่เจอคนไทยเลย ผมก็งงเหมือนกันว่า ที่นี่มีอะไร

พอผมเข้าไปสิ่งที่ผมพบเจอนั่นก็คือ รูปปั้นทองคำเทวรูปพระโพธิสัตว์ จำนวน1001 รูป ผมนี่อึ้งเลย ไม่เคยเจอข้อมูลในหนังสือเที่ยวของไทยเลย(หรือว่าผมอ่านน้อยก็ไม่รู้) ข้างในเค้าห้ามถ่ายรูปผมเลยต้องเอารูปมาจาก google แปะแทนนะคับ

ที่เซ็งสุดๆเลย คือ มัคคุเทศญี่ปุ่นอธิบายอะไรสักอย่างบนหลังคา เด็กนักเรียน เอาแต่ “ว้าว” “สุเค่ย์” “โอ้โห้” เฮ้ย มันต้องน่าสนใจแน่ๆ ต้องมีอะไรสำคัญแน่ๆพอผมถามมัคคุเทศญี่ปุ่น เค้าก็ตอบภาษาอังกฤษไม่ได้ ปล่อยให้ชาวไทยคนนึง นั่งงงไป (T T)


7. Kiyomizu-dera : ประวัติให้อ่าน : http://www.talonjapan.com/kiyomizu-dera/ Official : http://www.kiyomizudera.or.jp/

วัดนี้ไม่ต้องพูดเยอะคับ ที่ hothit ของไทยโนอยู่แล้ว สำหรับ วัดน้ำใส ได้ยินเสียงไทย ตั้งแต่ขึ้นแล้ว ผมก็บ้าขี่จักรยานขึ้นไปบนยอดเขา พอขึ้นไปหาที่จอดจักรยานไม่ได้อีก เซ็งสุดๆ หานานมากกว่าจะเจอ ต้องไปแอบตามหรืบเอา

คงไม่ลงรูปอะไรมากนะคับ เพราะน่าจะคุ้นเคยอยู่แล้ว

ชิมชาเขียวญี่ปุ่นแบบเข้มข้นไม่มีน้ำตาลของเกียวโต รู้สึกสดชื่นมาก

ขอบคุณมากสำหรับพาหนะในวันนี้ที่พาผมไปเที่ยว

ขาตอนลงไหลได้เลย

ฝนตกทั้งวัน แต่ฟ้าหลังฝนยังไงก็สวยอยู่แล้ว พอเอาจักรยานไปคืน ผมเลยบอกเจ้าของร้านว่า “ไอเชื่อยูแล้ว impossible for 2 route จริงๆ” เจ้าของร้านหัวเราะ คงคิดในใจ “กูบอกแล้ว ไม่เชื่อ 555” เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่นะคับเจ้าของร้าน ยังไม่ได้ไปวัด Highlight ในตำนานเลย

เดี๋ยวมาเขียน Day 2 ต่อนะคับ

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ goodgodth

โปรดรอติดตามชมตอนต่อไปได้ที่นี่ค่ะ http://travel.sanook.com/1395557/