"ที่เที่ยวหน้าฝน" 4 ภาค ของไทย..ไปแล้วฟินลืม!!!
หน้าฝนนี้ ไม่ต้องกลัวเหงา..หยิบเป้ จัดกระเป๋า ออกท่องเที่ยวลุยฝนบนเส้นทางธรรมชาติ 4 ภาคของไทย..ที่สวยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ภาคกลาง
1. แพเธค แพคาราโอเกะ ต้องแพล่องในเขตเมือง
เส้นทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ชื่นชอบความสนุกสนานในราคาประหยัด เน้นความบันเทิง และเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง เส้นทางล่องแพสายนี้จะสตาร์ทจากจุดนัดลงแพ ที่ท่าน้ำหน้าเมือง ล่องผ่านจุดบรรจบของแม่น้ำสองสาย แควใหญ่-แควน้อย ชมแม่น้ำสองสี (ที่เห็นได้ชัดในฤดูฝน) ย้อนสายน้ำไปตามแควน้อย พอล่องพ้นเขตเมืองที่ห้ามใช้เสียงแล้ว ความสนุกสนานก็จะเริ่มต้นบรรเลง จะร้องเพลง หรือเต้นรำก็ตามอัธยาศัย ล่องไปประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงจุดจอดแพสำหรับพักค้างคืน (หลายแพมีบริการห้องพักปรับอากาศ และห้องอาบน้ำบนฝั่งไว้ให้บริการ สำหรับคนที่ไม่อยากนอนบนแพ) รุ่งเช้าแพพักก็จะพาล่องกลับในเส้นทางเดิม หากไม่ต้องรีบกลับอยากแวะเที่ยวสบาย ๆ ก็สามารถแวะขึ้นไปเยี่ยมชมแม่ชีลอยน้ำที่วัดถ้ำมังกรทอง และสุสานสัมพันธมิตร (ช่องไก่) ได้
*** ในเขต อ.เมือง ยังมีรีสอร์ทที่ให้บริการห้องพักบนแพที่สะดวกสบาย (แพพักอยู่กับที่ ไม่ล่อง) และแพอาหาร ที่มีทั้งแบบแพจอดอยู่กับที่ และแพที่ให้บริการพาล่องทานอาหารพร้อมชมวิว เส้นทางยอดนิยม คือเส้นทางล่องจาก หน้าเมืองไปตามแม่น้ำแควใหญ่ ถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว แล้วล่องกลับ ***
2. นั่งช้าง-ล่องแพไม้ไผ่ ตามแคมป์ช้าง อ.เมือง อ.ไทรโยค อ.สังขละบุรี (เดือนกันยายน – พฤศจิกายน)
- กิจกรรมนั่งช้าง-ถ่อแพในแม่น้ำแคว สามารถทำได้ตลอดทั้งปี มีให้บริการตามแคมป์ช้างต่าง ๆ ทั้ง หมู่บ้านช้างเมืองสิงห์ ปางช้างไทรโยค อ.ไทรโยค และที่ แคมป์ช้างทวีชัย อ.เมือง
- ช่วงหน้าฝน ป่าสีเขียว น้ำในลำธารไหลแรง กิจกรรมสนุก ๆ ที่ไม่ควรพลาดคือ ทริปนั่งช้างเที่ยวป่าที่หมู่บ้านกองม่องทะ แล้วล่องแพออกมาตามสายน้ำของแม่น้ำรันตี อ.สังขละบุรี
3. ล่องแพทวนน้ำ แล้วปล่อยลอยคอ อ.ไทรโยค
กลายเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวยอดฮิตของที่พักในแถบ อ.ไทรโยค ไปแล้ว หลาย ๆ โรงแรม รีสอร์ทจะนำนักท่องเที่ยวนั่งแพไม้ไผ่ แล้วใช้เรือลากทวนกระแสน้ำแควน้อยขึ้นไป จากนั้นขากลับจะปล่อยให้นักท่องเที่ยวใส่ชูชีพแล้วลอยคอตามน้ำกลับมาขึ้นยังที่พัก โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งป่าเขียว ภูเขา ถ้ำ น้ำตก (ขึ้นอยู่กับทำเลของแต่ละรีสอร์ท) ที่พักที่มีกิจกรรมล่องแพแบบนี้ อาทิ บ้านริมแคว แพริมน้ำ, โรงแรมริเวอร์วิลเล็จ, หินตกริเวอร์แคมป์, ริเวอร์แควรีโซเทล, ไทรโยควิวราฟท์, เดอะฟอร์เรสท์ เป็นต้น
4. แพพัก ตกปลา เหนือเขื่อน อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี และ อ.ศรีสวัสดิ์
นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการออกไปพักผ่อนด้วย “กีฬาตกปลา” บริเวณเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ และเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ นับเป็นแหล่งตกปลาชั้นดีบางมุมของที่นี่...ไม่มีแพติดเครื่องเสียงดัง ๆ หรือแพพักหลังใหญ่ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา แต่มีชาวแพท้องถิ่นที่รู้จักหมายตกปลาดี ๆ มีแพพักหลังเล็ก ๆ และทำเลสงบ ๆ พร้อมอาหารพื้นบ้านแบบเรียบง่าย ไว้รองรับลูกค้าผู้ชื่นชอบการตกปลาโดยเฉพาะ
5. ล่องแพเปียกกลางทะเลสาบ แล้วมาพักสบายในรีสอร์ทเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์
สำหรับใครที่อยากมาล่องแพ เล่นน้ำ ดื่มด่ำกับธรรมชาติสวย ๆ และผืนน้ำกว้าง ๆ ของทะเลสาบเหนือเขื่อน ที่บริเวณบ้านท่ากระดาน และท่าหม่องกระแทะ อ.ศรีสวัสดิ์มีรีสอร์ทและแพพักหลายแห่ง เตรียมกิจกรรมสนุก ๆ แบบนี้ไว้รอต้อนรับ ด้วยการพานักท่องเที่ยวสวมชูชีพนั่งแพเปียก แล้วล่องไปในอ่างเก็บน้ำกว้าง ใครอยากนั่งสบายไปบนแพชิลล์ ๆ หรือโดดลงเล่นน้ำ เกาะตามแพไป ก็เลือกได้ตามอัธยาศัย
ภาคเหนือ
“ขับรถเที่ยว 3 เส้นทางเหนือฟ้า” ในภาคเหนือ ในช่วงหน้าฝน
3 เส้นทางเหนือฟ้า เป็นโครงการที่เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดที่มีเขตติดต่อกับจังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ และน่าน โดยได้กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวไว้ 3 เส้นทาง โดยแต่ละเส้นทางจะพบกับไฮไลท์ทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่มีเสน่ห์ รวมถึงมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสำหรับการเดินทาง ดังนี้
1. เส้นทางแห่งความสุข : อุตรดิตถ์ (อ.ลับแล) - จ.สุโขทัย เส้นทางนี้ตั้งบนทางหลวงหมายเลข 1041 แล้วเลี้ยวขวาอำเภอศรีสัชนาลัยบนทางหลวงหมายเลข 102 โดยจะพบแหล่งท่องเที่ยว อาทิ พิพิธภัณฑ์ลับแล วัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ กลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านนาต้นจั่น โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย
2. เส้นทางแห่งความสนุก : แพร่ (อ.ลอง) - จ.ลำปาง เส้นทางนี้ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 1023 และทางหลวงหมายเลข 11 โดยจะพบแหล่งท่องเที่ยวแห่งความสนุก อาทิ วัดศรีดอนคำ กาแฟแห่ระเบิด บ้านศิลปินแห่งชาติ แม่ประนอม ทาแปง จ.แพร่ กาแฟถิ่นไทย ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และวัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง
3. เส้นทางแห่งความโรแมนติก : น่าน (อ.ท่าวังผา) - จ.พะเยา เส้นทางนี้ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 1080 และทางหลวงหมายเลข 1148 โดยจะพบกับแหล่งท่องเที่ยวแห่งความโรแมนติก อาทิ หอศิลป์ริมน่าน วัดหนองบัว อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จ.น่าน โครงการหลวงปังค่า วัดนันตาราม และวัดพระนั่งดิน จ.พะเยา
ภาคอีสาน
ชมความสวยงามของทุ่งหญ้าเพ็กสีเขียว และความสดใสของดอกกระเจียวสีขาว สีเขียว และสีชมพูอมม่วง ที่ล้อสายหมอกหยอกสายลมในช่วงหน้าฝน กับเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2558 ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ พร้อมสัมผัสความสวยงามทางธรรมธาติของแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง อาทิ น้ำตกไทรทอง และจุดชมวิวผาหำหด
ภาคใต้ “ล่องแพพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร” และ “เที่ยวแบบ Eco- Tourism จังหวัดพังงา”
1. ล่องแพพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
“ดินแดนแห่งภูเขาเขียว เที่ยวล่องแพ แลหมอกปก น้ำตกงาม ลือนามผลไม้” คือ คำขวัญประจำอำเภอพะโต๊ะ ซึ่งเป็นดินแดนที่หลากหลาย อุดมสมบูรณ์ อากาศอันแสนบริสุทธิ์ ทั้งยังมีผืนป่าเป็นแหล่งต้นน้ำหลายสายที่ไหลคดเคี้ยวมาตามขุนเขา บางช่วงเป็นแก่งน้ำขนาดใหญ่ หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ พะโต๊ะ จึงได้ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมผจญภัยในคลองพะโต๊ะ และ “การล่องแพพะโต๊ะ” ตลอดทั้งปี โดยเริ่มตั้งแต่คลองต้นน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ ชมสัตว์ป่าที่น่าสนใจ ได้แก่ ค่างแว่นถิ่นใต้ ลิง นกเงือก ซึ่งหากินอย่างอิสระในป่าธรรมชาติริมคลอง จากนั้นชมสวนทุเรียน สวนกาแฟ และสวนมังคุด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเดินป่า ชมป่าต้นน้ำ พักค้างแรมแบบแค้มปิ้ง และขี่ช้างเที่ยวป่าชมสวน โดยกิจกรรม “ล่องแพพะโต๊ะ” ได้รับรางวัลดีเด่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจาก ททท. ด้วย
2. "5 ที่เที่ยวหน้าฝน" แบบประหยัด ในพังงา ที่ไม่ไป แล้วจะไม่มีวันรู้
ต้องลองสักครั้งกับการท่องเที่ยวหน้าฝนในเขตภาคใต้ ในจังหวัดพังงา ที่มีดีไม่แพ้ภาคอื่นๆ ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชาวประมง วนอุทยานและการล่องเรือชมป่าไทรย้อย ซึ่งจังหวัดพังงาเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวของภาคใต้ ที่มีเสน่ห์และความงดงามในช่วงหน้าฝนไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเที่ยวแบบ Eco-Tourism เน้นแนววิถีชีวิต ชมเมืองเก่า โดยมีแหล่งท่องเที่ยวแนะนำดังนี้
Little Amazon ล่องเรือชมป่าไทรย้อย 100 ปี คลองสังเหน่ : ล่องเรือเที่ยวชมความงาม อิงแอบธรรมชาติรอบตัวไปกับคลองสังเหน่ คลองที่มีต้นสังหลา (ตีนเป็ดน้ำ) ขึ้นอยู่ทั่วไป พร้อมกับชมความงามต้นไทรย้อยอายุกว่า 100 ปี และสัตว์ป่าหายากนานาชนิด เช่น งูปล้องทอง งูเขียว งูเหลือม นกนานาชนิด เรียกได้ว่าที่นี่เป็นอเมซอนเมืองไทยก็ไม่ผิด
วนอุทยานสระนางมโนราห์ หรือ ธารน้ำตกสระนางมโนห์รา อยู่ในเขตตำบลนบปริง อำเภอเมือง สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าที่ร่มรื่น มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อยู่มาก ลักษณะเด่นของวนอุทยานแห่งนี้ คือ ธารน้ำตกที่เกิดจาก ลำธารไหลจากไหล่เขาตกลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ตลอดปี ระยะทางโดยประมาณของเส้นทางศึกษาธรรมชาติยาว 2 กิโลเมตร มีทั้งน้ำตกหลายแอ่งและถ้ำหลายที่สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวสำหรับสถานที่แห่งนี้ คือ ธรรมชาติที่ร่มรื่น อากาศที่เย็นสบายเหมาะกับการไปเที่ยวเล่นพักผ่อน
ตะกั่วป่าเมืองเก่า (Old Town) ตะกั่วป่าเมืองเล็ก ๆ ที่มองดูเงียบ ๆ แต่เพราะ "ความเงียบ" นี่จึงเป็นเสน่ห์ของที่นี่ ตะกั่วป่าเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นที่รู้จักของชนหลายเชื้อชาติในชื่อ "เมืองตะโกลา" เนื่องจากเป็นเมืองท่าจอดเรือ เป็นศูนย์กลางการค้า และเป็นเส้นทางลัดขนสินค้าข้ามคาบสมุทร ตึกแถวโบราณบริเวณนี้ สันนิษฐานว่าสร้างพร้อมกับเมืองตะกั่วป่า ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างจีนและชิโนโปรตุกีส ซึ่งแม้ตัวอาคารจะทรุดโทรมไปตามกาลเวลาแต่ยังคงคุณค่าแห่งอดีตกาลเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ตึกขุนอินทร์ เป็นบ้านอาศัยของ ร.อ.ท. ขุนอินทรคีรี ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอตะกั่วป่า ตึกขุนอินทร์เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรม คือ เป็นอาคารรูปทรงชิโนโปรตุกีสประยุกต์ เดิมหลังคามุงด้วยกระเบื้องหลังเต่า ภายหลังตึกแห่งนี้ชำรุดทรุดโทรมลงจึงได้ดำเนินการซ่อมแซมตามรูปเดิม และมุงหลังคาด้วยกระเบื้องลอน ปัจจุบันให้ถ่ายภาพจากด้านนอกเท่านั้นไม่สามารถเข้าไปด้านในได้
บ้านสามช่อง หมู่บ้านชาวประมงชาวมุสลิม ซึ่งมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพประมงเป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณอ่าวพังงาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูล จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ