เที่ยวเชียงใหม่..บนเส้นทางเชียงดาว ขุมทรัพย์ความงดงามของภาคเหนือ
ในวันที่ฝนตกหนักกรุงเทพ แต่แดดเปรี้ยง ณ เชียงใหม่
ทริปนี้หลายคนหวั่นใจตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง เพราะว่าฝนตกหนักมากจนน้ำท่วมกรุงเทพ และยังมีพยากรณ์อากาศอีกว่าฝนจะตกทั่วประเทศไทยเพราะว่าพายุเข้า แต่แล้วเมื่อเราออกเดินทางวันศุกร์ ไปถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ในวันเสาร์ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า แดดแรงมาก
ทริปนี้จุดมุ่งหมายการเดินทางของเราคือจะเริ่มเดินทางจากไกลมาใกล้ เราแวะไปที่เชียงดาวกันก่อน วันนี้เราแวะเยี่ยมชมวิว 3 ที่พักด้วยกันซึ่งเป็นโฮมสเตย์อยู่ใกล้ๆกันและหลายคนอยากจะมานอนที่นี่เหลือเกิน แต่ว่า วันที่เราไปห้องเต็มซะก่อน ที่พักที่กำลังเป็นที่นิยม และโด่งดัง นั่นคือระเบียงดาว และฉันยังได้รู้จักกับอีก 2 โฮมสเตย์ใกล้ๆกัน นั่นคือ บ้านวิวดอยหลวง และ บ้านสายหมอก เดินสำรวจวิวรอบข้างโฮมสเตย์และสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาอีกในปีหน้า คราวนี้จะต้องแวะไปนอนแน่นอน วันนี้แค่ผ่านมาชมวิวก่อน
เราเดินทางไปถึงเชียงดาว ผ่านถ้ำเชียงดาว แวะขึ้นเขาอันคดเคี้ยวและชัน ทางปูน ต้องใช้ความชำนาญในการขับรถมากๆ
ขึ้นไปเจอวิวสวยๆ อากาศเย็นๆ บอกได้เลยว่าหายเหนื่อย
อยากจะบอกว่า ตอนนั้น 11 โมง อากาศที่สัมผัสได้คือเย็น ๆ ถามพี่เจ้าของโฮมเสตย์บอกว่า ตอนค่ำจะหนาวมาก จนต้องจุดไฟผิงกัน
วิวจากบ้านสายหมอก
ทุกคนหามุมถ่ายรูป แม้จะไม่ได้นอนที่นี่ แต่เจ้าบ้านก็ยินดีต้อนรับ ให้พวกเราเข้าไปถ่ายรูปได้
หมู่บ้านเล็ก ๆ เดินชมวิวกันไป
ชิงช้าของบ้านวิวดอยหลวง
สมควรแก่เวลา เราสัญญาว่าจะกลับมาใหม่อีกครั้งในปีหน้า เราออกเดินทางกันต่อมุ่งหน้าสู่ ม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่อำเภอแม่ริม ม่อนแจ่มยังเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวยอดนิยมและเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อ.แม่ริม สามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ มีดอกไม้หลายชนิด ตลอดจนกระหล่ำปลี และยังมีร้านอาหารบริการด้วย
เพลิดเพลินถ่ายรูปกับดอกไม้และแปลงกระหล่ำปลี ยังมีผักผลไม้ให้เลือกซื้อกันราคาไม่แพง
เคพกูสเบอรี่ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง สามารถช่วยป้องกันไข้หวัด ภูมิแพ้ และยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ผิวพรรณสวย ผมสวยดกดำ วันที่ฉันเดินทางฉันเจ็บคอมาก และได้ซื้อเคพกูสเบอรี่มา 5 กล่อง 200 บาท นั่งกินไปมื้อละ 1 กล่องจบทริปกลับบ้านอาการเจ็บคอหายไปเลยค่ะ หากใครไปเที่ยวก็ลองไปชิมกันค่ะ สรรพคุณดีขนาดนี้พลาดได้ไง
นอกจากเคพกูสเบอรี่ แล้วฉันยังได้เสาวรสกลับมา 1 ถุง 50 บาทค่ะ หลายคนอาจจะชอบกินกับเกลือ แต่ดิฉันชอบกลิ่นน้ำปลาเลยเหยาะน้ำปลาใส่ลงไป อร่อยสดชื่นค่ะ
ออกจากม่อนแจ่ม เราเดินทางต่อ เพื่อไปดอยอินทนนท์ วันนี้เราจะนอนที่บ้านแม่กลางหลวง ซึ่งเราได้โทรจองล่วงหน้าแล้ว
บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ในหุบเขา เราสัมผัสถึงอากาสเย็นๆสบายๆ และท้องทุ่งนาขั้นบันได มีพี่ๆกระเหรี่ยงปกาเกอะญออาศัยอยู่ เข้านี้ตื่นกันแต่เช้า เพื่อเดินทางไปน้ำตกรักจัง หรือน้ำตกผาดอกเสี้ยว เรารอพี่ไกด์ท้องถิ่นซึ่งเป็นพี่กระเหรี่ยงปกาเกอะญอนำทางพวกเรา ค่าไกด์นั้นไม่แพงเลย เพียง 300 บาทต่อ 10 คน เราจะใช้วิธีเดินแค่ขาเดียว คือให้รถไปส่งแล้วเดินต่อไปน้ำตก แล้วเดินกลับที่พัก ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
หนทางก็เดินสบาย ๆ มีบางช่วงอาจจะต้องเดินลงเกาะไม้ไผ่กันแบบนี้บ้าง
มุมนี้ที่ทุกคนจะต้องมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นระลึก
เดินต่อไปยังที่พัก ระหว่างทาง เจอทุ่งนาแสดงว่าใกล้ถึงที่พักแล้ว
อย่าลืมแวะชิมกาแฟฟรีของพี่สมศักดิ์กันด้วยนะคะ ถ้าติดใจก็อย่าลืมแวะซื้อกาแฟกลับบ้านกันด้วยนะคะ 250กรัม 150 บาท และ 500 กรัม 250 บาท
นอกจากกาแฟพี่สมศักดิ์ ใกล้ๆ ที่พักของเรายังอยู่ใกล้ๆกับร้านกาแฟชื่อว่า อุ่มเอิบ ว่าง ๆ ก็ลองไปชิมกันได้ ตั้งอยู่ชายท้องทุ่งนาริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก ๆ
ใครสนใจจะไปนอนที่แม่กลางหลวงก็ติดต่อพี่อุ่น เจ้าหน้าที่ดูแลรัฐวิสาหกิจชุมชนแม่กลางหลวงได้ค่ะ
เบอร์โทร.093-131-3850
https://www.facebook.com/maekalngluang
วันนี้ลาไปก่อน แล้วเจอกันทริปหน้านะคะ
เอื้อเฟื้อเรื่องราวและภาพถ่าย นางสาวสุจิตรา เชาว์ดี
เว็บ https://www.facebook.com/sujitrach
เพจตะลอนเที่ยวไปกับตาล https://www.facebook.com/438192926268514
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ