ท่องเที่ยวสไตล์พิศาล : มหัศจรรย์ทะเลอันดามัน
![ท่องเที่ยวสไตล์พิศาล : มหัศจรรย์ทะเลอันดามัน](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/main_sea.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯเช้ากลางเดือนตุลาคมไปยังจังหวัดภูเก็ต ถึงสนามบินภูเก็ตก็ไปยังเคาน์เตอร์รถเช่า Avis ที่เราจองรถล่วงหน้าไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ โดยตอนจองรถก็แจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับจองว่าขอรถใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ตกลง พอไปถึงเคาน์เตอร์เพื่อรับรถ ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยรถบอกว่าไม่มีรถใหม่ตามที่เราจองไว้ เราก็บอกว่าตอนเราจองเจ้าหน้าที่รับจองตกลงจะให้รถใหม่ ทำไมมาแล้วไม่ได้ คนรับจองกับคนปล่อยรถเป็นคนละคนกัน ไม่ประสานงานกัน แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจดี upgrade ให้เราได้รถใหญ่ขึ้นในราคาเดิม แต่รถก็ยังเป็นรถสภาพค่อนข้างเก่า
เราขับรถจากสนามบินไปยังหาดกะตะน้อย เพื่อไปพักที่โรงแรมหม่อมตรีวิลลารอแยล เรามาพักที่นี่หลายครั้งแล้ว เพราะชอบสถานที่และบรรยากาศที่นี่ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเล็กๆ อยู่บนเนินเขาติดทะเล มีทางเดินส่วนตัว เดินลงหาดกะตะน้อยข้างโรงแรมได้อย่างสะดวก เราจองห้องด้านที่เป็นตึกสร้างใหม่ ห้องวิลลา โชคดีได้ห้องชั้นบนสุด
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/1.jpg)
ภายในห้องพัก มีดอกไม้และผลไม้พร้อมจดหมายต้อนรับของโรงแรม
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/2.jpg)
ห้องพักวิลลามีระเบียงส่วนตัวทุกห้อง มองเห็นวิวทะเลชัดเจน
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/3.jpg)
มองจากระเบียงไปทางซ้ายมือ จะเห็นหาดกะตะน้อย สวยงาม
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/4.jpg)
ตอนลงทะเบียนก่อนเข้าห้องพัก ทางโรงแรมจัดเตรียมน้ำผลไม้ ผ้าเย็นและแจกกระเป๋าผ้าคุณภาพดีขนาดใหญ่ 1 ใบ เพื่อใส่ผ้าเช็ดตัว และของใช้ที่จำเป็นสำหรับลงไปเล่นน้ำทะเลที่ชายหาด
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/5.jpg)
ทางเดินไปยังห้องพัก
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/6.jpg)
วันรุ่งขึ้นเราตื่นแต่เช้า เพื่อลงไปเดินเล่นที่ชายหาดกะตะน้อยข้างโรงแรม โรงแรมมีทางเดินส่วนตัวลงไปที่ชายหาดกะตะน้อย
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/7.jpg)
หาดกะตะน้อยยามเช้า มีคนมาวิ่งออกกำลังแต่เช้า
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/8.jpg)
จากหาดกะตะน้อย มองไปยังโรงแรมที่อยู่บนเนินเขา
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/9.jpg)
หลังจากนั้นเราก็เดินกลับโรงแรมเพื่อทานอาหารเช้า เดินชมวิวระหว่างทางไปห้องอาหารเช้า
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/10.jpg)
ทางเข้าห้องอาหารเช้าอยู่ทางด้านซ้ายมือ
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/11.jpg)
ห้องอาหารเช้า
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/12.jpg)
อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทย เทศครบครัน มีขนมครกทุกเช้า กาแฟสด และน้ำผลไม้ปั่นตามสั่ง
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/13.jpg)
ผลไม้ เค้กใหม่สด มีหลากหลาย
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/14.jpg)
ห้องอาหารเป็นห้องที่วิวสวยที่สุดของโรงแรม เพราะติดทะเล
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/15.jpg)
มาพักหลายครั้งไม่เคยเจอเจ้าของ มาครั้งนี้โชคดีเจอหม่อมตรี (หม่อมหลวง ตรีทศยุทธ เทวกุล) เลยขอถ่ายรูปและนั่งคุยด้วย หม่อมตรี (เสื้อขาว)เล่าให้ฟังว่าได้สร้างโรงแรมหลายแห่งที่ภูเก็ต เช่น โรงแรม Le Meridien โรงแรม Phuket Yacht Club โรงแรม Mom Tri 's Boat House โรงแรม Mom Tri 's Villa Royale ฯลฯ หม่อมตรีบริหารโรงแรมเหล่านี้มามีกำไรตลอด แต่เมื่อมีคนสนใจขอซื้อได้ราคาดี หม่อมตรีก็ขายโรงแรมเหล่านี้ไปหมด เหลือไว้แต่โรงแรมหม่อมตรีวิลลารอแยลเพียงแห่งเดียวที่ไม่ยอมขาย แม้จะมีคนมาให้ราคาดีมาก เพราะโรงแรมนี้เป็นบ้านเก่าที่หม่อมตรีอาศัยอยู่ ต่อมาได้มีการสร้างโรงแรมขึ้นในพื้นที่นี้ หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว รถตู้จากบริษัททัวร์ที่เราซื้อทัวร์ไว้ ก็มารับเราที่โรงแรม เพื่อลงเรือไปเที่ยว อ่าวลิง ดำนำ้ดูปะการัง อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา และอ่าวไข่
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/16.jpg)
นักท่องเที่ยวกำลังเดินลงเรือ
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/17.jpg)
เรือเร็วขนาดเล็กรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 30-40 คน
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/18.jpg)
จุดแรกที่เราแวะคืออ่าวลิง ซึ่งเป็นเนินเขาไม่มีหาดทราย ลิงจะออกมาหากินบนต้นไม้หรือโขดหินริมทะเล นักท่องเที่ยวก็จะมาให้อาหารลิงและถ่ายรูป น้ำบริเวณนี้ใสและสีสวย
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/19.jpg)
จากอ่าวลิง ไกด์ก็นำเราไปยังจุดดำนำ้ดูปะการัง
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/20.jpg)
บริเวณที่เราดำนำ้ดูปะการัง มีปลาไม่มาก ปลาไม่ได้มาว่ายวนเวียนรอบตัวเราเหมือนก่อน เพราะทางเจ้าหน้าที่ห้ามให้อาหารปลา อยากให้ปลาหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ ปะการังบริเวณนี้ก็มีน้อยและไม่สวยเหมือนเดิม
หลังจากดำน้ำดูปะการังแล้ว เราก็แวะไปที่ถ้ำไวกิ้ง ไกด์เล่าให้ฟังว่า ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และมีภาพเขียนสีโบราณอายุกว่าร้อยปีปรากฎอยู่บนผนังถ้ำ ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือกลไฟ บางภาพก็มีลักษณะคล้ายเรือไวกิ้ง จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำไวกิ้งนั่นเอง สันนิษฐานว่า ภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือชาวประมง นักเดินเรือ หรือพวกโจรสลัดที่มาอาศัยหลบคลื่นลมมรสุมที่นี่ หรือขนถ่ายสินค้าภายในถ้ำ ถ้ำไวกิ้งนี้แต่เดิมเคยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมในถ้ำได้ แต่ปัจจุบันถ้ำดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้าม เพราะเป็นพื้นที่สัมปทานรังนกของเอกชน นักท่องเที่ยวได้แต่เยี่ยมชมทิวทัศน์ด้านหน้าถ้ำไวกิ้งเท่านั้น
เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้เสด็จประภาสถ้ำนี้ และทรงพระราชทานนามถ้ำนี้ใหม่ว่า ถ้ำพญานาค ตามรูปร่างของหินก้อนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายเศียรพญานาค
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/21.jpg)
ถ้ำไวกิ้งหรือถ้ำพญานาค
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/22.jpg)
จากนั้นเราก็ไปที่อ่าวปิเละ ซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงปิดล้อมรอบด้าน มีลักษณะคล้ายทะเลในหรือ Lagoon
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/23.jpg)
พอเข้าไปด้านใน จะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกตและใสเหมือนกระจกเงา
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/24.jpg)
อ่าวปิเละเกิดขึ้นจากการพังทลายของผนังถ้ำใต้ทะเล ที่ทนรับน้ำหนักของหินปูนหลายหมื่นตันที่อยู่ด้านบนไม่ไหว เกิดเป็นแอ่งกว้างเกือบเป็นรูปทรงกลม กลายเป็นทะเลในหรือ Lagoon ที่มีน้ำทะเลสีมรกตใสเหมือนกระจก โดยคาดว่าเกิดขึ้นมาเมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/25.jpg)
เมื่อเรือแล่นอ้อมหน้าผาสูงใหญ่ จนมาถึงปากทางเข้าแคบๆ ทันทีที่เรือผ่านเข้าไป ก็จะเจออ่าวใหญ่ น้ำทะเลค่อนข้างนิ่งสีมรกต สถานที่นี้เคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์เจมส์บอนด์ เรื่อง Tomorrow Never Dies เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก
จากอ่าวปิเละ เราก็ไปยังอ่าวมาหยา ซึ่งเป็นจุดเด่นของการเที่ยวครั้งนี้ อ่าวมาหยามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพราะใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง The Beach ซึ่งนำแสดงโดย ลีโอนาโด ดิคาปริโอ นักแสดงชื่อดัง
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/26.jpg)
อ่าวมาหยาตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็ก รูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน น้ำทะเลสีเขียวสด ใสจนมองเห็นพื้นทราย หาดทรายขาว ทรายละเอียด มีทิวทัศน์ที่สวยงาม
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/27.jpg)
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในวันนั้น จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/28.jpg)
นักท่องเที่ยวบางคนก็ฝังตัวเองอยู่ในทรายที่ละเอียดเหมือนผงแป้ง
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/29.jpg)
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/30.jpg)
บางคนก็เลือกมุมสงบลงแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต บางคนก็ปีนขึ้นไปหามุมสวยๆ โพสต์ท่าให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
จากอ่าวมาหยา เราก็ไปที่เกาะไข่ หาดทรายที่เกาะไข่เต็มไปด้วยเปลือกหอยและปะการัง ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/31.jpg)
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/32.jpg)
ถ้าไม่ลงเล่นน้ำ ก็สามารถเช่าเก้าอี้นอนพักผ่อนได้
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/33.jpg)
หลังจากแวะพักผ่อนที่เกาะไข่ประมาณ 1 ชั่วโมง ไกด์ก็พาพวกเรากลับท่าเรือที่ภูเก็ต และรถตู้บริษัททัวร์ก็พาไปส่งที่โรงแรม ตอนเย็นเราก็ไปทานอาหารเย็นที่ Mom Tri's Kitchen ที่อยู่ภายในบริเวณโรงแรม เราได้โต๊ะอาหารติดทะเลเพราะจองล่วงหน้าไว้
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/34.jpg)
Mom Tri's Kitchen เป็นร้านอาหารชื่อดังของภูเก็ต วันหยุดราชการลูกค้า(ที่ไม่ได้พักที่โรงแรมและที่พักในโรงแรม)จะแน่นมาก ต้องโทรจองล่วงหน้า
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/35.jpg)
ที่นี่บรรยากาศดีมาก ติดทะเล อาหารอร่อยขึ้นชื่อ หม่อมตรีจะเดินทางไปทั่วโลก เจอเมนูอาหารอะไรอร่อยๆ จากต่างประเทศ ก็จะนำมาดัดแปลงเป็นเมนูพิเศษในร้านอาหารหม่อมตรี
วันรุ่งขึ้นเราก็ขับรถไปเที่ยวตลาดสดริมหาดราไวย์
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/36_1.jpg)
ตลาดสดที่หาดราไวย์จะมีกุ้งทะเลตัวใหญ่ ปลาเก๋าเป็นๆ และปูให้ลูกค้าเลือกซื้อ จะซื้อกลับบ้านหรือซื้อทานที่นี่ก็ได้ จะได้ทานอาหารทะเลสดๆ ใหม่ๆ จากทะเล
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/37.jpg)
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/38.jpg)
จุดเด่นของตลาดที่นี่ก็คือมีกุ้งมังกรเจ็ดสีเป็นๆขาย ถ้าตัวใหญ่เกินตัวละ 2 กิโลก็จะขายกันกิโลละ 3,000-3,500 บาท แต่ส่วนใหญ่ที่ขายกันจะเป็นตัวขนาดกิโลเศษๆขายกันกิโลละ ประมาณ 2,000-2,200 บาท
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/39.jpg)
ตลาดสดที่หาดราไวย์อยู่ติดทะเล ชาวบ้านจะออกเรือหาปลา ปู กุ้ง มาขายที่นี่ทุกวัน
![](http://s.isanook.com/tr/0/ud/279/1396769/40.jpg)
ตลาดสดที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน มาเที่ยวและทานอาหารที่ตลาดนี้เป็นประจำ
หลังจากเที่ยวชมตลาดอาหารทะเลสดที่หาดราไวย์แล้ว เราก็กลับโรงแรม ทานอาหารเย็นที่โรงแรมอีกมื้อ วันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ขับรถไปส่งรถเช่าที่สนามบิน โดยแวะเติมน้ำมันเต็มถังแถวถลาง เจอปั๊มน้ำมันก็รีบเติมน้ำมันให้เต็มถังเพื่อคืนรถเช่า ไม่แน่ใจว่าใกล้สนามบินจะมีปั๊มน้ำมันหรือไม่ ขับรถมาประมาณ 10 กิโลเมตรก็ถึงจุดส่งคืนรถ ทางเจ้าหน้าที่รถเช่า Avis บอกว่าน้ำมันไม่เต็มถัง เราก็บอกว่าเพิ่งเติมมาเต็มถังที่ถลาง แล้วก็ขับรถมาที่นี่เลย เพราะไม่แน่ใจว่าใกล้สนามบินจะมีปั๊มน้ำมันหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ Avis ก็ยืนกรานว่าน้ำมันไม่เต็มถัง เราก็คิดว่าขับรถจากที่เราเติมน้ำมันเต็มถังมาที่สนามบินก็ประมาณ 10 กิโลเมตร ถ้ารถใช้น้ำมัน 6-7 กิโลเมตรต่อลิตร อย่างมากก็คงขาดน้ำมันไม่ถึง 2 ลิตร ก็คงไม่เกิน 60 บาท ให้ไป 100 บาทก็น่าจะพอ แต่เจ้าหน้าที่บริษัทรถเช่า Avis บอกว่าไม่ได้ ทางบริษัทบอกว่าต้องจ่าย 435 บาท ซึ่งเราก็จำเป็นต้องจ่าย เพราะเครื่องบินจะออกแล้ว อยากให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเข้ามาดูแลเรื่องนี้หน่อยครับว่าถูกต้องยุติธรรมสำหรับผู้บริโภคหรือไม่ เจอมาด้วยตัวเองก็เลยมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าใครยังคิดที่จะเช่ารถจากบริษัทนี้อีกจะได้เตรียมตัวและเตรียมใจถูก