7-Eleven เป็นร้านสะด๊วกสะดวกซื้อที่เอะอะพอนึกอยากได้อะไร กินอะไร ถ้าคิดไม่ออกก็เดินไป 7-Eleven ใกล้บ้านก่อน รับรองมีชัวร์

แถมเดี๋ยวนี้ 7-Eleven ในบ้านเรายังมีสินค้าของกินของใช้มากมายให้เลือกช้อป (โดยเฉพาะของกิน) ที่เราคิดว่าไม่น่าจะมียังมีขาย เช่นกล้วยปิ้ง ข้าวโพดต้ม ฯลฯ เรียกได้ว่าครอบจักรวาล

แต่จะมีสักกี่คนทราบว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของ 7-Eleven นั้นมาจากร้านขายน้ำแข็งที่รัฐเท็กซัส อเมริกา จากนั้นจึงเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ขยายไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงประเทศญี่ปุ่นที่ต้องบอกว่ามี 7-Eleven มากที่สุดในโลก และรองลงมาก็เป็น 7-Eleven ในบ้านเรานี่แหละค่ะ

เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Sanook! Travel มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาสำรวจร้าน 7-Eleven Japan แบบที่เจ้าภาพใหญ่อย่าง CP all เป็นไกด์วีไอพีพาไปเอง ลองมาดูกันค่ะว่า 7-Eleven Japan มีอะไรที่แตกต่างจาก 7-Eleven ในบ้านเราบ้าง เรียกได้ว่าเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่แฟนพันธุ์แท้ 7-Eleven บ้านเราต้องลอยตัวซอยเท้าถี่ๆ แล้วบอกว่า “อยากได้ๆ” แน่นอน

1.เคาน์เตอร์นั่งทานอาหาร พื้นที่พิเศษในส่วนนี้หลายคนคงอยากให้มีใน 7-Eleven บ้านเรา ที่ญี่ปุ่น 7-Eleven โดยเฉพาะย่านตึกออฟฟิศในตัวเมือง ที่ช่วงเวลาทำงานถนนดูโล่ง ว่าง และก็ไม่ได้มีตลาด ร้านอาหารตามสั่งล้อมออฟฟิศเหมือนบ้านเรา ดังนั้น 7-Eleven ที่นั่นจึงเป็นเหมือนบ่อน้ำกลางทะเลทรายสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศในช่วงพักเที่ยง ที่ต้องใช้เวลาพักกลางวันในการหาของกินง่ายๆ ทานให้เสร็จก่อนเข้างานในช่วงบ่าย ดังนั้นถ้าคุณไปในช่วงเที่ยงพื้นที่บริเวณนี้อาจไม่ว่างสำหรับคุณ

2.เครื่องทำกาแฟสด คอกาแฟคงบอกว่าเป็นบริการที่เลอค่ามากเหตุเพราะคนญี่ปุ่นนิยมดื่มกาแฟมาก ดังนั้นเครื่องทำกาแฟสดที่ญี่ปุ่นจึงมีบริการทั้งแบบร้อนและแบบเย็น อุ่นใจได้ตลอดทั้งวันกับกาแฟรสชาติดี

3.เครื่อง Multi-Copy (มีเป็นบางสาขา) ถือเป็นอีกหนึ่งบริการสุดพิเศษเพราะเป็นได้ทั้งพริ้นท์เตอร์ ถ่ายเอกสาร ซื้อตั๋วทุกชนิด พริ้นท์รูปจากกล้องดิจิทัล

4.7 Bank ให้บริการทางด้านการเงินที่หลากหลายทั้งเปิดบัญชีแบบง่ายๆ ผ่านหน้าเว็บ เป็นเครื่อง ATM ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมแม้ในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมทั้งยังมีแต้มให้สะสมเพื่อสิทธิพิเศษต่างๆ ที่สำคัญมั่นใจในความปลอดภัยชัวร์

5. Tax Free Shop เป็นอีกหนึ่งบริการที่นักท่องเที่ยวน่าจะชื่นชอบเนื่องจากเมื่อคุณซื้อสินค้าเกิน 5,000 เยน คุณสามารถขอภาษีคืนได้ 8 % แบบง่ายๆ ที่เคาน์เตอร์ Tax Free ที่แยกตัวออกมาจากเคาน์เตอร์คิดเงินแบบปกติใน 7-Eleven

6.สินค้าของฝากยอดนิยม เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจเมื่อมีของฝากแบรนด์ดังซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องสำอางมาวางจำหน่ายไว้บนชั้นสินค้ามุมหนึ่งของ 7-Eleven Japan ทำให้นักท่องเที่ยวหาซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้นแถมยังเข้าสู่ระบบ Tax Free ได้แบบต่อเนื่องไปเลย

7.ห้องน้ำ น่าจะเป็นบริการที่เราอยากให้มีในบ้านเรามากที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะดูปลอดภัยและมีกระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมถนน ซึ่งที่ญี่ปุ่นนั้นก็ไม่เคยมองข้ามกับเรื่องสำคัญเหล่านี้ ดังนั้น 7-Eleven Japan จึงมีห้องน้ำให้บริการสำหรับลูกค้าทุกคน

นอกจาก 7 บริการอำนวยความสะดวกเหล่านี้แล้ว ในปัจจุบันเนื่องจากสังคมญี่ปุ่นเดินทางเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้มีจำนวนผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังสาวๆ รุ่นใหม่ยังออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงชีพเองแทนการเป็นแม่บ้านแบบยุคก่อนๆ และในบรรดาสาวๆ หนุ่มๆ ก็เลือกที่จะใช้ชีวิตโสดมากกว่าเลือกมีคู่เพราะค่าใช้จ่ายและภาระระยะยาวมีสูง จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ส่งผลให้อาหาร ของกินใน 7-Eleven ที่ญี่ปุ่นต้องปรับตัวทำออกมาขายแบบเป็นขนาดพอดีทานใน 1 มื้อ ไม่ใช่แพคใส่กล่องหรือห่อใหญ่ๆ เราจึงได้เห็นอาหาร ของสด ขนมหวานเป็นแพคขายแบบพอดีคำและกำลังดี

รวมทั้งยังใส่ใจเรื่องคุณภาพของอาหารซึ่งแบ่งเป็นเกรด 7 พรีเมียม กับ 7 Gold ที่ใส่ใจเรื่องเรื่องของวัตถุดิบจากโรงงานที่ถูกสุขลักษณะ รสชาติดีแบบที่ได้รับการยอมรับ ฉลากดีไซน์ให้อ่านและเข้าใจง่าย มีฉลากแสดงจำนวนแคลอรี่ของสินค้าแต่ละชิ้น และทั้งหมดนี้ยังมีราคาที่เหมาะสมอีกด้วย สำหรับความอร่อยในแบบ 7 Gold ยังการันตีรสชาติอร่อยเหมือนต้นตำรับจากภัตตาคาร โดยอาหารให้หมวด 7 Gold จะติดฉลากสีดำมีทั้งราเมนร้านดัง ชาเขียว แฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก ขนมหวานอย่าง Almond Choco Bar ,Waffle Cone Milk Vanilla, Milky Choux ฯลฯ 7-Eleven Japan จึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารมากคุณภาพ รสชาติดี และราคาเหมาะสม

ใครที่มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นและกังวลกับเรื่องอาหารการกิน 7-Eleven น่าจะเป็นอีกทางเลือกของแหล่งฝากท้องราคาประหยัดได้เป็นอย่างดี รับรองอร่อยทุกมื้อแน่นอนค่ะ

7 สิ่งมหัศจรรย์ กับ อภิ (มหา) อาหารๆ ใน 7-Eleven ญี่ปุ่น

7 สิ่งมหัศจรรย์ กับ อภิ (มหา) อาหารๆ ใน 7-Eleven ญี่ปุ่น4 / 16