นำเทรนด์ก่อนใคร " 8 ร้านเปิดใหม่ " น่าจับตามอง
วันนี้ทาง iPick แอพพลิเคชั่นที่คัดสรรร้านอาหารดี ๆ ได้นำเสนอ 8 คอนเซ็ปต์จาก 8 ร้านเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ ให้ได้ลองกัน
1. 2nd Yard
อาคารเก่าอีกหนึ่งอาคารในย่านเจริญกรุงที่กำลังฮอตในขณะนี้ได้กลายเป็นร้านแซนด์วิชอันน่าตื่นตาตื่นใจและไม่ควรพลาด ใครที่เข้าไปแล้วได้สัมผัสบรรยากาศร้านหรือเพลงที่เล่นข้ามไปมาระหว่างเพลงเพื่อชีวิตกับเพลงอิเล็กทรอนิกส์คงจะอดนึกถึงร้าน Escapade Burgers & Shake แห่งท่าพระอาทิตย์ไม่ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะร้าน 2nd Yard มีเพื่อนซี้และที่ปรึกษาเป็น เชฟแวน โรหิตรัตนะ และคุณกานต์ เลียงศรีสุข จาก Escapade
เมนูของร้านโฟกัสกับเมนูแซนด์วิชเท่านั้น เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยแต่ที่ร้านทำออกมาได้น่าประทับใจและเห็นถึงความครีเอทีฟได้อย่างชัดเจน โดยการผสมไส้และซอสในแบบใหม่กับขนมปังเซียบัตตาคุณภาพสูง “เราลองทำมาหลายจานมากด้วยการลองทั้งวัตถุดิบทั่วไปเข้ากับวัตถุดิบแปลก ๆ บางจานก็เวิร์ค บางจานก็ไม่” หนึ่งในทีมกล่าว
“เราทุ่มเททุกอย่าง ทั้งกายและใจเข้าไปในที่เล็ก ๆ แห่งนี้ ในที่ที่เป็นเสมือนสนามเด็กเล่นแห่งที่สองของพวกเรานอกเหนือจากงานประจำที่ทำทุกวัน” แซนวิชด์ปลาหมึกนั้นเป็นหนึ่งในจานที่พลาดไม่ได้ ด้วยการใช้รสเข้มข้นและจัดจ้านของขมิ้นผสมได้อย่างมีมิติจนเข้ากับปลาหมึกที่ทั้งกรอบและให้สัมผัสในการเคี้ยวได้อย่างเพลิดเพลิน และถ้าใครที่ชอบทานอาหารเผ็ด ๆ ลองแซนด์วิชปลาไหลที่มีซอสพอนซึกับพริกเขียว (550 บาท)
สำหรับใครที่ทานมังสวิรัติก็สามารถลองแซนด์วิชเห็ดที่เต็มอัดแน่นไปด้วยชีสมอสซาเรลลาเข้มข้นและชีสพาร์เมซานกับซอสโบนิโต (180 บาท) ที่ทั้งอร่อยและให้ความรู้สึกสุขไปกับชีสได้ไม่น้อย
ในส่วนของเครื่องดื่มนั้นจะเน้นหนักไปทางสมูธตี้และชา แต่ที่ร้านก็มีเหล้าขายเป็นแก้วแล้วแต่ว่าทางร้านจะมีอะไรมา เบียร์นำเข้าราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทและหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ สำหรับสมูธตี้เด่น ๆ ก็จะมี Lemon Breezy (65 บาท) และ Strawberry Morning (75 บาท)
โดยทุกเครื่องดื่มจะถูกมิกซ์มาอย่างดีเพื่อที่จะเสริมรสการทานแซนด์วิชชิ้นใหญ่ได้อย่างเอร็ดอร่อย แต่ก็อย่าพึ่งคิดว่าเมนูที่นี่จะมีเพียงเท่านี้ “เรามีอีกหลายไอเดียที่อยากจะทำออกมามาก แต่สำหรับตอนนี้เราอย่างทำให้คนคุ้นเคยกับเมนูที่มีก่อน ให้คุ้นเคยกับร้านและทีมงานของเรา” เจ้าของร้านบอกกับเรา
ที่ตั้ง: ถนนเจริญกรุง
เบอร์โทร: 095-898-8070
เวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 17:00-23:00 น.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008881
2. Ghignoni
Ghignoni (กีโยนี่) คือร้านไอศกรีมเจลาโต้ใหม่ล่าสุด นำเข้ามาจากประเทศต้นกำเนิดอย่างอิตาลี ซึ่งการันตีเนื้อสัมผัส รสชาติ และประสบการณ์กินเจลาโต้แบบแท้ โดยมีเชฟ Federico Delmonte เป็นเชฟเจลาโต้ประจำการที่นี่ ซึ่งเขาคือลูกศิษย์ของเชฟกีโยนี่
ผู้บุกเบิกร้านไอศกรีมเจลาโต้แห่งนี้ตั้งแต่ปี 1986 และได้กลายเป็นเจ้าแรกในอิตาลีที่ชนะรางวัล Gelato Champion ในปี 1993 ด้วยรสชาติสตรอว์เบอร์รี่และช็อกโกแลต ที่ทางร้านได้นำช็อกโกแลตที่ดีที่สุดของอเมริกาใต้มาผสมผสานกับรสชาติเปรี้ยวหวานของผลสตรอว์เบอร์รี่สด
จุดเด่นของร้านกีโยนี่คงหนีไม่พ้นเนื้อสัมผัสที่มีความเหนียวและนุ่มในเวลาเดียวกันตามแบบฉบับไอศกรีมเจลาโต้ นอกจากนี้ ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียมที่นำเข้ามาจากอิตาลีอย่าง รสชาติถั่วพิสทาชิโอ ซึ่งเป็นรสชาติยอดนิยม ที่ใครได้ลิ้มรสต้องติดใจอย่างแน่นอน และถั่วเฮเซลนัท ที่ขายดีไม่แพ้กัน
อีกจุดเด่นของร้านนี้คงเป็นไอศกรีมซอร์เบทที่มีให้เลือกหลากหลาย ล้วนแล้วแต่ทำมาจากผลไม้สด ๆ ของท้องถิ่นตามฤดูกาล แนะนำรสชาติเบสิกอย่างสตรอว์เบอร์รี่ และหวานเปรี้ยวชื่นใจอย่างรสชาติสับปะรดมะนาว
ใครที่ติดใจรสชาติและเนื้อสัมผัสเจลาโต้ของที่นี่แล้ว บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวเบื่อกินรสซ้ำ ๆ เพราะเชฟ Federico เป็นคนชอบทดลองผสมผสานรสชาติต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้คนที่ชอบทานเจลาโต้ไม่รู้สึกจำเจ และจะนำเสนอรสชาติใหม่ ๆ มาหมุนเวียนให้ชิมกันจากกว่า 30 รสชาติ ซึ่งทุกรสทำกันสด ๆ ทุกวัน ทำให้รสชาติของวัตถุดิบธรรมชาติที่ใช้ยังคงความชัดเจนอยู่ในรสสัมผัส แถมยังมีเนื้อของวัตถุดิบเน้น ๆ ให้เคี้ยวกันกรุบกริบ
ส่วนท็อปปิ้งถ้าเป็นไปได้ เชฟ Federico จะลงมือทำเอง นอกจากนั้นแล้ว ไอศกรีมของที่นี่ไม่ใส่สารกันบูด ไม่แต่งกลิ่น รสชาติ และสี กลายเป็นเจลาโต้น้องใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ลงตัวในเกือบทุก ๆ ด้าน
ที่ตั้ง: ชั้น จี เอ็มควอเทียร์ (หน้ากูร์เมต์ มาร์เก็ต)
เบอร์โทร: 02-651-8688
เวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 10:00-22:00 น.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008889
3. Treat Cafe & Hangout Thonglor
หลังจากประสบความสำเร็จในสาขาแรกที่เสนานิคม คุณขรรค์ชัย แก้วเนตร และคุณปภาพินท์ เดียวสุรินทร์ สานต่อเจตนารมณ์การเพิ่มดีกรีแฮงก์เอาท์อีกระดับในสาขาที่สองของ Treat Cafe & Hangout ใจกลางทองหล่อ ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารดี ๆ คาเฟ่เก๋ ๆ ทันสมัย และยังเป็นจุดนัดพบสำหรับสาวกปาร์ตี้ยามราตรีอีกด้วย
นอกจากโลเคชั่นที่ดีแล้ว ร้านยังคงกลิ่นอายอังกฤษสไตล์อินดี้ด้วยโครงสร้างที่ตกแต่งเพิ่มเติมภายใต้คอนเซ็ปต์กึ่งโรงงานเก่าสไตล์อังกฤษ โดยมีอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์แอนทีค ดูเก่าแต่มีเสน่ห์แบบดิบ ๆ และภาพศิลปะโดยคุณขันที่เพิ่มมิติร่วมสมัยให้กับสถานที่ มองออกไปข้างนอกจะเห็นว่ามีรางรถไฟจำลองที่ถูกสร้างขึ้นข้าง ๆ ต้นสน โดยรวมแล้วให้บรรยากาศแบบเมืองชนบทในอังกฤษนิด ๆ
ตอนกลางวัน Treat คือ ร้านแฮงก์เอาท์และคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ สว่างจากแสงธรรมชาติที่สาดเข้ามา ตอนกลางคืน Treat กลายเป็นแฮงก์เอาท์อย่างเต็มตัวด้วยบรรยากาศมืด ๆ ไฟสลัว ๆ มีแสงสว่างจากกลุ่มหลอดไฟนับไม่ถ้วนที่ถูกแขวนลงมาจากเพดานกลางห้องจุดเดียวอย่างเบียดเสียดแต่ก็มีสไตล์ไปอีกแบบ เปรียบเสมือนผู้คนที่ทำให้ Treat มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของที่นี่ คือ การมีดนตรีสดคุณภาพ ด้วยอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ติดตั้งโดยทีมนักดนตรีมืออาชีพ เพิ่มเข้ามาเป็นไฮไลท์สร้างสีสันในยามค่ำคืน ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ที่นี่แตกต่างออกไปจากสาขาแรกอย่างสิ้นเชิง
เมนูอาหารและขนมของที่นี่ไม่ต่างจากสาขาแรกมากนัก เน้นเป็นอาหารเรียบง่ายและทานง่าย ใส่ใจในรายละเอียด แถมลูกเล่นนิดหน่อย มีอาหารไทยและอาหารฝรั่งผสมผสานกันไป เมนูแนะนำคือสลัดยำหมูย่าง (200 บาท) รสชาติจัดจ้านกำลังดี หรือจะเป็นสลัดปลาแซลมอนรมควันพร้อมน้ำสลัดวาซาบิ (280 บาท) ที่เสิร์ฟมาพร้อมควันรสผลไม้เป็นกิมมิกเก๋ ๆ
นอกจากนี้ยังมีอาหารให้เลือกอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เมนูบรั้นช์ พาสตา ตับห่าน หรือแม้แต่ลาบ เป็นต้น ส่วนของหวานที่ขายดีที่สุดตอนนี้คงจะหนีไม่พ้น ช็อกโกแลตลาวา (220 บาท) ที่ตักตรงไหนก็เจอช็อกโกแลตไหลออกมาเยิ้ม ๆ เสิร์ฟมาพร้อมไอศกรีมวานิลลาแท้ ๆ
แฮงก์เอาท์แบบนี้ ไม่เน้นเครื่องดื่มคงไม่ได้ ค็อกเทลที่นี่ถูกคัดสรรโดยทีมมืออาชีพ แนะนำ Cosmopolitan หรือ Daiquiri สำหรับคนที่ต้องการดื่มเบา ๆ และ Old Fashion หรือ Manhattan สำหรับคอหนัก ยังมีตัวเลือกให้ดื่มอีกมากมาย อย่างเช่น เบียร์ วิสกี้ และไวน์ เป็นต้น
“ผมหวังให้ที่นี่ช่วยลดความถี่จากการทำงานของใครหลายๆ คน ไม่มากก็น้อย เหมือนที่ผมรู้สึก” ขรรค์ชัย แก้วเนตร, เจ้าของร่วม ครีเอทีฟ และ เชฟ
ที่ตั้ง: อารีน่า 10, ซอยทองหล่อ 10
เบอร์โทร: 02-711-4767
เวลาเปิดปิด: เปิดวันอังคาร-พฤหัส 12:00-24:00, วันศุกร์-เสาร์ 12:00-02:00, วันอาทิตย์ 12:00-24:00
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008908
4. Chairman
ร้านอาหาร Chairman by Chefman นี้เป็นผลิตผลใหม่จากร้านในเครือเชฟแมน โดยคราวนี้ ทางร้านได้นำเสนอร้านอาหารสบาย ๆ ในสไตล์คาเฟ่ฮ่องกง ใครเป็นแฟนของเชฟแมน ติดตามข่าวสารของร้านใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกันได้ โดยเฉพาะร้าน Flagship ที่วังหินและร้านบุฟเฟ่ต์ที่มีเมนูติ่มซำที่หลายคนชื่นชอบ
ผสมผสานระหว่างความเป็นคาเฟ่และกลิ่นอายของความเป็นเรทโทร ทางร้านเลือกเอาของที่มีเรื่องราวและเสน่ห์ในยุค 50s ของฮ่องกงอย่างร้านกาแฟ รูปภาพเก่า ๆ ประตูเหล็กดัด เข้ามาตกแต่ง ช่วงเที่ยงอาจจะคนเยอะหน่อยแต่สามารถซื้อของว่างและของหวานเดินทานกันได้
เมนูอาหารทานง่าย เป็นจานคุ้นเคยแนวตะวันตกที่ถูกดัดแปลงมาเป็นอาหารเอเชีย โดยมีเชฟ Man Wai Yin รับประกันรสชาติตั้งแต่จานอย่างข้าวอบและจานเส้นต่าง ๆ จานฮิตที่หลายคนพกติดมือกลับบ้านเห็นจะเป็น Bo Lo Bao (49 บาท) หรือขนมปังสับปะรดสไตล์ฮ่องกงเสิร์ฟกับเนย หรือลองเฟรนช์โทสต์ (140 บาท)
สำหรับคนไม่กลัวอ้วน ส่วนใครที่มาแบบหิว ๆ ลองถามหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสิร์ฟพร้อมสแปมและไข่ (170 บาท) ข้าวอบไก่ซอสสไตล์โปรตุเกส (230 บาท) และข้าวอบเสิร์ฟพร้อมไก่และเห็ด (180 บาท) อย่าเพิ่งรีบอิ่มเพราะของหวานที่นี่น่าลองไม่แพ้กัน อาทิเช่น คาราเมลคัสตาร์ด (80 บาท) ถั่วแดงเย็น (75 บาท) และก๋วยเตี๋ยวมะม่วง (95 บาท) สุดอร่อย
ที่ตั้ง: ชั้น 2 เอ็มควอเทียร์ ถนนสุขุมวิท
เบอร์โทร: 02-261-0426
เวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 10:00-22:00 น.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008886
ติดตามร้านอื่น ๆ ได้ที่ : iPick
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ