จากผืนดินสู่ "ดอยเสมอดาว" เที่ยวครบรส จังหวัดน่าน

จากผืนดินสู่ "ดอยเสมอดาว" เที่ยวครบรส จังหวัดน่าน

จากผืนดินสู่ "ดอยเสมอดาว" เที่ยวครบรส จังหวัดน่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเดินทางไปเที่ยว ดอยเสมอดาว น่าน ตอนนี้สะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะสนามบินสร้างเสร็จแล้ว และมีเที่ยวบินไปน่านวันละหลายเที่ยว ถนนหนทางที่จะไปน่านก็มีการขยายเป็น 4 เลนมากขึ้น เส้นทางที่สะดวกจากกรุงเทพฯไป ดอยเสมอดาว จ.น่าน ก็ต้องใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่และน่าน ใช้เวลาขับรถประมาณ 9-10 ชั่วโมง แต่ถ้ามาจากเชียงใหม่หรือเชียงราย ถ้าจะไปดอยเสมอดาว น่าน ก็ควรใช้เส้นทางผ่านอำเภองาว ลำปางไปที่น่าน

หลังจากเที่ยวและพักค้างคืนที่โครงการหลวงดอยอินทนนท์แล้ว เราก็ขับรถไปเที่ยวน่านกันต่อ หลังจากทานอาหารเช้าแล้วก็ขับรถลงจากดอยอินทนนท์ เข้าเมืองเชียงใหม่ ผ่านตัวเมืองลำปาง แล้วขับรถไปทางอำเภองาว แยกขวาไปทางแพร่และน่าน

หลังจากเช็คอินที่โรงแรมภูหรรษา พิกัด N18.78339 E100.77247 ซึ่งเป็นโรงแรมเล็กๆแต่ค่อนข้างใหม่แล้ว เราก็ไปเที่ยวถนนคนเดินที่ข่วงเมืองน่านเป็นลานโล่งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหน้าวัดภูมินทร์

ถนนคนเดินถนนคนเดิน

ถนนคนเดิน หน้าวัดภูมินทร์ถนนคนเดิน หน้าวัดภูมินทร์

ถนนคนเดิน หน้าวัดภูมินทร์ถนนคนเดิน หน้าวัดภูมินทร์

ถนนคนเดิน หน้าวัดภูมินทร์ถนนคนเดิน หน้าวัดภูมินทร์

ผ้าขาวม้า ร้านขายของฝากผ้าขาวม้า ร้านขายของฝาก

กาดข่วงเมือน่านกาดข่วงเมือน่าน

อาหารในถนนคนเดินอาหารในถนนคนเดิน

อาหารในถนนคนเดินอาหารในถนนคนเดิน

หมี่พันลับแลหมี่พันลับแล

ต้นกล้าหมี่ยำเมืองน่านต้นกล้าหมี่ยำเมืองน่าน

กาดข่วงเมืองน่านกาดข่วงเมืองน่าน

ถนนคนเดินที่น่านก็คล้ายๆกับถนนคนเดินในจังหวัดอื่นๆ มีอาหารและของที่ระลึกขาย แต่ที่น่านจะแยกแผงขายสินค้าที่ระลึกออกจากแผงขายอาหาร กลุ่มที่ขายอาหารจะอยู่ด้านหน้า ส่วนที่ขายของที่ระลึกก็จะไปรวมกันอยู่ด้านหลัง นอกจากนี้ก็มีการจัดขันโตกพร้อมปูเสื่อ หน้าเวทีการแสดงให้นักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านที่มาเที่ยว ให้นำอาหารที่ซื้อมานั่งทานที่นี่ ไม่ต้องเดินไปกินไปหรือยืนกินเหมือนถนนคนเดินจังหวัดอื่นๆ

หลังจากนั้นเราก็ไปทาน บัวลอยไข่หวานร้านป้านิ่ม ว่ากันว่าถ้าใครมาเมืองน่านแล้วไม่ได้มาทานบัวลอยป้านิ่ม ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองน่าน ร้านบัวลอยป้านิ่มย้ายจากที่เคยอยู่ในปั๊มเชลล์ มาอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดศรีพันต้นพิกัดN18.77541 E100.76588 ตรงสี่แยกถนนเจ้าฟ้าตัดกับถนนสุริยะพงษ์ จุดเด่นของบัวลอยป้านิ่มคือ รสชาติกลมกล่อม มันและไม่หวานจนเกินไป ราคาค่อนข้างแพงกว่าร้านอื่นๆเพราะที่นี่เน้นคุณภาพ หลายๆคนไปทานอาจจะบอกว่ารสชาติธรรมดา แต่คนส่วนใหญ่บอกว่าอร่อย เพราะคนแน่นมาก ร้านนี้ต้องบริการตัวเอง เข้าแถวสั่งซื้อของหวานที่ต้องการจ่ายเงินแล้ว นำไปทานที่โต๊ะ

วันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้า เราก็ขับรถไปเที่ยวบ่อเกลือ ถนนไปบ่อเกลือคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา วิวระหว่างทางสวยมาก มีทะเลหมอกให้เห็นตลอดทางแม้จะเป็นช่วงสายๆเกิน 9 โมงเช้าไปแล้ว

วิวระหว่างทางวิวระหว่างทาง

หลังจากชมวิวทะเลหมอกข้างทางแล้ว เราก็ขับรถต่อไปยังบ่อเกลือพิกัด N19.14696 E101.15376

บ่อเกลือบ่อเกลือ

บ่อเกลือโบราณบ่อเกลือโบราณ

ชาวบ้านจะตักน้ำเกลือจากบ่อเกลือ แล้วนำไปใส่กระทะต้มน้ำให้เดือด จนระเหยเหลือแต่เกลือในกระทะ จะต้องต้มตลอด 24 ชั่วโมง คอยเติมฟืนในเตาไม่ให้ไฟดับ ต้มติดต่อกันประมาณ 5 คืน 6 วัน 2 กระทะก็จะได้เกลือประมาณ 30กิโลกรัม โรงต้มเกลือที่นี่จะมี 3 เตา 6 กะทะ

หลังจากนั้นเราก็ขับรถไปทานอาหารเที่ยงที่ร้าน บ่อเกลือวิว พิกัดN19.15251 E101.15379 ถ้ามาทานอาหารที่ร้านนี้ในช่วงเทศกาลหรือวันหยุด แนะนำให้โทรไปที่ 054-778-140จองโต๊ะและจองอาหารล่วงหน้า เพราะคนแน่นมาก อาหารร้านนี้อร่อย เจ้าของร้านชื่อ คุณทวน เคยทำงานเป็น chef อยู่ที่โรงแรม Novotel กรุงเทพฯ

เราไปถึงที่ร้านประมาณ 11.00น โต๊ะอาหารโดนจองเต็มหมดทุกโต๊ะ ส่วนใหญ่จะมาทานอาหารกันประมาณเที่ยง แต่เราจองไว้เวลาประมาณ11.30 น

ร้าน บ่อเกลือวิวร้าน บ่อเกลือวิว





 

คุณ ทวน Chef อาหารอิตาเลียน โรงแรม Novotel คนบ่อเกลือ เป็นเจ้าของร้านอาหารบ่อเกลือวิว ของหวานตกแต่งสวยงามและรสชาติอร่อยมาก ไม่หวานจนเกินไป

เจ้าของร้านอาหารบ่อเกลือวิว เจ้าของร้านอาหารบ่อเกลือวิว

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ขับรถออกจากร้านอาหาร เห็นป้ายบอกทางไปยังอุทยานแห่งชาติขุนน่านก็ขับรถตามป้ายไปประมาณ เกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่อุทยานที่นี่บอกว่า ต้นพญาเสือโคร่งที่นี่ยังไม่บาน แนะนำให้เราขับรถขึ้นไปยังจุดชมวิว ทางไปจุดชมวิวถนนไม่ค่อยดี แต่วิวสวยมาก

อุทยานแห่งชาติขุนน่านอุทยานแห่งชาติขุนน่าน

อุทยานแห่งชาติขุนน่านอุทยานแห่งชาติขุนน่าน

วิวอุทยานแห่งชาติขุนน่านวิวอุทยานแห่งชาติขุนน่าน

หลังจากนั้นก็ขับรถไปที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และชมวิวที่จุดชมวิว 1715

อุทยานแห่งชาติดอยภูคาอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

อุทยานแห่งชาติดอยภูคาอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ต้นชมพูภูคาจะออกดอกประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ และจะมีพิธีบวงสรวงเจ้าหลวงภูคาวันที่22 กุมภาพันธ์ของทุกปี

จากนั้นเราก็ขับรถไปที่ลานดูดาวที่อยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว 1715 นางพญาเสือโคร่งที่นี่เริ่มบานบ้างแล้ว

ต้นพญาเสือโคร่งต้นพญาเสือโคร่ง

จากนั้นเราก็ขับรถไปที่หอศิลป์ริมน่าน ดำเนินงานโดยคุณวินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่าน มีประสบการณ์ทำงานด้านศิลปะมาหลายสิบปี กลับมาสร้างหอศิลป์ขึ้นที่น่าน บ้านเกิดของตัวเอง หวังที่จะถ่ายทอดความงามของศิลปะให้แก่ผู้คนและเยาวชนของจังหวัดน่าน โดยใช้เวลา5 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ.2541-2545ในการปรับปรุงพื้นที่ และใช้เวลาออกแบบและก่อสร้างอีก 2 ปี หอศิลป์เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 เมษายน2547





ใช้เวลาอยู่ที่หอศิลป์ริมน่านไม่นาน เราก็ขับรถไปไหว้พระที่วัดพระธาตุแช่แห้ง พิกัดN18.7591 E100.7897 วัดนี้เป็นวัดประจำจังหวัดน่าน ตามพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พญาการเมืองเจ้าผู้ครองนครปัว หรืออำเภอปัวในปัจจุบัน สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.1896 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย

ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านที่บ้านห้วยไค้ และได้เสวยผลสมอแห้งที่พระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปจะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานที่นี่ จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง

พระธาตุแช่แห้งพระธาตุแช่แห้ง

หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุเขาน้อยพิกัด N18.7693 E100.75105 เพื่อไหว้พระและชมวิวเมืองน่าน วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ทางทิศตะวันตกของเมืองน่าน สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2030

ยอดดอยเขาน้อยยอดดอยเขาน้อย

วัดภูมินทร์เป็นวัดสุดท้ายที่เราแวะเข้าไปไหว้พระและชมจิตกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ จุดเด่นของวัดภูมินทร์ก็คืออุโบสถจัตุรมุข ที่มีพระประธานจตุรทิศปางมารวิชัย 4 องค์ หันหน้าออกประตูทั้ง 4 ทิศ

วัดภูมินทร์วัดภูมินทร์

จุดเด่นอีกอย่างของวัดนี้คือ มีภาพจิตกรรมฝาผนังในพระอุโบสถจตุรมุขทั้ง 4 ด้าน โดยภาพจิตกรรมฝาผนังจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่แสดงถึงเรื่องราวและวิถีชีวิตตำนานพื้นบ้าน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเตมีราชชาดก และส่วนที่แสดงถึงความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต ภาพจิตกรรมฝาผนังที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงมากที่สุดคือภาพ เสียงกระซิบหรือภาพ ปู่ม่านย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชาย ผู้หญิงชาวไทลื้อสมัยโบราณ ในลักษณะกระซิบสนทนากัน

ปู่ม่านย่าม่าน ปู่ม่านย่าม่าน

หลังจากนั้นเราก็ไปทานอาหารเย็นที่ร้าน ข้าวต้มปุ้ม 3 แล้วกลับโรงแรมพักผ่อน วันรุ่งขึ้นเราเช็คเอาท์จากโรงแรมตั้งแต่ 04.30 น ขับรถไปดอยเสมอดาว อยู่ที่อำเภอนาน้อย ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน พิกัดN18.37545 E100.82650 เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกยามเช้า ไปถึงที่จอดรถ ปรากฏว่ามีรถจอดเต็มไปหมด มีนักท่องเที่ยวกางเต็นท์นอนเต็มพื้นที่ เรารีบหาที่จอดรถแล้วเดินขึ้นไปบนเนินเขาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า

ดอยเสมอดาวดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาวดอยเสมอดาว

ลานกางเตนท์ ดอยเสมอดาวลานกางเตนท์ ดอยเสมอดาว

ทะเลหมอก ดอยเสมอดาวทะเลหมอก ดอยเสมอดาว

ทะเลหมอก ดอยเสมอดาวทะเลหมอก ดอยเสมอดาว

ทะเลหมอก ดอยเสมอดาวทะเลหมอก ดอยเสมอดาว

หลังจากชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว เราก็ขับรถไปที่หมู่บ้านประมงปากนาย ที่อำเภอนาหมื่น ซึ่งอยู่ห่างจากดอยเสมอดาวเกือบ 40 กิโลเมตร เพื่อนำรถไปขึ้นเรือโป๊ะข้ามฝั่งไปยังอุตรดิตถ์ เพื่อกลับกรุงเทพฯ

เรือโป๊ะข้ามฝั่งไปยังอุตรดิตถ์เรือโป๊ะข้ามฝั่งไปยังอุตรดิตถ์
ข้ามฝั่งไปยังอุตรดิตถ์ข้ามฝั่งไปยังอุตรดิตถ์



เสียค่านำรถขึ้นเรือโป๊ะข้ามฝั่งคันละ 250 บาท พิกัดท่าเรือโป๊ะข้ามฝั่งคือ N18.05302 E100.67972ใช้เวลาข้ามฝั่งประมาณ15 นาที สามารถย่นระยะทางกลับกรุงเทพฯได้ประมาณ 150 กิโลเมตรหรือ ประหยัดเวลาเดินทางได้2ชั่วโมง ที่นี่มีเรือโป๊ะให้บริการ 4 ลำ แต่ละลำบรรทุกรถยนต์ได้ 2 คัน ควรโทรสอบถามเรือโป๊ะข้ามฝั่งก่อนขับรถไปที่ท่าเรือ เพราะบางช่วงน้ำแม่น้ำอาจจะตื้นเขินจนเรือโป๊ะไม่สามารถให้บริการได้



อัลบั้มภาพ 78 ภาพ

อัลบั้มภาพ 78 ภาพ ของ จากผืนดินสู่ "ดอยเสมอดาว" เที่ยวครบรส จังหวัดน่าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook