คุมาโมโตะ เมืองแห่งน้ำ ชีวิต และเวลา

คุมาโมโตะ เมืองแห่งน้ำ ชีวิต และเวลา

คุมาโมโตะ เมืองแห่งน้ำ ชีวิต และเวลา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมืองเล็กน่ารักอย่าง คุมาโมโตะ (Kumamoto) ตั้งอยู่บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น

การเดินทางเริ่มต้นจากการเหินฟ้ากว่า 5 ชั่วโมง เพื่อมาถึงสนามบินฟุกุโอกะ จากนั้นเดินเข้าสู่สถานีฮากาตะ เพื่อจับรถไฟชินคังเซ็น สายซากุระ ที่ทั้งรวดเร็ว สะดวกสบาย ไปพบกับการเดินทางที่ครบทั้งน้ำ ชีวิต และเวลา

คุมาโมโตะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่แถบอาโสะ (Aso) ที่มีน้ำพุธรรมชาติจากแหล่งน้ำใต้บาดาลเป็นจำนวนมาก และยังได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับแหล่งน้ำที่มีชื่อเสียงของประเทศ ครั้งแรกที่เห็นคุณจะประหลาดใจกับความสวยใสของน้ำ ที่ไม่เคยพบเห็นจากที่ใดมาก่อน ที่นี่ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘แหล่งน้ำที่มีรสชาติอร่อยที่สุดในประเทศ’ เนื่องจากน้ำมีคุณภาพดีสามารถสูบน้ำเหล่านั้นมาดื่มได้ทันที และในวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีผู้คนจำนวนมากหลีกหนีเมืองใหญ่มาพักผ่อนที่บริเวณนี้ ทั้งนี้หากใครต้องการเดินทางไปเยือนอาโสะ แนะนำให้ลองนั่งรถไฟน่ารักแบบย้อนยุคอย่างโทร็อคโกะ คุณจะได้เพลินใจกับธรรมชาติภายนอกอย่างเนิบช้า ซึ่งจะเปิดทำการทุกสุดสัปดาห์ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤศจิกายนของทุกปี

นอกจากนั้น คุมาโมโตะยังนับเป็นสวรรค์ของคนที่ชื่นชอบการนอนแช่น้ำพุร้อน โดยมีบ่อน้ำพุร้อนมากถึง 118 แห่ง กระจายตัวอยู่ทั่วทุกแห่งของเมือง และประสิทธิภาพของการนอนแช่น้ำพุร้อนยังนับเป็นธาราบำบัด ที่ช่วยกระตุ้นสภาพของร่างกาย และเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต หากอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นที่ปฏิบัติกันมาช้านาน ต้องลองเปลี่ยนชุดยูกาตะแล้วเดินทอดอารมณ์ก่อนลงแช่น้ำพุร้อนบริสุทธิ์ให้ผ่อนคลาย ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องจำกัดเฉพาะแค่ฤดูหนาวเท่านั้น

หากบรรยายถึงคุมาโมโตะอย่างตรงไปตรงมา คงต้องบอกว่าเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันไว้อย่างกลมกลืน มีรถรางย้อนยุคหลายรูปแบบที่พร้อมพาไปสัมผัสความงดงามของคุมาโมโตะในหลากหลายมิติ ซึ่งถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกทางการเดินทางอันเป็นที่รักของทุกคน เนื่องจากเส้นทางที่กำหนดไว้อย่างครอบคลุม มีทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่น่าสนใจ และทัศนียภาพอันสวยงาม สามารถมอบความรู้สึกเพลิดเพลินระหว่างเดินทางพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเหลือเชื่อ นักเดินทางยังสามารถมองเห็นวิวปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) สัญลักษณ์อันทรงเกียรติแห่งเมืองคุมาโมโตะได้จากเส้นทางวิ่งของรถรางอีกด้วย 

เครือข่ายรถบัสและรถรางที่ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง ทำให้การเดินทางในวันหยุดปลายฤดูใบไม้ผลิเป็นไปอย่างเลิศล้ำ และอาจจะด้วยวัฒนธรรมรวมหมู่ของชาวญี่ปุ่นที่แต่ละคนจะเกรงใจซึ่งกันและกันในที่สาธารณะ จึงทำให้บรรยากาศบนขบวนรถไฟเงียบสนิท ไม่รู้สึกเร่งรีบเหมือนในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว หรือโอซาก้า นอกจากนั้น คุมาโมโตะยังมีรถรางสายใหม่ที่นำมาต้อนรับแขกผู้มาเยือนคือ โคโคโระ (Cocoro) ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า หัวใจ รถรางรูปแบบใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงสามสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของเมืองคุมาโมโตะ นั่นคือ น้ำ ความเขียวชอุ่ม และความศรัทธา ภายในเลือกใช้วัสดุไม้มาตกแต่ง ให้อารมณ์นอบน้อม และอบอุ่นตรงตามความหมาย เริ่มวิ่งครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา เพื่อสืบสานวัฒนธรรมของเมืองอย่างภาคภูมิใจ ราคาค่าตั๋วโดยสารสำหรับเด็กอยู่ที่ 80 เยน และสำหรับผู้ใหญ่ 150 เยน แต่สำหรับผู้ที่มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และต้องการตระเวนชมทิวทัศน์รอบเมือง ขอแนะนำเป็นบัตรโดยสารประเภท 1 วัน (Waku Waku 1 Day Pass) ราคา 500 เยน ที่จะทำให้คุณสามารถขึ้น-ลงทั้งรถบัสและรถรางได้แบบไม่อั้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ ในการเข้าชมสถานที่สำคัญของเมืองอีกด้วย

คุมาโมโตะยังเป็นเมืองที่มีความสวยงามของร่องรอยประวัติศาสตร์หลงเหลือให้เรียนรู้อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นปราสาทคุมาโมโตะ ผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมการป้องกันที่ไม่เคยมีใครบุกรุกได้สำเร็จ เป็นปราสาทที่ติดอันดับหนึ่งในสามของญี่ปุ่น มีอายุนานกว่า 400 ปี อาณาเขตทั้งหมด 503 กิโลเมตร และพื้นที่กว้าง 980,000 ตารางเมตร ตัวปราสาททั้งงดงาม และดูยิ่งใหญ่ จนถูกขนานนามว่าเป็นกำแพงหินที่มีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์การรบที่เยี่ยมยอด เพียงแค่โดยสารรถรางสายคุมาโมโตะ ชิเดน (Kumamoto Shiden) ไปลงที่สถานีคุมาโมโตะ-โช เมะ (Kumamoto-Jo mae) แล้วเดินเท้าต่อไปอีก 10 นาที ก็จะได้ชื่นชมกับความงดงามที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน

และอีกหนึ่งความร่วมสมัยที่มองข้ามไม่ได้ เห็นจะเป็นมาสคอตหมีสีดำแสนซุกซนที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในนาม คุมะมง (Kumamon) ที่เป็นตัวแทนของเด็กชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำหน้าที่คอยส่งมอบความเป็นมิตร และควมประหลาดใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน เวลานี้ความน่ารักของคุมะมงโด่งดังไปทั่วโลก และสามารถสร้างรายได้ถึง 293 ล้านเยน ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่มาเยือนคุมาโมโตะจะพบเห็นหน้าของเจ้าหมีตัวนี้ทุกหนทุกแห่ง แต่หากอยากพบตัวจริงต้องไปที่จัตุรัสคุมะมง (Kumamon Square) ซึ่งจะทำให้คุณได้อิ่มเอมไปกับการออกกำลังร่วมกับคุมะมง และสนุกกับการเยี่ยมชมห้องทำงานของคุมะมงที่รายล้อมด้วยสินค้าจากแหล่งต้นกำเนิดมากมาย

นับเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้รู้สึกดี ผู้คนอบอุ่นและเป็นมิตร เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการสุขสำราญกับความเนิบช้าอย่างมีคุณภาพ

สนับสนุนเนื้อหา โดย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook