10 สถานที่...ที่ต้องไปก่อนหายสาบสูญ
Story : yuttooppa
โลกเราตอนนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์หลายแห่งซึ่งกำลังโดนคุกคามโดยธรรมชาติ ทาง ChicMinistry ขอพาไปสัมผัสสถานที่สุดทึ่ง ที่คาดว่าจะหายไปในไม่กี่ทศวรรษนี้ ไปดูกันเลยครับว่ามีที่ไหนบ้าง
1. Great Barrier Reef, Australia
สถานที่แห่งนี้เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งครอบคลุมราว 133,000 ตารางไมล์ Great Barrier Reef ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำมานาน แต่ว่ามีปัจจัยทางธรรมชาติหลายอย่างเช่นอุณหภูมิน้ำทะเล มลพิษ ค่อยๆทำลายลง คาดว่าร้อยปีข้างหน้าสถานที่นี้จะหายไป
2. Venice, Italy
ด้วยความมีเสน่ห์ของคลอง Venice จึงขึ้นชื่อว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สุดโรแมนติกของโลก เมืองนี้ได้จมอยู่ในคลองมานานหลายปีแล้ว และการเพิ่มขึ้นของน้ำในคลองนั้นบวกกับผลกระทบน้ำท่วมอาจจะทำให้เวนิสจมหายไปไม่เกินศตวรรษนี้
3. The Dead Sea, Jordan
ทะเล Dead Sea โบราณแห่งนี้เป็นทั้งแหล่งประวัติศาสตร์และสถานบำบัด เมื่อ 40 ปีที่แล้วพื้นที่หนึ่งส่วนสามของทะเลได้จม 80 ฟุต ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันอาจจะหายไปภายใน 50 ปี เนื่องจากประชาชนประเทศจอร์แดนนำน้ำแห่งนี้มาใช้ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญแหล่งเดียว
4. Glacier National Park, Montana, USA
สถานที่นี้เป็นแหล่งกำเนิดธารน้ำแข็งกว่า 150 สาย แต่ในขณะนี้เหลือน้อยกว่า 25 แห่ง จากอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธารน้ำแข็งจะหายไปเลยภายในปี 2030 ระบบนิเวศก็จะถูกทำลายด้วย
5. Maldives
มัลดีฟส์เป็นเกาะที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 5 ฟุต คาดว่าเกาะนี้จะจมอีกร้อยปีข้างหน้าเมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น แต่ทางรัฐบาลก็ได้เตรียมซื้อพื้นที่ในประเทศอื่นเพื่อให้ประชาชนอพยพไปอยู่เรียบร้อยแล้ว
6. Seychelles
หมู่เกาะเซย์เชลส์ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินในหมู่นักท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยหมู่เกาะเรียงรายกว่า 115 เกาะบนมหาสมุทรอินเดียและมีรีสอร์ทมากมาย แต่ว่าธรรมชาติก็กำลังทำลายเช่นกันโดยการกัดเซาะบวกกับแนวปะการังที่ตายลง ผู้เชี่ยวชาญคาดการว่าหมู่เกาะนี้จะจมลงในอีก 50-100 ปีข้างหน้า
7. The Alps
เทือกเขาแอลป์เป็นหนึ่งในที่ที่เหมาะกับการเล่นสกี จะได้รับผลกระทบจากอากาศเปลี่ยนแปลงเนื่องจากอยู่ระดับต่ำกว่าเทือกเขา Rocky น้ำแข็งบริเวณนี้ค่อยๆหายไปปีละ 3 เปอร์เซ็น ผู้เชี่ยวชาญคาดการว่าจะหายไปทั้งหมดภายในปี 2050
8. Magdalen Islands, Quebec, Canada
เกาะแม็กดาเลน แคว้นควีเบค ประเทศแคนนาดา บริเวณนี้ลาดไปด้วยหาดทรายและหน้าผาหินทราย จึงทำให้สถานที่นี้มีชื่อเสียงโดยเฉพาะบริเวณอ่าว St. Lawrence แต่ว่าก็ยังได้รับผลกระทบจากกระแสลม คลื่นน้ำซัดซึ่งกัดเซาะ 40 นิ้วต่อปี ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน้ำแข็งจะละลายหมดภายใน 75 ปีและชายฝั่งก็จะได้รับผลกระทบจากพายุ
9. Alaska, USA
เขตอากาศแบบทุนดราของอลาสก้าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่โดดเด่นของสหรัฐฯ อากาศอาจจะทำให้น้ำแข็งละลายซึ่งเป็นการทำลายโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศปัจจุบันอีกด้วย
10. Athabasca Glacier, Alberta, Canada
ธารน้ำแข็งอาธาบัสก้า ประเทศแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็ง Columbia อยู่ทางตอนเหนือซึ่งลาดยาวกว่า 6 สแควร์กิโลเมตร น้ำแข็งได้ค่อยๆละลายมาป็นเวลากว่า 125 ปีแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าธารน้ำแข็งละลายอีกอย่างรวดเร็วและในขณะนี้ 6.6-9.8 ฟุตต่อปี
เห็นแล้วก็อยากจะไปเที่ยวดูสักครั้งนะครับก่อนที่จะหายสาบสูญไป ว่าแต่เพื่อนๆเคยไปที่ไหนกันมาแล้วบ้างครับ มาแชร์ประสบการณ์กัน