"เกาะหวาย" สุขใจ..สบายกระเป๋า
หลายท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า จังหวัดตราดนั้นมีเกาะช้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านความสวยงามทางธรรมชาติแห่งท้องทะเล โดยบนเกาะมีหาดทรายขาวละเอียดอยู่หลายอ่าว ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างครบครันจากการบริการของที่พักต่างๆ บนเกาะใหญ่แห่งนี้
เกาะหวาย
เกาะช้างถือได้ว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตราด แต่ถ้านำไปเปรียบในระดับประเทศแล้วความยิ่งใหญ่นี้ต้องตกเป็นลำดับสองรองจากเกาะภูเก็ต แต่ถึงกระนั้นเกาะช้างผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออก ก็ยังมีเกาะบริวารใหญ่บ้างเล็กบ้างอีกกว่า 40 เกาะ โดยเรียกรวมกันว่า อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง
หมู่เกาะบริวารของเกาะช้าง บางเกาะก็เป็นเพียงโขดหินกลางทะเล และบางเกาะก็มีหาดทรายสวยงามมีผู้คนอาศัยอยู่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน โดยหนึ่งในเกาะบริวารของเกาะช้างที่ตั้งอยู่ค่อนไปทางด้านทิศใต้ นั่นก็คือ เกาะหวาย เกาะที่มีความสวยงามทั้งด้านบนอันประกอบด้วยหาดทรายขาวละเอียดเหมาะแก่การเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ มีที่พักเล็กๆ สงบเงียบเข้ากับธรรมชาติ โดยยังไม่มีแสงสีแห่งความทันสมัยย่างกรายเข้าไปมากนัก
ถัดไปอีกสักนิดด้านบนเขามีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นที่อยู่อาศัยของนกป่านานาชนิด ทางด้านท้องทะเลใสลึกลงไปก็มีแนวปะการังที่สมบูรณ์ อาทิ ปะการังเขากวาง ปะการังพุ่ม ปะการังก้อน และนอกจากนั้นบางจุดยังมีหอยมือเสือตัวใหญ่ๆ อาศัยอยู่ด้วย
เกาะหวาย ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บางช่วงวันหยุดอาจจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยไปพักผ่อนกันบ้างแต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองคนบอกว่า การได้เดินทางมาพักผ่อนที่เกาะหวาย นั้นแตกต่างจากการไปพักผ่อนที่เกาะช้าง ตรงที่เกาะหวายมีความสงบเงียบมากกว่า โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวนความเป็นส่วนตัว ทำให้เขาได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรด จิบกาแฟ รับประทานอาหารแบบง่าย ได้อย่างสบายใจ ซึ่งก่อให้เกิดความคิดดีๆ เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ผลงานให้แก่ตนเองต่อไป
บนเกาะหวายมีที่พักอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ เกาะหวายปะการังรีสอร์ท กระท่อมยายมา และ เกาะหวายพาราไดซ์ ทั้ง 3 แห่งนี้ อยู่ใกล้เคียงกันสามารถเดินถึงกันได้ เกาะหวายปะการังรีสอร์ทนั้นเน้นความสะดวกสบายขายเป็น Package รายหัว
ส่วนเกาะหวายพาราไดซ์ ก็จะเป็นที่พักแบบกระท่อมอิงเขาใกล้ชิดธรรมชาติไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก นอกจากเตียงที่นอนหมอนมุ้ง และไฟฟ้าอีกสองดวงที่ผลิตแสงสว่างมาจากพลังงานน้ำมัน ซึ่งเท่านี้ก็ดีเกินพอสำหรับชีวิตพเนจรมาเป็นชาวเกาะแบบเพียงผู้ผ่านทาง
ทั้งนี้ก่อนเดินทางมาผมหาข้อมูลแล้วตัดสินใจเลือกพักที่เกาะหวายพาราไดซ์ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ที่พักแห่งนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า การได้หยุดนิ่งอยู่กับธรรมชาติและตัวเอง พินิจไตร่ตรองกับเรื่องที่เป็นปัญหา ปล่อยวางกับบางเรื่อง ทำให้ผมรู้สึกสบายใจได้อย่างน่าประหลาด และที่พักอีกที่หนึ่งคือกระท่อมยายมา ผมไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรเพราะไม่ได้เดินสำรวจต่อไป แต่พอจะทราบว่าทั้ง 3 แห่งนี้ ราคาที่พักไม่แพง อาหารไทย หรือ ฝรั่ง ก็ไม่แพงแถมอร่อยอีกต่างหาก ผมชักจะเชื่อแล้วว่าที่พักหลักร้อยนั้นมีอยู่จริง
หากคุณต้องการจะเดินทางไปสัมผัสความงดงามของเกาะหวายเหมือนอย่างผม ขอแนะนำให้การเดินทางดังนี้ เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดตราดแล้ว ให้มุ่งหน้าสู่แหลมงอบ และต่อมายังท่าเรือกรมหลวงชุมพร หากคุณขับรถยนต์ส่วนตัวมาเองก็ฝากเขาไว้ที่บริษัททัวร์แถวๆ ท่าเรือนี้แหละครับ เขาอาจจะคิดค่าบริการรับฝากบ้างนิดหน่อย จากนั้นก็ขนสัมภาระลงเรือ ซึ่งมีเรือ 2 แบบ คือ สปีตโบ๊ต ที่ออกเดินทางสู่เกาะหวายวันละ 4 เที่ยว เวลา 09.30 , 10.00 , 14.00 , 16.00 น. ค่าบริการท่านละ 450 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที แต่ถ้าต้องการบรรยากาศแบบชิลชิล ชมนกชมปลาไปเรื่อยๆ ก็ไปกับเรือไม้ลำใหญ่คล้ายเรือตังเกดัดแปลง ก็สะดวกสบายนะครับแต่ว่าใช้เวลามากกว่าหน่อย คือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงจะถึงเกาะหวาย ค่าบริการท่านละ 300 บาท เรืออกเดินทางวันละ 1 เที่ยว เวลา 14.00 น.
เอาละครับ ผมคิดว่าคงรู้จักเกาะหวายกันมากขึ้นแล้ว หากคุณต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ทางทะเลตะวันออก ลองหลบไปพเนจรนอนเกาะหวายกันสักคืน แล้วคุณอาจจะติดใจในความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริงเหมือนอย่างผม ที่สำคัญทริปนี้ผมหมดสตางค์ในกระเป๋าไปไม่เท่าไร แต่ได้ความประทับใจมาจนล้นกระเป๋าเลยทีเดียวละครับ