"Crab & Claw" สุดยอดของล็อปสเตอร์...ต้องยกให้ที่นี่

ใครเป็นสาวกล็อปสเตอร์และหอยนางรมสดตัวใหญ่ๆ คุณภาพดี เราขอแนะนำให้ทุกคนมาลองทาน Lobster ที่ Crab & Claw กันค่ะ เพราะที่นี่เค้าเน้นความสด รสชาติเยี่ยม เป็นหลัก งานนี้รับรองว่าคุ้มกับการยอมจ่ายแพงขึ้นนิดนึง เพื่อได้ทานของดีๆ เลย

วันนี้เรามุ่งหน้ากันไปที่ Crab & Claw สาขา พารากอน ค่ะ บรรยากาศของร้านก็จะตกแต่งสไตล์เรียบง่ายโล่งๆ หน่อย อารมณ์เหมือนอยู่ในเรือประมงหาปลาประมาณนั้น..  

นี่เป็นส่วนของห้องครัว เชฟทำอะไรเราเห็นหมดทุกอย่าง.. 

เมนูไฮไลท์ของ Crab & Claw ก็จะเป็นล็อปสเตอร์กับหอยนางรม ที่ต้องสั่งข้ามทวีปมาจากอเมริกากันเลยทีเดียว.. ซึ่งทางร้านก็จะมีวิธีที่จะทำให้เจ้าล็อปสเตอร์และอาหารทะเลอื่นๆ ยังคงความสดอยู่เสมอ ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะได้ทานของไม่ดี วันที่เราไปทานเป็นวันที่จัดบุฟเฟ่ต์ค่ะ ซึ่งมีแค่วันอังคารกับวันศุกร์ เฉพาะเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น โดยมีเวลาทาน 100 นาที เสิร์ฟแบบไม่อั้น! มันดีตรงนี้แหละ

พอไปถึงโต๊ะที่นั่ง ทางร้านจะทำเตรียมอุปกรณ์ในการรับประทานไว้ให้อย่างพร้อมเพียง

สำหรับคนที่ทานบุฟเฟ่ต์ทางร้านก็ทำการเสิร์ฟเครื่องเคียงที่ทางร้านจัดให้ฟรีค่ะ มีให้เลือกเยอะแยะเลย เช่น

ซุปครีมหอยโฮมเมดเสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบ

จานนี้ตัวซุปออกข้นๆ ค่ะ รสชาติกลมกล่อมมากค่ะ ใส่หอยลายตัวโตๆ เข้าไปด้วย..จะบอกว่าทานแค่จานนี้ก็ฟินแล้ว ซึ่งหอยลายเองก็สดมากทีเดียว

สลัดผัก

มันฝรั่งทอดโฮมเมด

เมนูนี้ชอบส่วนตัวค่ะ..ทานเพลินดีค่ะ จะเป็นมันฝรั่งแบบติดเปลือก ใครยังไม่เคยลองทาน ต้องลองทานดูนะ มีประโยชน์ด้วย

ข้าวโพดย่าง

ข้าวโพดย่างทางร้านจะหั่นมาให้แล้วเรียบร้อย พร้อมทานได้ทันที แต่ต้องระวังร้อนกันนิดนึงค่ะ เพราะเพิ่งออกจากเตาเลย

ขนมปังกระเทียม

ขนมปังกระเทียมจะมาเป็นตะกร้าแบบนี้เลย ทานหมดมีอิ่ม..

เอาล่ะ..อย่ารอช้าไปเริ่มกันเลยดีกว่า เวลามีน้อยใช้สอยประหยัด เราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะให้ทางร้านปรุงล็อปสเตอร์ให้เป็นแบบใด ตอนแรกก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันก็ให้ทางร้านแนะนำมา ก็เลยได้หน้าตามาประมาณนี้ 

ล็อปสเตอร์แบบนึ่ง

เจ้าตัวนี้ประทับใจมาตั้งแต่แรกเห็น เงาแว๊บมาแต่ไกลสวยงามมาก..แค่เห็นสีสันก็รับรู้ได้ถึงความอร่อย ล็อปสเตอร์สดมาก เนื้อมีความเหนียวนุ่ม ส่วนมันบนหัวเจ้าล็อปสเตอร์นี่ถือเป็นทีเด็ดค่ะ รสชาติจะหวานๆ (ถ้าของสดเนื้อจะหวาน) ไม่ต้องเยาะหรือใส่น้ำจิ้มอะไรเลย แต่ทางร้านจะมีน้ำจิ้มซีฟู้ดเตรียมไว้ให้สำหรับคนที่ชอบรสจัด

ล็อปสเตอร์โรล 

สำหรับ Lobster Roll จะเป็นเนื้อล็อปสเตอร์ปรุงสูตรเฉพาะ ที่ใส่เข้าในขนมปังที่อบจนกรอบนอกนุ่มใน ตัวขนมปังเองรสชาติดีค่ะ เมนูนี้นอกจากจะหน้าตาดีมากแล้ว รสชาติก็ดีต่อใจเช่นกัน 

ล็อปสเตอร์ย่างเนยกระเทียม

เมนูนี้เจ้าล็อปสเตอร์แสนสวย จะโดนผ่ากลางแล้วถูกทาด้วยเนยและกระเทียม แล้วนำไปย่างบนเตาหอมๆ ให้เนื้อไม่กระด้างแข็งจนเกินไป เมนูนี้น่าจะถูกใจ คนชอบเนยนม กลิ่นเครื่องเทศแน่นอน 

ล็อปสเตอร์คลุกเคล้าผงโอเบย์

จานนี้มาคล้ายๆ กับล็อปสเตอร์นึ่งค่ะ แต่จะต่างกันนิดนึงตรงที่มานำคลุกกับผงโอเบย์ ก็จะออกมาสไตล์เครื่องเทศๆ หน่อย อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ลูกค้าแล้วว่าจะชอบทานแบบไหนมากกว่ากัน แนะนำว่าลองสั่งมาทานดูสักจานก็ได้ จะได้รู้รสชาติ นี่แค่เห็นกล้ามก็อิ่มแล้ว..กล้ามใหญ่มาก!

ล็อปสเตอร์เมลท์

เมนูนี้จะเป็นเนื้อล็อปสเตอร์ที่อบในขนมปังโฮมเมดค่ะ ด้านในก็จะเป็นครีมข้นที่ทำมาจากชีส และก็ใส่เนื้อล็อปเตอร์ลงไปด้วย ใส่เป็นกล้ามๆ ก้อนๆ แบบนี้แหละสะใจดี คาดว่าคงจะถูกใจคนชอบชีสอีกแล้ววววว

สปาเกตตี้ลิงกวินี

สำหรับใครชอบเมนูเส้นๆ ต้องลองสั่งสปาเกตตี้ลิงกวินี่ที่ผัดกับเนื้อล็อปสเตอร์มาทานค่ะ คือเนื้อจะมาเป็นก้อนๆ แบบนี้อีกเช่นกัน นี่หาเส้นไม่เจอเลย..เนื้อบังมิด 

สปาเกตตี้เส้นเฟตตูชินี่

จานนี้ยังคงเอาใจคนชอบเส้นกันต่อ แต่จะต่างจากจานที่แล้ว เพราะจานนี้จะใช้เป็นเส้นเฟตตูชินี่ที่ผัดคลุกเคล้ากับซอสครีมปูและเนื้อล็อปสเตอร์แบบเน้นๆ อีกเช่นเคย

กว่าจะทานล็อปสเตอร์หมดก็แอบปาดเหงื่อเบาๆ เพราะเมนูเยอะมากจริงๆ 

หลังจบภารกิจล็อปสเตอร์ไปแล้ว เราก็ต้องไปฟาดฟันกับบุฟเฟ่ต์หอยนางรมจากทั่วโลกกันต่อ..ซึ่งความพิเศษของที่นี่ก็ยังคงอยู่ที่ความสดของวัตถุดิบและขนาดของมันที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มเกือบเท่าฝ่ามือ ซึ่งตอนนี้ทางร้านก็มีจัดบุฟเฟ่ต์ทุกวันพุธ จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เท่านั้น

บุฟเฟ่ต์ Oyster หรือหอยนางรม ของที่นี่จะมีความพิเศษอยู่ที่ทางร้านจะนำเข้าหอยนางรมจาก 4 ประเทศทั่วโลกเข้ามาให้ลูกค้าได้รับประทาน นั่นก็คือ Smokey Bay Oyster (ออสเตรเลีย)  Fine De Claire (ฝรั่งเศส)  Irish Premium Oyster (ไอร์แลนด์)  Wolf Beach และ Kumamoto (อเมริกา) ก็จะมีขนาดเล็กใหญ่ต่างกันไป

เมื่อมีที่มาไม่เหมือนกัน ดังนั้นเรื่องของรสชาติจะมีความแตกต่างกันออกไปค่ะ บางตัวอาจจะหวาน บางตัวอาจจะเค็ม ก็แล้วแต่ว่ามาจากที่ไหน แต่สิ่งที่รับประกันได้คือความสดสะอาดยังเหมือนเดิม.. และถ้าให้สังเกตรสชาติดีๆ จะรู้สึกได้ว่ายังมีกลิ่นของทะเลอยู่ ถ้าพูดจะนึกภาพไม่ได้ออก ต้องลองตามไปชิมกันเอง  

ทางร้านก็จะเสิร์ฟเครื่องเคียงที่ให้ฟรีเหมือนกับเซตล็อปสเตอร์ข้างบนค่ะ แต่จะมี Clam Melt เพิ่มเข้ามา จานนี้ถือว่าผ่านค่ะ รสชาติดีทีเดียว หอยตัวใหญ่ สด และรสชาติของตัวขนมปังอร่อยไม่จืดชืด

มาดูกันต่อถ้าเราสั่งบุฟเฟ่ต์ เราจะสามารถนำไปทำเป็นอาหารอะไรได้บ้าง 

Fried Oyster

เริ่มจาก Fried Oyster จะเป็นหอยนางรมที่เป็นตัวๆ นำไปชุบแป้งแล้วทอด นำมาราดด้วยครีมซอสอะไรสักอย่าง รสชาติอร่อยดีตัดเลี่ยน ตามด้วยไข่ปลาคาเวียร์ด้านบน  

Fried Oyster Roll

สำหรับเจ้า Fried Oyster Roll ก็จะคล้ายๆ กับล็อปสเตอร์โรล เลยค่ะ แต่เปลี่ยนด้านในจากที่เป็นล็อปเตอร์ ก็เป็นหอยที่นำไปชุบแป้งทอดแทน วิธีการปรุงก็คล้ายๆ กับ Fried Oyster แต่แค่เปลี่ยนจากทานเป็นตัวๆ ก็เอาขนมปังมาประกบ 

Oyster Rockefeller

เห็นชื่อแล้วรู้สึกหรูและแพงมาก..แต่จริงๆ ก็คือผักโขมอบชีสนั่นแหละ นำไปอบพร้อมกับหอยนางรม ตัวชีสอร่อยดีค่ะ ถือว่าผ่านอีกเช่นกัน หอยสด มีชัยไปกว่าครึ่ง

Fried Calamari

มาที่เมนูสุดท้ายกับปลาหมึกชุบแป้งทอด หรือ Fried Calamari จานนี้มีความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เจอของที่นี่ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่เพราะเนื้อปลาหมึกไม่เหนียวเลย ทานเพลินมาก แนะนำว่าใครมาต้องลองสั่งมาทานกันให้ได้ค่ะ

สำหรับคนที่จะตามไปรับประทานแบบบุฟเฟ่ต์ทางร้านเค้าก็จะมี กติกากันสักเล็กน้อย..ดังนี้ค่ะ

- 100 นาที เริ่มนับเมื่อสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มเครั้งแรก 

-  ทานได้เฉพาะที่ร้านเท่านั้น

- ถ้าทานเหลือ ปรับเป็นเงิน 1,000 บาท 

- ล็อปสเตอร์ใช้เวลาปรุงประมาณ 10-15 นาที หลังจากออเดอร์

- สามารถสั่งล็อปสเตอร์ได้ 2 ตัว / ท่านในการสั่งครั้งแรก และครั้งละ 1 ตัว ในการสั่งครั้งต่อไป

ราคาบุฟเฟ่ต์ล็อปสเตอร์โอลิมปิก (เฉพาะวันอังคารและศุกร์เท่านั้น)

- 2,800 บาท ทานล๊อปสเตอร์ไม่อั้น แถมไวน์ 1 แก้ว 

- 3,300 บาท ทานล๊อปสเตอร์ไม่อั้น เสิร์ฟไวน์ไม่อั้น

ราคาบุฟเฟ่ต์ Oyster 1,500 บาท (เฉพาะวันพุธ เท่านั้น)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

Facebook Fanpage และ Instagram : Crabandclaw   

ที่ตั้ง : ดิเอ็มควอเทียร์,สาขาสยามพารากอน