ข้าวต้มเรือตาเจ๊กเป็นเรือขายข้าวต้มลำสุดท้ายที่ยังคงใช้วิถีชีวิตบนสายน้ำแม่กลองมายาวนานกว่า 50 ปี ที่สำคัญยังคงยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ขายเพียงชามละ 15 บาท

“บวยแซกเอย” เป็นเสียงร้องขายข้าวต้มที่ยังคงกังวานตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำแม่กลอง จากคลองลัดจวน ตำบลบ้านปรก ไปสิ้นสุดที่เท้งท่าน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม กับบรรยากาศที่คับคลั่งไปด้วยผู้คนที่นั่งรับประทานข้าวต้มแบบสบายๆ บางคนนั่งแบบคนเดียวทานไปมองสายน้ำที่กำลังไหลผ่านกลางแม่น้ำแม่กลอง

บางคนมากันเป็นครอบครัวก็จะนั่งรวมกลุ่มแบบหลังชนกันสร้างบรรยากาศความเป็นกันเอง ก่อนตะวันลับฟ้า ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น.ไปจนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. ของทุกวัน แต่ที่เป็นจุดดึงดูดและเป็นเครื่องยืนยันถึงราคาที่จำหน่าย ด้วยการเขียนข้อความประกาศแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าจำหน่ายในราคาชามละ 15 บาท จนเป็นที่สนใจของชาวจังหวัดสมุทรสงครามทุกกลุ่มวัย

โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในได้มีการบันทึกภาพก่อนจะนำไปโพรสบนโลกสื่อสังคมออนไลน์จนเป็นที่รู้จักกันจำนวนมาก จนมีการตั้งกลุ่ม facebook และแฟนเพจ @ ข้าวต้มเรือเจ๊กริมแม่น้ำแม่กลอง

นายสหัส พ่วงสงเคราะห์ หรือ ตาเจ๊ก อายุ 60 ปี ชาวบ้านนางตะเคียน ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เริ่มค้าขายข้าวต้มทางเรือตั้งแต่อายุ 12 ปี ขณะนั้นช่วยคุณพ่อพายเรือออกเร่ขายข้าวต้มไปตลอดสองฝั่งคลอง ตั้งแต่ท่าน้ำของที่บ้านในคลองลัดจวน ตำบลบ้านปรก โดยจะพายไปตามคลองแม่น้ำแม่กลอง จะแวะตามท่าน้ำของบ้านลูกค้าเจ้าประจำที่จะรู้เวลาและได้ยินเสียงตะโกนร้องขายข้าวต้ม จนไปถึงบริเวณท่าน้ำของวัดเพชรสมุทรวรวิหาร

ในสมัยนั้นจะขายข้าวต้มเพียงชามละ 1 บาท และปรับขึ้น เป็นชามละ 5 บาท ก่อนที่จะปรับขึ้นราคาเป็นครั้งสุดท้ายในราคาชามละ 7 บาทและคุณพ่อก็ได้หยุดขายไปเนื่องจากตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น และก็ต้องหยุดขายชั่วคราว ก่อนที่จะกลับมาขายอีกครั้ง ในราคาชามละ 15 บาท มาจนถึงปัจจุบัน

ตาเจ๊ก เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ทุกวันนี้ต้องตื่นตั้งแต่ 05.00 น. เพื่อออกไปจ่ายตลาด ซื้อวัตถุดิบมาทำเครื่องปรุง ทั้งข้าวต้มเครื่องในเป็ด เครื่องในไก่ ซึ่งจะเตรียมขายวันละ 7 – 8 หม้อ ก่อนจะนำใส่เรือเพื่อเตรียมออกจำหน่ายในช่วงเย็นเวลาประมาณ 15.00 น. และจะกลับถึงบ้านช่วงเวลา 20.00 – 21.00 น.ของทุกวัน สำหรับข้าวต้มที่เป็นที่นิยมของลูกค้าที่มารับประทานคือข้าวต้ม ข้าวแห้งเป็ด

ปัจจุบันช่วงเวลา 16.30 น. ของทุกวัน ตาเจ๊ก จะมาจอดเรือเทียบที่เท้งท่าน้ำของท่าเรือแสงวานิช หลังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ซึ่งบรรยากาศจะเป็นกันเอง เมื่อเรือเทียบท่าก็จะช่วยกันหยิบข้าวของเครื่องปรุงต่างๆ ขึ้นมาวางไว้ที่พื้นของเท้ง และจะมีพรมที่ใช้สำหรับรองนั่ง บางคนก็ยืนกินเพื่อเข้ากับบรรยากาศ ส่วนบางคนก็นั่งริมเท้งชมบรรยากาศที่มีสายน้ำไหลผ่าน

โดยที่บางรายถึงกับเป็นลูกค้าเจ้าประจำและจะมารับประทานเป็นประจำทุกวัน บางเวลาอาจจะดูวุ่นวาย เพราะตาเจ๊กเป็นคนเสียงดังเวลาพูดอาจจะเหมือนคนทะเลาะกัน แต่นั่นก็คือเป็นที่รู้จักกันว่าคือบรรยากาศแห่งความสุข ของข้าวต้มเรือตาเจ๊กแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง

“ตาเจ๊กข้าวต้มเรือ” ยังคงเป็นตำนานที่ยังกล่าวถึงกับ ชีวิตที่เรียบง่าย จากวัย 60 ปี ที่ยึดอาชีพขายข้าวต้มทางเรือตั้งแต่วัย 12 ปี กับการสืบทอดจากผู้เป็นพ่อ ด้วยข้าวต้มชามละ 1 บาท มาเป็น 5 บาท และ มาขายชามละ 7 บาท ก่อนที่คุณพ่อจะหยุดขายไปและ "ตาเจ๊ก" ได้สืบทอดต่อ หันย้อนกลับไปเมื่อ 29 ปี ก่อน ในลุ่มแม่น้ำแม่กลองจะคาคลั่งไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของทางเรือ ทุกๆ เย็นจะได้ยินเสียงร้องขายข้าวต้มลั่นสองฝากฝั่ง จนเป็นที่รู้จักกันในนาม ข้าวต้มตาเจ๊ก

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปลูกหลานไม่สืบทอดต่อกับอาชีพขายของทางเรือ จึงทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือขายนับ 10 ลำต้องทยอยกันหยุดด้วยวัยและสังขารไม่เอื้ออำนวย แต่ยังคงเหลือข้าวต้มตาเจ๊กที่ยังขายอยู่และเหลือเพียงลำเดียว แม้ค่าครองชีพต้นทุนจะสูง แต่ตาเจ๊กก็ยังคงลั่นขอขายราคาเท่านี้ 5 ปี ขึ้น 5 บาท ซึ่งปัจจุบันตาเจ๊กขายที่ชามละ 15 บาท และปี 2560 จะปรับขึ้นเป็นราคา 20 บาท

ซึ่งตาเจ๊กบอก “ขายเท่านี้ก็มีกำไรแล้ว กำไรจากลูกค้าที่มาอุดหนุน กำไรจากความสุขที่ได้ทำตามรอยเท้าพ่อด้วยการยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

เมนูแนะนำ : ข้าวต้ม ข้าวแห้งเป็ด

ราคา : 15 บาท

ที่ตั้ง : จากคลองลัดจวน ตำบลบ้านปรก ไปสิ้นสุดที่เท้งท่าน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

เวลาขาย : 16.30 น. ของทุกวันเรือจะจอดเทียบที่เท้งท่าน้ำของท่าเรือแสงวานิช หลังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร

อัลบั้มภาพ ข้าวต้มเรือ "ตาเจ๊ก" เรือขายข้าวต้มลำสุดท้าย..แห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ภาพที่ 24 / 25

ข้าวต้มเรือ "ตาเจ๊ก" เรือขายข้าวต้มลำสุดท้าย..แห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง