อร่อยติดปาก "สีแยกปากหวาน" Dessert Cafe ดังของอ่างทอง

วันหยุดช่วงสั้นๆ แค่เสาร์ อาทิตย์ จะขับรถออกไปไกลก็คงจะไม่ไหว เราจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปจังหวัดอ่างทอง  จังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพที่หลายคนมองข้าม แต่มีสิ่งดี ๆ แอบซ่อนอยู่ไม่น้อยทีเดียว

จังหวัดอ่างทองอยู่ห่างจากกทม. เพียงแค่ประมาณหนึ่งร้อยกิโลเมตรเท่านั้น ขับรถแบบไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางสายเอเชีย ซึ่่งเป็นถนน 6 เลน ใช้เวลาแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว

สำหรับจุดประสงค์ของการเดินทางไปอ่างทองครั้งนี้ คือไปนมัสการพระใหญ่ วัดม่วง และพระนอนวัดขุนอินทประมูล ซึ่งทั้งสององค์เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองชาวอ่างทองมานาน  

องค์พระใหญ่วัดม่วง

วัดม่วง ตั้งอยู่ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเยอะมาก เพราะความศักดิ์สิทธิ์ และความงามสง่าขององค์พระใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล

เมื่อมาถึงองค์พระ ธรรมเนียมปฎิบัติที่มักนิยมทำกันคือ ขึ้นไปแตะมือขององค์พระและอธิษฐานแล้วจะได้ตามความตั้งใจ ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะทำด้วยเช่นกัน

ที่วัดม่วงยังมี "ลานเปรต" และ "ลานนรก" จำลองการทำโทษคนชั่วในรูปแบบต่างๆ ให้ดูอีกจำนวนมาก เดินดูไปก็ขนลุกกันไป นอกจากนั้นที่นี่ยังมี "ลานเทพ" ที่รวมรูปจำลองเทพจีนไว้ให้เราได้ทำความรู้จัก "ลานวรรณคดีไทย" ประกอบไปด้วยเรื่องราวในวรรณคดีจำลองออกมาเป็นปูนปั้น เห็นแล้วเข้าใจง่ายๆ

นอกจากนี้ยังมีการปั้นหุ่นจำลองของพระภิกษุที่เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังไว้นับร้อยองค์ เรียกว่ามาที่เดียวคุ้มค่าเวลามากๆ 

เราใช้เวลากับวัดม่วงประมาณชั่วโมงกว่า ก็กลับออกมา โดยจุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือวัดขุนอินทประมูล

พระนอนวัดขุนอินทประมูล

วัดขุนอินทประมูลอยู่ในส่วนของตำบลโพธิ์ทอง จากวัดม่วงขับรถมาประมาณ 20 นาทีก็ถึง ต้องยอมรับว่าที่นี่จัดภูมิทัศน์ได้สวยงามมาก ไม่มีร้านค้ารายรอบให้ดูกวนตา ในขณะที่พระพุทธไสยาสน์ก็งามสง่าเหลือเกิน 

ที่เห็นพระนอน ต้องนอนอยู่กลางแดดกลางฝนแบบนี้ เล่ากันว่าเคยสร้างอาคารครอบองค์ท่าน (เห็นได้จากเสาที่ยังเหลืออยู่) แต่ก็ถูกฟ้าผ่าพังเสียหาย เป็นอย่างนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดทางวัดจึงมีความเห็นว่า ท่านอาจจะชอบที่เป็นแบบนี้มากกว่า  จึงไม่มีการสร้างอาคารขึ้นมาอีก

ผ่านไปสองวัดทำเอาอื่มอกอิ่มใจกันไปแล้ว ต่อไปขอไปอิ่มพุงกันบ้าง โดยการปิดท้ายด้วยการแวะร้าน "สี่แยกปากหวาน" Dessert Cafe ที่มีเมนูให้เลือกทานมากที่สุดของอ่างทอง เป็นร้านดังของอ่างทอง ที่ใครมาเที่ยวที่นี่ ต้องแวะชิม

เมนูเด่นของที่นี่มีหลายอย่างที่ถือเป็น Signature คือ "เบลเยี่ยม วาฟเฟิล ผลไม้รวม" ที่มีผลไม้เยอะมาก ทั้งสตอเบอร์รี่ กีวี สัปปะรด แก้วมังกร แอปเปิล คุ้มค่ามากกับราคาแค่ 125 บาทเท่านั้น วาฟเฟิลที่นี่กรอบนอก นุ่มใน ราดด้วยน้ำผึ้งแท้ กินกับผลไม้ที่มีความเปรี้ยวนิดๆ เข้ากันได้ดีมาก แถมยังมีวิปครีมและไอศครีมเสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย 

ส่วนเมนูยอดฮิตของร้านที่เราแอบถามคือ "ไมโลภูเขาไฟ" จึงไม่พลาดที่จะสั่งมาชิม เมนูนี้อร่อยสมกับที่ขายดีมาก พิสูจน์ได้ด้วยการที่มองไปรอบๆ ร้าน แทบทุกคนสั่งเมนูนี้มากิน

อีกหนึ่งเมนูที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่คิอ "เครปเย็น" ที่ยัดไส้ด้วยวิปปิ้งครีมจนพองโต มีให้เลือกหลายแบบทั้งกีวี,กล้วย,ไมโล โอริโอ้,ชาเขียว แต่เราเลือกสตอร์เบอรี่ ซึ่งเข้ากันดีกับไอศครีมที่เสริฟมาพร้อมกัน ถือเป็นเมนูที่ต้องลอง

ปังเย็นของที่นี่ก็มีให้เลือกเยอะมาก เราจึงลองสั่งมาหนึ่งอย่าง เป็น "ปังเย็นโกโก้" พบว่ารสชาติเข้มข้นทีเดียว ส่วนความหวานก็กำลังดี กินกับขนมปัง อร่อยมาก

ในส่วนของเครื่องดื่มที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟมาก เพราะใช้เครื่องชงกาแฟสองหัวอย่างดี สูตรกาแฟก็เทรนมาจากบาริสต้ามือรางวัล 

ส่วนเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ มีทั้งนมสด,น้ำปั่น,อิตาเลียนโซดา แต่มาถึงที่แล้ว จึงขอสั่งเมนูที่เป็นเมนูพิเศษของที่นี่คือ "Mix Fruite" รสชาติดีมาก แม้ว่าราคาจะแรงไปหน่อย แต่ถือว่าคุ้ม อีกเมนูคือ "แตงโมปั่น" เป็นแตงโมปั่นที่รสชาติดีที่สุดที่เคยกินมา

นอกจากเมนูของหวาน สลัดที่นี่ก็ขึ้นชื่อ เราจึงลองสั่ง "สลัดกุ้งกรอบมากิน" ผักสลัดสดมาก กุ้งกรอบจนต้องถามพนักงานว่าทำอย่าไง แต่เขาบอกว่าเป็นความลับบอกไม่ได้  ส่วนน้ำสลัดมีให้เลือกสองสูตรคือสลัดครีม กับ งาญี่ปุ่น 

เมนูอื่นๆ ที่เราสั่งมาลองแล้วตติดใช่ คือ "เกี๊ยวห่มชีต" กับ "ผักโขมอบชีต" รสชาติดีทีเดียวราคาถูกด้วย แค่ 59 บาทเท่านั้นเอง

ปิดท้ายวันนี้ด้วยการซื้อครัวซองต์อัลมอด์ กลับไปฝากคนที่บ้าน เพราะได้ยินมาว่าใครมาร้านนี้ต้องจัดครัวซองค์อัลมอนด์เป็นของฝาก

สรุปว่าคิดไม่ผิดที่มาแวะที่ร้าน "สี่แยกปากหวาน"  ขนมอร่อย พนักงานบริการดี เป็นกันเอง คุยกับพนักงานเลยรู้ว่าเจ้าของร้านเป็นด็อกเตอร์ด้วย เป็นคนอ่างทอง แต่ไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่อยุธยา แต่อยากทำร้านขนมดีๆ ที่เป็นหน้าเป็นตาของอ่างทอง เมืองเล็กๆ แห่งนี้ 

สำหรับร้านอยู่กลางสี่แยกตัวเมืองอ่างทองเลย แต่ข้อเสียคือหาที่จอดรถยาก ยิ่งเป็นคนต่างถิ่นอย่างเราแล้วอาจจะไม่ชิน เท่าที่ถามมาคือถ้ามาจากกทม. พอมาถึงแยกไฟแดงอ่างทองให้เลี้ยวซ้าย สามารถจอดรถได้ริมถนนตลอดแนว หรือมาถึงแยกไฟแดงอ่างทองให้ตรงไฟแดงไป แล้วเตรียมจอดด้านซ้ายมือ ตั้งแต่หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น จนถึงหน้าธนาคาร TMB

ถ้าไปไม่ถูกยังไงก็โทรศัพท์ไปถามได้ที่ 095-252-7825 เฟชบุ๊ค สี่แยกปากหวาน

ทริปเดินทางวันเดียว เที่ยวอ่างทองวันนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบได้ทั้งไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ และกินของอร่อย ใครจะตามรอย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน