ปางอุ๋ง นั่งรถไฟ แว๊นมอไซค์ไปดินแดนโรแมนติก
สวัดดีมิตรรักขาเที่ยวทุกท่านวันนี้เราก็ไม่มีอะไรมากแค่จะมาบอกว่าเราเบื่อ ทำงานแล้วมันเหนื่อยอยากพักผ่อน อยากไปไหนไกลๆสักแห่งไปสัมผัสอากาศเย็นๆ สูดอากาศให้เต็มปอดอยากทำในสิ่งที่ไม่เคยทำนั้นก็คือ นั่งรถไฟฟรี ย้ำนะย้ำว่ารถไฟฟรีไปปางอุ๋งแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก เมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่น่าค้นหา สุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของแม่ฮ่องสอน เมืองที่ป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์ ผู้คนยังน่ารักยังคงวัฒนธรรมแบบดั่งเดิม ปางอุ๋ง เป็นที่ทำการของโครงการพระราชดำริฯ ที่จัดสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีพืชพรรณ ที่กลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศบนที่สูงทดแทนไร่ฝิ่นเดิม
ปางอุ๋ง ดินแดนโรแมนติก
สิ่งที่ต้องทำในการนั่งรถไฟฟรีไปปางอุ๋งแม่ฮ่องสอน
1.ตื่นไปจองตั๋วแต่เช้าแล้วค่อยกลับไปนอน
2.เตรียมบัตรประชาชนไป
3.ของกินไม่ต้องเตรียมหรอกมีของให้กินตลอดทาง
4.เตรียมเก้าอี้เล็กๆไปด้วยเผื่อได้ตั๋วยืนแบบเรา
อาบน้ำในห้องน้ำสาธารณะเสร็จก็เดินออกไปนอกสถานี เพื่อจะไปนั่งสองแถว เพื่อจะไปอาเขต เชียงใหม่ด้วยการนั่งมอเตอร์ไซค์ เขาบอกว่า ถ้ามาเชียงใหม่ ให้อู้กำเมือง ค่ารถแดงจะถูก เราไม่รอช้า เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามสิถ้าพูดภาษากลางค่ารถแดงจะแพงขึ้น อันนี่เราไม่ได้จะมาดิสเครดิตรถแดง
เรา : ปี้ครับไปอาเขตจักบาทครับ
รถแดง : คนละ 30 บาทขึ้นเลย
เรารีบวิ่งขึ้นอย่างทันใด เพราะตอนนี้มันสายมากล่ะ พอไปถึงเรารีบดิ่งไปที่ร้านเช่ามอไซค์ ร้านชื่อว่า ร้าน ไบกี้ พอไปถึงต้องตกใจกับคนที่รอเช่ามอเตอร์ไซค์ แบบเยอะมากจนบอกไม่ถูก อย่างว่าแหล่ะมันเทศกาล เรายืนเอกสาร ปกติจะได้รถเลย แต่ครั้งนี้เรากับรอ ตั้ง 2 ชั่วโมง แต่เราก็เข้าใจ เพราะคนต้องการแว๊นมอเตอร์ไซค์กันเยอะ มันฟินนะแว๊นให้ลมตีหน้ากับอากาศเย็นๆในตอนเช้า
หลังจากที่ได้รถแล้ว เป้าหมายที่แรกของเรา คือ ปางอุ๋ง เชียงใหม่-ปางอุ๋ง ก็ระยะทางประมาณ 250 กิโลโดยประมาณ ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมงเราออกจากร้านไบกี้ เวลา 09.30 น. ไปถึงปางอุ๋งก็ประมาณ 17.00 น. อันนี้ขับไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก สำหรับเราแล้วเราว่าทางสบายขับไม่ยากเลย แต่ก็ต้องคนที่ขับรถแข็งพอควร เดินทางไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะถึงปาย เราก็แวะที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตอนนั้นก็เวลาบ่ายแล้ว ไม่มีหมอกให้ดูแล้ว มีแต่วิวให้ชื่นชมยามบ่ายๆๆ
นี้คือร้านกาแฟระหว่างทางที่เราจะไป ปางอุ๋ง ร้านกาแฟค่อนข้างเยอะมาก กาแฟนี่ล่ะคือตัวช่วยชั้นดีของเรา ในการขับรถ ถ้าไม่มีกาแฟเราคงขับไม่ไหวๆแน่ๆ บางคนบอก M 150 ก็ตัวช่วยชั้นดี แต่เราเลือกที่จะกินกาแฟเพราะมันเยอะจริงๆๆ
เรามาถึง ปางอุ๋ง กันแล้ว และมีเจ้าบ้านมาต้อนรับเป็นอย่างดี แต่เราต้องตกใจอย่างนึ่งและเรารู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ หลายคนบอกว่าไปถึง ปางอุ๋ง ต้องเจอกับหงส์คู่ ที่พระองค์ท่านพระราชทานจากสมเด็จพระราชินี ของเราประทานไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า เราเจอแค่ตัวเดียว ทำให้รู้สึกไม่สบายใจว่าอีกตัวนั้นไปไหนถามใครก็ไม่มีใครรู้ เราได้แต่นึกว่า อีกตัวมันคงยังไม่ออกมาให้ใครเจอเรารอแล้วรอเล่าอีกตัวก็ไปออกมาเหมือนเดิม เราบอกกับตัวเองว่า พรุ่งนี้เราต้องเจอทั้งสองตัว
ด้วยความที่ไม่ได้จองที่พักมามาถึงมันก็เต็มหมดแล้ว เราเดินหาที่พักไปเรื่อยๆถ้าจะขับลงไปพักในหมู่บ้านก็คงไม่ไหวแล้วเพราะมันมืดและหนาวมากในความโชคร้ายยังมีความโชดดีอยู่ เราได้เต็นของชาวบ้าน ให้เราได้หลับนอนในค่ำคืนนี้
บรรยากาศโดยรอบแบบมันดีมาก ฟินเลย
ทุกคนต่างนั่งชมความสวยงามของที่นี่ แบบไม่กระพริบตาเลย เหมือนกับว่า บางช่วงเวลามันก้ไม่มีหมอกให้เห็นแค่ผ่านไปเสี้ยววินาที มันก็มีหมอกลอยอยู่บนผิวน้ำให้เราได้ดู ถึงกับตกใจเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
ล่องแพที่ปางอุ๋งเพื่อชมความสวยงามหมอกบางๆ ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ สลับกับแสงแดดที่สาดส่องลงมาฟินแบบบอกไม่ถูก แพราคาลำละ 150 / 2 ท่าน
ต่อมาเราไปที่บ้านรักไทย อยู่ไม่ไกลจากปางอุ๋ง ใช้เวลาในการแว๊นไม่นานแต่เราไปถึงบ้านรักไทย ก็สายแล้วแดดก็ร้อนนิดๆๆ ที่จริงเราสามารถนอนบ้านรักไทยได้ หมู่บ้านรักไทยเป็นชุมชนจีนยูนนานขนาดใหญ่ มีหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางหมู่บ้าน
และในช่วงเช้าๆก็ดูทะเลหมอกลอยเหนือผิวน้ำแบบปางอุ๋ง แต่เรามาถึงก็สายแล้วเลยไม่เจออะไรเราเลยเข้าไปเยี่ยมชมไร่ชาของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท
ปล.สามารถเข้าชมไร่ชาได้ตั้งแต่ 09.30 น. ไม่เสียค่าบริการ
ถ้ามีเวลาเยอะๆก็ขอให้นอนบ้านรักไทยสักวัน ถ้าเวลาน้อยต้องให้เลือกนอน เราขอเลือกนอนที่ปางอุ๋ง ไม่ได้เพราะดีกว่ากัน แต่ด้วยเพราะเราชอบปางอุ๋งมากกว่า อย่างว่าแล้วแต่คนชอบแบบไหน ต้องการแบบไหน
วันต่อมาเราเดินทางสู่ ปาย และพักที่บ้านกะทิ
บ้านกะทิสด เป็นที่พักเล็กๆ เหมือนอยู่บ้านตัวเองการเข้าไปพักในนี่เราได้พบความแตกต่างจากการพักที่อื่นอย่างสิ้นเชิงพี่ทิเป็นคนที่ใจดีมากๆดูแลเป็นอย่างดี
หลังจากที่เข้าเชคอินเก็บกระเป๋า แล้วแว๊นมาเหนื่อยๆ อยากหาที่ผ่อนคลาย เนี้ยไปที่นี่เลย โป่งน้ำร้อนท่าปาย ระหว่างทางไปน้ำร้อนท่าปายเราก็เจอ ทุ่งปอเทือง
ถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย สามรถซื้อไข่มาลวกได้ มีอุณภูมิประมาณ 36 องศา
ผ่อนคลายเสร็จแล้วไปเดินถนนคนเดินปายกันถนนคนเดินปาย ค่อนข้างใหญ่มากๆมีของกินเยอะมากมีของให้เลือกเยอะมากเราเป็นคนที่ไม่ชอบเดินแวะเอารูปมาให้ดูแค่นี้เนอะ
วันต่อมาเราไปกันที่ทะเลหมอกหยุนไหล เลยหมู่บ้านสันติสุขไปค่าเข้าชม คนล่ะ 20 บาทมีโจ๊ก น้ำร้อนให้กิน แต่พอไปถึงฟ้ากลับปิด
เพราะแบบนี้เราจึงไปกันที่ไปกองแลน หรือ ปายแคนยอนแทน ไปเดินเล่นชิลๆ
สถานีต่อไปของเราคือ สะพานไม้ สะพานบุญ โขกู้โส่เป็นสะพานที่เกิดจากพลังความสามัคคีความศรัทธาของชาวบ้านที่ร่วมมือกันทำเพื่อเป็นทางให้พระภิกษุสงฆ์เดินเพื่อที่จะไม่ได้เหยียบที่นาของชาวบ้านและเป็นสะพานที่ไปมาหาสู่กันของชาวบ้านถ้าจะมา ณ ที่แห่งนี้แนะนำให้มาช่วงหน้าฝนหน้าของการทำนาเพราะสองข้างทางของสะพานจะเต็มไปด้วยความเขียวขจีอากาศสดชื่นไปอีกแล้ว
หลังจากออกจากสะพาน โขกู่โส่ เราขับมอเตอร์ไซค์ย้อนกลับมาที่ปางมะผ้าเรามาพักที่ little edent ที่พักคืนล่ะ 350 บาทเอง คุ้นเกินราคา มีสระว่ายน้ำเล็กๆให้ว่ายมีสระข้ามลำคลองไปในป่ามีมุมน่ารักให้อ่านหนังสือ
เรารีบอาบน้ำแต่ตัวเพื่อจะไปดูทะเลหมอกเราขับรถไปบ้านจ่าโบ่ ทางมืดแต่ไม่อันตรายการขับรถในยามเช้ามันชั่งทรมานชะเหลือเกินแบบมันหนาวและเย็นมากๆจนแบบบิดไม่ขึ้นไปถึงบ้านจ่าโบ่ มันก็เช้าจนเกินไป
ร้านก็ยังไม่เปิดแต่เราอยากไปดูทะเลหมอกที่ผาหมอก แถวๆบ้านจ่าโบ่ จึงได้สอบถามเจ้าบ้านเพื่อให้ชาวบ้านนำทางผาหมอก อยู่ไม่ไกลจากบ้านจ่าโบ่ แต่ต้องมีคนนำทาง เพราะเราไม่รู้จุดที่จะขึ้นและทางขึ้นค่อนข้างชัน ชาวบ้านนำทางคิดคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีได้
โบกมือลา ปางอุ๋ง เมืองแม่ฮ่องสอนถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาพบกันอีกเมืองปายเป็นเมืองที่ค่อนข้างน่าอยู่สำหรับเราไม่เป็นเมืองจนเกินไป ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง แบบที่เค้าว่ากันว่า ปางอุ๋ง มาครั้งเดียวไม่เคยพอ
ที่พักปางอุ๋ง
1. รวมไทยเกสท์เฮ้าส์ที่พักปางอุ๋งติดทะเลสาป 053-611244 มีทั้งหมด 4 แบบ
- บ้านหลังใหญ่ 2 หลัง นอนได้ 4 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 600 บาท
- บ้านหลังกลาง 3 หลัง นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 450 บาท
- บ้านชนเผ่า 4 หลัง นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 450 บาท
- บ้านหลังเล็ก 4 หลัง นอนได้ 2 คน ห้องน้ำรวม ราคา 350 บาท
***ช่วงเทศกาล หรือ ช่วงเดือย พฤศจิกายน - มกราคม ที่พักจะเต็มเร็วมาก หากใครจะไปเที่ยวต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
2. ที่พักปางอุ๋ง บ้านพักร่วมโครงการฯ ในหมู่บ้าน
- บ้านพักมีทั้งหมด 69 หลัง นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 400 บาท
- พักเกินจำนวน คิดเพิ่มคนละ 100 บาท
กรณีพักค้างแรมด้วยเต็นท์
- เต็นท์ จะไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ ให้ติดต่อศูนย์ศิลปาชีพฯ ด้วยตนเอง ก่อนเวลา 12.00 น.
- พื้นที่กางเต็นท์จำกัด 100 พื้นที่ต่อวัน และต้องเดินทางไปถึงปางอุ๋ง ก่อนเวลา 18.00 น.
- พื้นที่สำหรับกางเต็นท์ (นำเต็นท์มาเอง) 70 พื้นที่ ราคา 100 บาท ต่อ 1 หลัง
- พื้นที่สำหรับกางเต็นท์ (มาเช่าเต็นท์ที่นี่) 30 พื้นที่ ราคา 300 บาท ต่อ 1 หลัง
***บริการล่องแพชมบรรยากาศและหงส์ ราคา 150 บาท/2คน
***ช่วงเทศกาลที่พักจะเต็มเร็วมาก หากใครจะไปเที่ยวต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
ระเบียบการจองบ้านพัก ปางอุ๋ง
- โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทยตามพระราชดำริ (ปางอุ๋ง) จะเก็บข้อมูลการจองเอาไว้ 7 วัน
- หากไม่โอนเงินภายใน 7 วัน ถือว่ายกเลิกการจอง และถูกตัดยอดไปให้ผู้อื่นต่อในทันที
- ส่งแฟกซ์ใบโอนเงินมาที่ 053-611-649, 053-611-690 ระบุชื่อผู้พัก/ผู้จอง วันที่เข้าพัก
- เงินที่โอนเข้าบัญชีแล้ว ไม่มีการคืน, สามารถเปลี่ยนวันเข้าพักได้ หากมีที่ว่างในเวลานั้น
- นำใบโอนเงินตัวจริงมาในวันเข้าพักด้วย
- รับจองบ้านพักเฉพาะวันและเวลาราชการ (จันทร์ - ศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 - 16.00 น.)
- รับบัตรค้างแรมได้ทุกวัน เวลาราชการ (จันทร์ - อาทิตย์ ระหว่างเวลา 8.30 - 16.00 น.)
3. บ้านพักของโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
โครงการพระราชดำริปางตอง ปางอุ๋งนั้น มีบ้านพักจำนวน 5 หลัง และพื้นที่กางเต็นท์ทั้งหมด 50 เต็นท์/วัน ไว้คอยบริการให้แก่หน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สมาคม-ชมรม และนักท่องเที่ยว เข้าไปพักแรมและเยี่ยมชม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเอง ติดต่อเจ้าหน้าที่ีี่ โครงการฯ โทรศัพท์ 080-847-8456 และ 087-661-8594
4. โฮมสเตย์ชาวบ้าน
นอกจากที่พักของโครงการซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาป ปางอุ๋งแล้ว ในบริเวณทางเข้าปางอุ๋งยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ สามารถสอบถามได้จากชาวบ้านอีกทางหนึ่งซึ่งชาวบ้านคอยเปิดไว้ให้บริการ
ข้อมูล : www.paiduaykan.com