เดินขึ้นเขาออกกำลังกาย พิชิตเขาล้อมหมวก จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองประจวบคีรีขันธ์
วันนี้ สนุก ! ท่องเที่ยว มีรีวิวจากพันทิปคุณ janniehello มาฝากเพื่อนๆชาวสนุกด้วยนะครับ ซึ่งจะพาชาวสนุกเราไปพิชิต "เขาล้อมหมวก" ที่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เลยทีเดียว
เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองสามอ่าว”
เนื่องจากในตัวเมืองด้านที่ติดทะเลอ่าวไทยนั้นเป็นที่ตั้งของอ่าว 3 อ่าวด้วยกัน
ได้แก่ อ่าวน้อย อ่าวประจวบคีรีขันธ์ และอ่าวมะนาว
กองบิน 5 ปรับข้อกำหนดการปีนยอดเขาล้อมหมวกใหม่ ปีนได้เฉพาะช่วงวันหยุดยาว
ขึ้นฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และห้ามปีนหลังเวลา 10.30 น.
พร้อมทั้งต้องลงทะเบียนก่อนปีน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
(อ้างอิงจากเว็บต่างๆ)
การเดินทางมาประจวบคีรีขันธ์นั้น เราเลือกเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือรถตู้นั่นเอง
ซื้อตั๋วรถตู้แล้ว ราคา 240 บาท นั่งรถประมาณ 4 ชม. กว่าๆ รถจอดให้แวะเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง
ตอนแรกเราก็นึกว่าจะต้องไปขึ้นรถตู้ที่สายใต้ซะอีก แต่นี่เราขึ้นรถที่หมอชิตใหม่
การเดินทางมาหมอชิตใหม่ รถเมล์เราไม่รู้ว่าขึ้นสายไหน
แต่วันนั้นเราเดินทางด้วย MRT ลงสถานีกำแพงเพชร
ทางออกไหนจำไม่ได้ละ คลำทางเอาละกัน
แล้วก็ต่อวิน 20 บาท การเดินทางง๊ายง่าย
อย่าบ่นระบบใหม่ของวินรถตู้ ทำใจร่มๆ เดี๋ยวก็ชินเอง อิอิ
สำหรับใครที่จะเดินทางด้วยวิธีอื่นก็มี เดินทางด้วยรถไฟ รถทัวร์นี่ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า
สำหรับทริปนี้เราได้รุ่นน้องเป็นเจ้าถิ่นพาเที่ยว ให้ที่พัก
วางแผนเอาไว้ว่า
วันแรกนั่งรถตู้ไปถึงประจวบแล้วตอนเย็นไปล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน
วันที่สองตื่นเช้าไปขึ้นเขาล้อมหมวก กลับมาอาบน้ำ บ่ายๆไปเดินขึ้นวัดเขากระจก ขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯ
เมื่อมาถึงประจวบวันแรกก็ไม่รีรอ น้องมารับที่ท่ารถตู้ เก็บของเข้าบ้าน แล้วออกไปขับรถเที่ยวกัน
ที่แรกที่น้องพามาที่ สะพานสราญวิถี จ.ประจวบฯ แลนมาร์คแห่งเมืองสามอ่าว
มาต่อกันที่อ่าวน้อย
มาต่อที่วัดอ่าวน้อย เป็นไม้สักทั้งวัด สวยงามมาก
เราเที่ยวเพื่อรอเวลาล่องเรือ
ล่องเรือกับสามอ่าวปริ้นเซส ขึ้นเรือ เวลา 17:30 ราคา 300 บาท มีน้ำและของว่างให้
ไปยืนสะบัดผมบนเรือ คอแทบเคล็ด พี่ลูกเรือแซวเราว่า วันหลังใช้ซัลซิลนะผมจะได้พริ้ว555
พระอาทิตย์ตกดินแล้ว จบแล้ว 300 บาท
ลงเรือไปกินข้าว ร้านทับสะแก 1 อาหารไม่แพง ไม่ได้ถ่ายภาพมาฝาก โซ้ยแหลก
ขอลาวันนี้ด้วยภาพดาวเคียงเดือนที่เมืองสามอ่าว
พรุ่งนี้เราจะตื่นตี 5 เพื่อไปขึ้นเขาล้อมหมวกกัน
เราเริ่มเดินขึ้นเวลา 6:30 มีแสงสว่างนิดๆ
เส้นทางการเดิน
เส้นทางเดินตอนแรกจะเป็นบันได และมีเส้นทางที่ปีนไต่กับหินปูนอันแหลมคม
ชันประมาณนึง แต่ระยะทางไม่ไกลมาก
ใช้เวลาเดิน 1-2 ชั่วโมง (ทางขึ้น-ลง ทางเดียวกัน)
ระหว่างทางมีพี่ทหารคอยแนะนำและคอยช่วยเหลือตรงทางไต่เชือก
ทางที่เป็นบันได
ใครว่าเดินบันไดไม่เหนื่อย ก้าวถี่ๆและชัน เหนื่อยมาก ทั้งดมยาดม ทั้งย่อตัวลงนั่นหลายรอบเลย
ถึงทางไต่เชือก หินแหลมคมแล้ว ขอพักทำใจแพ้พ นี่น้องถ่ายให้
ไปจ้าไปต่อ ตั้งในไต่เชือกกันต่อ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เราต้องไปให้ถึงจุดสูงสุด
ในที่สุดเราก็มาถึงจุดสูงสุด
ควรพกถุงมือมาด้วยนะ เพราะช่วงบนหินคมมาก
เราเดินมาฝั่งซ้ายก่อน ด้านบนจะมีธงชาติให้โบก วันที่เราไปลมแรงมา ขาสั่นพับๆ
ขอสักรูป คู่กับสาวประจวบ
จำไว้ให้ขึ้นใจ ไม่ควรใส่ Air Max มาปีนเขานะ เพราะพื้นลื่นมาก พารองเท้ามาพังแท้ๆเรา
เอารองเท้าผ้าใบอะไรก็ได้ ที่พื้นยางหนึบๆยึดเกาะดีๆ
เจอค่างแว่นน่ารักมากๆ
เข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆได้นะแต่อย่าไปจับหางน้องเค้า
เราขยับไปฝั่งขวากันบ้าง
อู้วหู บรรยากาศดีมากๆ
คนเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ คือกว่าจะได้รูปที่ไม่มีคนรอนานมากกกก
อ๊ายๆๆ เสียวสุดๆ ลมแรงมากเราไม่กล้ายืน เพราะรองเท้าเราลื่น
ความรู้สึกที่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้หายเหนื่อย อยากอยู่นานๆไม่อยากลง
แต่ก็ต้องลง ให้คนอื่นๆได้ผลัดกันมาชื่นชมบ้าง
1. เขาล้อมหมวกจะเปิดแค่วันหยุดเทศกาลเท่านั้น (หากเทศกาล แต่ฝนตกเค้าก็ไม่เปิดให้ขึ้นนะ)
2. เจ้าหน้าที่เปิดลงทะเบียน 06.00-10.30 น. (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย)
3. เขาล้อมหมวกไม่จำกัดคนขึ้น
4. ควรพกถุงมือไป เพราะช่วงบนหินคมมาก
อยากเห็นคนไทยเที่ยวประเทศไทยกันเยอะๆ