เมื่อฉันออกเดินทาง ตามหาทะเลหมอก ภูทับเบิก เขาค้อ จะเป็นยังไงบ้าง? ตามมาดูกัน ตอนที่1
สวัสดีคร๊า กลับมาพบกับญิ๋งเปรี้ยว พาเพลินกันอีกแล้วนะคะ วันนี้ เค้าจะพาเพื่อน มาออกเดินทางไป ตามหาทะเลหมอก ที่ภูทับเบิก เขาค้อกันนะคะ ●^∀^● สมาชิกร่วมทริป ในวันนี้ มีทั้งหมด 8 คน โดยแต่ละคน อยู่กันหลายจังหวัดมว๊าก บ้างก็บินมาจากภูเก็ต บ้างก็บินมาจากหาดใหญ่ บ้างก็บินมาจากตรัง ส่วนเก๊า ประจำการอยู่ที่กรุงเทพ อิอิ พอถึงวันเดินทาง ก็นัดเจอ สมาชิก ที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปยัง สนามบินเมืองพิษณุโลกกันวันนี้ เราใช้บริการ สายการบิน Air Asia ราคาในการมาครั้งนี้ น่ารักมว๊าก จองช่วงโปรโมชั่น ไป-กลับ 495 บาทเอง (ノ・◡・)ノ ♥
ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 45 นาที ก็มาถึง สนามบินพิษณุโลกแระ เรียกได้ว่า แอร์สาวสุดสวย เพิ่งขายของกินบนเครื่องเมื่อกี้เองนะ เครื่องจะลงจอดแล้วเหรอ?? ลงจากเครื่องปุ๊บ!! o(^ヮ^)o ก็โทรให้พี่คนขับรถตู้ ท้องถิ่น มารับทันที ราคาค่าเช่า อยู่ที่ วันละ 1800 บาท ราคา rate เดียวกับที่กรุงเทพ เลย และที่สำคัญ พี่เค้าชำนาญทางมว๊าก สบ๊าย เลยทริปนี้ ไม่ต้องกางแผนที่แล้วเรา อิอิ สำหรับเพื่อนๆ ท่านใด อยากจะขับรถเที่ยวเอง ในสนามบิน ก็มีบริษัทรถเช่าหลายจ้าวเลยนะ ลองสอบถามดูได้นะคะ
คำขวัญของ "จังหวัดพิษณุโลก" พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา
มาถึง จ.พิษณุโลก สิ่งแรกที่นึกถึง นั่นก็คือ การมาไหว้พระขอพร "พระพุทธชินราช" เสริมสิริมงคลก่อนเริ่มเดินทาง ที่ วัดพระศรีรัตน์มหาธาตุวรวิหาร หลังจากนั้น เราก็แวะมาสักการะ "ศาลสมเด็จพระนเรศวร" ที่พระราชวังสนามจันทน์ เดิมเป็นสถานที่พระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวร เมื่อครั้งเป็นอุปราชครองเมืองพิษณุโลก
ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว สมาชิกเริ่มหิว ถามพี่คนขับรถตู้ ทันที "พี่คะ พี่คะ ถ้ามาถึง จ.พิษณุโลก เค้าต้องทานอัลไลกันคะ??" พี่เค้าบอกว่า ถ้ามาไหว้พระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แล้ว ก็ต้องมากินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ที่ถือกันว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองพิษณุโลก ซึ่งก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ที่ว่านี้ก็ตั้งเรียงกันอยู่หลายร้าน แต่วันนี้ขอเลือกมานั่งที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่าน” ละกัน มีที่จอดรถด้วย อาหารอร่อยนะคะ ราคาไม่แพง อยู่ที่ 35 บาท เอง เค้าชอบบะหมี่หมูสับมากๆ แอบสั่งเบิ้ลด้วย อิอิ
กินอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลานั่งรถยาวๆ ไปภูทับเบิกกันเต๊อะ Let's GO!!ε=(/*>∀<)/ โดยวันนี้ เค้าจะไปทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ทางขึ้นไม่ค่อยชัน แล้วก็แวะชมพระอาทิตย์ที่ ลานหินแตกด้วย ที่นี่มีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ สวยงามด้วยนะ แต่กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้ ต้องเดินผ่านลานหินมีรอยแตกเป็นแนว เป็น ร่อง เหมือนแผ่นดินแยก นูนๆ คาดว่า น่าจะเกิดจากการโก่งตัว หรือ เคลื่อนตัวของผิวโลก
หน้าหนาวนี้ เพื่อนๆ ยังไม่แพลนไปเที่ยวที่ไหน ลองแวะมาชม ต้นพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่ ภูลมโล (อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า) ได้นะคะ ณ ปัจจุบันมีกว่าแสนต้นเลยนะ พี่คนขับรถตู้ เค้าบอกว่า วิวต้นพญาเสือโคร่งที่นี่สวยไม่เเพ้ที่อื่นอย่างแน่นอน
"ภูทับเบิก" เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูงจึงสามารถมองเห็น ทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์
บรรยากาศยามเช้า ณ "จุดชมวิวอาคารหอดูดาวและจุดวัดอุณหภูมิภูทับเบิก" บริเวณนี้ เป็น จุดยอดสูงสุดของภูทับเบิก ถือ เป็น Landmark สำคัญอีกจุดหนึ่งเหมาะสำหรับชมทะเลหมอก ที่ไม่ควรพลาดคะ สำหรับ เพื่อนๆ ท่านใด ที่ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลหมอกยามเช้า ชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น ที่เนินเขาแห่งนี้ก็ยังเป็นจุดกางเต็นท์หลักของวิสหกิจชุมชนภูทับเบิก สามารถมองเห็นวิว ทิวทัศน์ได้รอบด้าน บรรยากาศในช่วงหน้าฝนจะเป็นบรรยากาศของเมฆลอยต่ำ ๆ ลอยไปลอยมา เหมือนอยู่ท่ามกลางสายหมอก แถมยังมีทะเลหมอกหน้าฝนให้ได้ลุ้นกันตลอดทั้งวัน เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มมา ทะเลหมอก เริ่มค่อยลอยผ่านทิวเขาไปเรื่อยๆ จะสามารถมองทิวเขาบนยอดเขาภูทับเบิก ได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนๆสังเกตุให้ดีนะคะ ทางคดเคี้ยว ที่กลางภูเขาลูกนั้น!! นั้นคือ ทางลงของเรา ที่จะไปฟินกันต่อที่เขาค้อ ทางลง หวาดเสียวใช่ได้เลยนะเนี๊ย ี่ สำหรับอาหารการกิน ใครผ่านไป ผ่านมา คงสะดุดตา ไม่น้อยกับ "โรงเตี๊ยมภูทับเบิก" อย่างแน่นอน เป็นร้านที่กว้างขวางสะอาดดูดีตกแต่งสไตล์จีนมีความโดดเด่น พร้อมวิวเขาสวยๆ และไร่ของชาวเขา เมนูแนะนำ ของที่นี่ นั่นก็คือ "ขาหมูหมั่นโถวยูนาน" ตัวขาหมูชิ้นใหญ่ รสชาติดี เนื้อหนังเปื่อยนุ่มทั่วทั้งชิ้น หวานๆ อร่อยดีคะ
หลังจากดื่่มด่ำกับบรรยากาศบน ภูทับเบิก เต็มอิ่มแล้ว!! พวกเราก็จะ ขอไปเก็บทะเลหมอกต่อ ที่ เขาค้อ กันนะคะ Let's GO!!ε=(/*>∀<)/ แต่เมื่อมาถึง จ.เพชรบูรณ์ แล้ว ก็ต้องลองอาหารพื้นเมืองของคนหล่มเก่า กับ เมนูภูมิปัญญา ขึ้นชื่อ กันสักหน่อยนะคะ ที่ร้านนี้ จะเสริฟขนมจีนพร้อมกับ น้ำยา น้ำพริก และน้ำยาป่า โดยจะตักใส่ถ้วย มาพร้อมขนมจีนมาเป็นก้อนๆ คิดแค่ก้อนละ ห้าบาท จะใส่น้ำอะไรก็ตามสบาย ไม่อั้น คิดแค่ค่าขนมจีนอย่างเดียว
อีกหนึ่ง Landmark สำหรับของทริปนี้ ที่คุณมาเที่ยวเขาค้อ ไม่ควรพลาด คือ มาเยี่ยมชมความงามของ "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว" ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ความโดดเด่นอลังการที่ไม่เหมือนใครนอกจากทิวทัศน์สวยๆ ของทะเลภูเขารายรอบและทะเลหมอกสีขาว ก็คือ สีสัน สดใสอันเกิดจากการนำกระเบื้องสีถ้วยชามเบญจรงค์มุกลูกปัดแก้วแหวนเงินทอง สิ่งมีค่าต่างๆ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่งเป็นลวดลายที่สวยงาม เมื่อยามต้องแสงแดดทั่วทั้งอาณาบริเวณจะสะท้อนประกายงดงามราวกับวัดบนสรวง สวรรค์ เป็นสถานที่อันสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ควรค่าแก่การไปเยือน
คำว่า ผาซ่อนแก้ว เป็น ชื่อยอดเขาที่ได้มาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านซึ่งมองเห็นลูกแก้วลอยลงมาจากฟ้า ก่อนลับหายไปบริเวณถ้ำที่ยอดเขากลายเป็นความเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุ เสด็จลงมาและต่อมาก็เป็นที่ตั้งของ “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” ในปัจจุบัน และอีกหนึ่งจุดชมวิว ที่พลาดไม่ได้ คือ บริเวณร้าน "PINO LATTE" นับได้ว่า เป็นร้านกาแฟที่วิวสวยอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อที่ไม่ควรพลาด อยู่ถัดจากวัดผาซ่อนแก้วไปทางเชิงเขา บรรยากาศดีมว๊าก สามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนต่อเนื่องมาจากภูทับเบิก และภูหินร่องกล้าได้อยู่สวยงาม
สุดท้ายนี้!! ต้องขอบพระคุณทุกท่านด้วยน๊า เข้ามาอ่าน และให้กำลังใจกัน
ชอบ กด Like ถูกใจ กด Share ได้เลยนะคร๊า!! เลิฟ เลิฟ
ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ FB Fan page : ญิ๋งเปรี้ยว พาเพลิน IG : YingPreawPaPlearn