ตามรอยเฮียกระทิง (เลือดมังกร) ซอยรมณีย์ เมืองเก่าภูเก็ต ชมสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส | ภูเก็ต

 

 ตามรอยเฮียกระทิง (เลือดมังกร) ซอยรมณีย์  เมืองเก่าภูเก็ต ชมสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส | ภูเก็ต

สวัสดีคร๊า เพื่อนๆ ที่น่ารักทุกท่านนะจ๊ะ  กลับมาพบกับ บล๊อคเกอร์  สายฮา เน้นกิน เน้นเที่ยว ตามสไตล์ ญิ๋งเปรี้ยว พาเพลิน นะคะ วันนี้ ขอเกาะกระแส ละครชุดซีรีย์ส์ฟอร์มยักษ์ เลือดมังกร  ตอน  “กระทิง”  ที่มี พระนางคู่แม่เหล็ก ของวงกร อย่าง พี่เคน ธีรเดช  และ พี่เชอร์รี่ เข็มอัปสร  บอกเลย งานนี้  ละครปังมว๊าก  ติดงอมแงจิงๆ โดย เรื่องนี้  พี่เคน สุดหล่อ รับบท เป็น สองบุคคลิก ที่ปลอมตัวมา  โดยเหตุผล ตามเนื้อเรื่อง อันนี้ต้องลองติดตามชมย้อนหลัง จาก YouTube ได้นะยูววววว แต่ที่เค้า อิน สุดๆๆ  คือ  บทที่พี่เคน ปลอมตัว เป็นธาม ธราธร หนุ่มหล่อมาดขรึม เจ้าของฉายากระทิงดุแห่งเยาวราช หรือที่หลายคนเรียกว่าเฮียกระทิง บอกเลย  ฟินเวอร์  ทั้งดุเดือด เเซ่บบบจิงๆ ลุ้นทุกตอน เรียกได้ว่า ทุกวันจันทร์-อังคาร  ต้องเฝ้าหน้าจอ ทุกคืน อิอิ ระหว่างนั่งดูละครไปอย่างสนุก  ก็มาสะดุดที่ EP 5.  เมื่อวันที่ 1 มินายน 2558 ที่ผ่านมานิแหละจ้า  ตอนที่ เฮียกระทิง กับ ย่าหยา  กำลังหนีลูกกระสูน การไล่ล่าของลูกน้องเสี่ยเล้ง เนื่องจาก เฮียกระทิงกับเสี่ยเล้ง เค้ามีปัญหาเกี่ยวกับชิงไหว ชิงพริบ ด้านธุรกิจ กันมาก่อนแล้ว และ เฮียกระทิง ก็ดั๊น  ไปเปิดร้านทองสาขาย่อยที่ภูเก็ตตัดหน้า  เสี่ยเล้ง อี๊ก  งานนี้ เสี่ยเล้งทนไม่ไหว เลยสั่งในลูกน้องมาจัดการกับ เฮียกระทิง ลุ้นมว๊ากพูดเลย

แต่ เอ๊ะ Location สถานที่ถ่ายทำ  คุ้นๆ นะ  ช่าย  ซอยรมณีย์  ย่านเมืองเก่าภูเก็ต หรือเปล่าน๊า??   เพราะแอบสังเกตุสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส แบบนี้  มีไม่กี่ที่หรอก อิอิ

ซอยรมณีย์ หรือ คนภูเก็ตเรียกในภาษาจีนฮกเกี้ยนว่า ฮั่งอาหลาย (巷仔內)  ถือเป็นซอยที่มีชื่อเสียง เป็น Landmark สำหรับนักเที่ยวที่แวะมาเยือนภูเก็ต  มักจะถ่ายรูปสวยๆ บริเวณแถบนี้ ด้วยเพราะว่าตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของตึกเก่าศิลปะชิโนโปรตุกีสอันเป็น สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ ศิลปแบบภูเก็ต โดยเฉพาะที่ซอยรมณีย์ตึกเก่าเหล่านี้ได้รับการบูรณะใหม่โดยใช้สีสันสวยงาม  มีทั้งแบบสวยหวานและสดใส โดยประวัติ ดั้งเดิมของที่นี่  เล่าว่า ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมในย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ตบนถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนกระบี่ ถนนพังงา ถนนเยาราช และซอยรมณีย์ รวมทั้งถนนใกล้เคียงเริ่มมีการพัฒนาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงของการล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตกแลกะการค้าแร่ดีบุกเฟื่องฟู ในยุคนั้นภูเก็ตเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติทั้งจีน อินเดีย อาหรับ มาเลย์ และยุโรปเข้ามาทำการค้าและอาศัยอยุ่ เช่นเดียวกับเมืองท่าอื่น ๆ ในแหลมมลายู เช่น ปีนัง มะละกา และสิงคโปร์ การก่อสร้างและออกแบบอาคารจึงได้รับอิทธิพลจากนานาชาติไปด้วย ลักษณะของสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าในเมืองภูเก็ตอาจแบ่งได้ 3 ยุค คือ ยุคแรกประมาณช่วง พ.ศ. 2411-2443 เป็นช่วงของการเริ่มพัฒนาเมือง ยุคที่สอง พ.ศ. 2444-2475 เป็นช่วงของการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมเอเชียกับยุโรป และยุคที่สามยุคนี้ได้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต ซึ่งชาวภูเก็ตทุกคนภาคภูมิใจ และตั้งใจจะรักษาให้คงอยู่สืบไป