ตอนที่ 1 : แบกกระเป๋า เที่ยวยุโรป 15 วัน ฝรั่งเศส สวิส อิตาลี กับผองเพื่อน ราคา 67,xxx บ. ไม่รวมกินช๊อป (เที่ยวหนักมาก เก็บทุก Landmark ไม่ชะโงกทัวร์)
สวัสดีคร๊า กลับมาพบกับญิ๋งเปรี้ยว พาเพลินกันอีกแล้วนะคะ =^____^= ก่อนหน้านี้ ช่วง วันที่ 04 - 18 เมษายน 2559 เค้าและ ผองเพื่อน ทั้ง 6 ชีวิต ได้ไป แบกกระเป๋า เที่ยวยุโรป 15 วัน ที่ ฝรั่งเศส สวิส อิตาลี มาจร้า
ระหว่าง ที่เดินทาง ก็มีการอัพรูป การเที่ยว ตลอดทริป เป็นระยะๆ ทำให้ มีเพื่อนๆ หลายท่านหลังไมค์ มาสอบถาม ข้อมูลการเดินทาง ราคาที่พัก ค่าใช้จ่ายตลอดทริป เป็นอย่างไรบ้าง? วันนี้ เค้าจะมาแชร์ ประสบการณ์ ตลอดทริป ถึงที่มา ที่ไป ความเป็นอยู่ อาหารการกิน รวมทั้ง การเดินทางไปในแต่ละที่ ว่า พวกเราวางเเผนยังไงกันบ้างนะจ๊ะ ก่อนอื่นเลย เพื่อนๆ คงอยากทราบ ค่าใช้จ่าย ของทริปนี้ กันก่อนใช้มั้ยคะ? โดยเค้าจะแยกแต่ละประเภทดังนี้คะ ปล. ทริปยุโรป ในครั้งนี้ เป็นการมาครั้งแรก ของเค้า บางเส้นทาง หรือ บางสถานที่ บางท่านอาจจะคิดว่า น่าจะ save cost ได้มากกว่านี้ หรือ เพื่อนๆ ท่านใด มีข้อมูลเสนอแนะอย่างไร ก็สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้นะจ๊ะ
ตอนที่ 1 : ในครั้งนี้ จะว่าด้วย การเดินทาง และ การท่องเที่ยวที่ ประเทศฝรั่งเศส กันนะคะ
การเดินทางของทริปยุโรปในครั้งนี้ เริ่มจาก กรุงเทพ-มาเลย์ ด้วยสายการบิน Air Asia ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น ต้องทำการเปลี่ยนสนามบิน จากอาคาร KLIA2 มา check in ไป ปารีส ที่ สนามบินโดยผ่าน KLIA Ekspres ค่ารถไฟฟ้า 2 ริงกิตมาเลเซีย หรือ 20฿ ไทย หลังจากนั้น ก็ออกเดินทางจาก KUALA LUMPUR - ABU DHABI ด้วยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS ใช้เวลาทั้งหมด 7 ชม. นอนยาวกันมา เรื่อยๆ ขอบอกว่าอาหารเช้าบนเครื่องอร่อยนะจ๊ะ แนะนำให้ลอง Omelet กะไส้กรอกไก่ เมนูแพนเค้กซอสเบอรี่ก็ใช้ได้ แต่จะหวานๆหน่อย #ข้อแนะนำ ถ้าใครคิดจะบินมาขึ้นเครื่องที่ Kl อย่าลืมเผื่อเวลาเยอะๆ นะคะ เพราะสนามบินใหม่ ใหญ่มาก
บรรยากาศ ภายในเครื่อง เป็นแบบ 2-4-2 ขาสั้นแบบเค้า เหยียดขาสบาย อิอิ มีพื้นที่ให้เอี้ยวตัวไปมา มีรองคอ มีผ้าห่ม หูฟัง ผ้าปิดตา ให้บริการ พร้อมสรรพ หน้าจอ คือดีงาม มองเห็นกล้องหน้าเครื่องบินด้วย ตอนเครื่องกำลังขึ้น เห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลย สวยฟุดๆๆ แอบปลื้ม ที่มีจุด usb สำหรับชาร์ตไฟนิแหละ เล่นเกมส์ ฟังเพลงดูหนังเพลินๆ อยากกินอะไร?? สั่งได้เลย ฟรีนะจ๊ะ สำหรับใครไม่สบาย อย่าลืมเตรียมยามาด้วยนะ เพราะบนเครื่องมีไว้สำหรับขายเท่านั้นจ๊ะ หลังจากเดินทางมาราธอน กว่า 20 ชั่วโมง จาก กรุงเทพ- มาเลย์ >> มาเลย์ - อาบูดาบี >> อาบูดาบี - ปารีส เรียกได้ว่า นอนบนเครื่อง กันมาเต็มอิ่มมากๆ ณ ตอนนี้ เพื่อนสาวกำลังวุ่นวายกับการหาทางไปที่พัก ที่ได้ทำการจองไว้ กับ Airbnb ชื่อ appartement très ensoleillé ซึ่ง เวลาในขณะนั้น ก็ประมาณ สักบ่ายสามโมงกว่า แต่เรานัดเจ้าของอพาธเม้นไว้ ประมาณ 1 ทุ่ม ตรง เวลาเหลือๆ เอ๊ะหรือเราจะไปไหนกันดี?
ทริปนี้เราจะอยู่ที่ ฝรั่งเศส ตั้งแต่วันอังคาร ถึงอาทิตย์เช้า เราเลยตัดสินใจ ซื้อตั๋ว Pass Navigo ในราคา 26.25€ หรือ 1,050฿ เพราะบัตรนี้คุ้มสุดแระ สามารถเที่ยวได้ทั้งตั้งแต่ โซน 1-5 unlimited ถือได้ว่าเก็บ landmark สำคัญของทริปได้ครบถ้วนเลยจ้า สามารถซื้อได้ออฟฟิศขายตั๋วรถไฟ ที่สนามบินค่ะ
เจ้าหน้าที่น่ารักมาก ค่อยๆ อธิบายตั๋วเเต่ละประเภท ช่วยดูว่าเราเที่ยวที่ไหนบ้าง บัตรแบบไหนคุ้มที่สุด ขอบพระคุณนะคะ #ข้อแนะนำ ถ้าเพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกประเภทบัตรไม่ถูก แนะนำให้ทำ Note เล็กๆ ที่เที่ยวของเราไว้ แล้วก็ถามเจ้าหน้าที่ได้คะ เจ้าหน้าที่จะวงๆ ว่าบัตรแต่ละที่ ไปตรงไหนได้บ้าง อันไหนครอบคลุม อันไหนต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ ปล. อย่าลืมหยิบรูปถ่ายติดบัตรมาจากเมืองไทยด้วยนะ
หลังจากได้ Pass Navigo มาแว้ว ต้องติดรูปถ่ายด้วยนะ ซื้อตั๋วมาแล้ว ไปไหนก็ได้ ในเมื่อมีเวลาก่อนนัดหมาย ประมาณ 3 -4 ชั่วโมง เหล่าเพื่อนๆ ก็เริ่มเปิด Google โดยใช้ Wifi Free ที่สนามบินนั่นแหละ หาข้อมูลที่เที่ยวใกล้ๆ ที่พัก ข้อมูลการฝากกระเป๋า แต่สุดท้ายแล้ว คำนวณไป คำนวณมา กว่าจะเดินทางไปยังที่ฝากกระเป๋าในเมือง ไปกลับ มีเวลาเที่ยวได้เเค่เเปร๊บเดียว ก็เลยคิดว่า พวกเราลากกระเป๋าไปรอที่อพาธเม้น แล้วก็หาอะไรทานแถวนั้น น่าจะดีกว่า เพราะทุกคนก็เริ่มหิวกันแร๊ะ อันนี้ ขอแชร์ประสบการณ์ เล็กๆน้อยๆนะคะ รถไฟฟ้าใต้ดินที่นี่ ไม่ค่อยมีบันไดเลื่อนนะจ๊ะ เพราะฉะนั้น คุณจะต้องแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นลงบันได เป็นว่าเล่นอย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ ปล. ผู้ชายที่นี้หล่อ และมีน้ำใจ ช่วยแบกกระเป๋าตลอดทาง รักอะคะ ถามทางก็วิ่งได้ดูป้ายถนนมาให้ แต่ก็มีหลายคนเตือนเรื่องมิจฉาชีพเหมือนกัน เอาเป็นว่า ก็ระวังตัวกันนิดนึงเนอะ ปล.2 ตำรวจชาย ที่นี่ เค้าคัดหน้าหรือเปล่าหล่อเกิ๊น หล่อทุกคน จิงๆนะ
หลายๆคนคงคิดว่า ที่พักที่แพรรีส จะแพงแน่เลย ขอบอกเลย พวกเรา นอนกัน คืนละ 700฿ เองนะยูวววว ที่พักของเรา ชื่อ appartement très ensoleillé จองผ่าน Airbnb เป็น คอนโดมี 3 ห้องนอน สำหรับ 6 คน มีฮิตเตอร์ แบบ auto มีห้องครัว ตู้เย็น กาน้ำร้อน เตาอบ เตาไฟฟ้า ผ้าขนหนู พร้อมสรรพ
ต่อจากนี้ จะเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศส ตลอด 5 วัน ของพวกเรานะจ๊ะ พวกเราไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ติดตามรับชม รัวๆ ได้เลยจ้า
หอไอเฟล (Eiffel Tower หรือ La tour Eiffel)
สร้าง ด้วยเหล็กขึ้นเพื่อเป็นที่เปิดงาน World's Fair ของปี 1889 และตั้งชื่อตามผู้ออกแบบคือ Alexandre Gustave Eiffel ด้วยศิลปะของการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และชาญฉลาด การเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในฝรั่งเศส และการเป็นอนุสาวรีย์ (แบบเสียค่าเข้าชม) ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก ที่นี่จึงได้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศฝรั่งเศส การเดินทาง : Metro สาย 6 : สถานี Bir-Hakeim / Metro สาย 9 : สถานี Trocadero (exit 2 - Pont de Bir-Hakeim - Tour Eiffel) / RER สาย C : สถานี Champs de Mars-Tour Eiffel ในช่วงค่ำประมาณ 20.00 น. จะมีการเปิดไฟที่ตัวหอคอยไอเฟลมีความยาวประมาณ 10 นาที สำหรับผู้รักการถ่ายรูปทั้งหลาย คุณจะได้ฟินถ่ายรูปหนำใจแน่จากมุมทั้งด้านหน้าที่มีสวนและด้านหลังที่เป็น ฝั่งแม่น้ำแซน (Seine River) เมื่อมาทั้งที ก็ขอให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจจากชั้นต่างๆ บนของหอนี้ด้วย โดยซื้อบัตรได้ที่บู้ธบริเวณฐานของหอไอเฟล (คิวยาวมากๆ) หรือเว็บออนไลน์ มุมถ่ายรูปที่นิยมกัน ก็ต้องเดินข้ามมาทาง Champ de Mars เพื่อมองหอไอเฟลให้เต็มตา ตอนขากลับรถไฟฟ้า หนาวเกิ๊น ขอแวะหาอัลไลทำร่างกายอุ่นสักแปร๊บนะ ของกินที่นี่ จานใหญ่มว๊าก กินทุกวันจนกระเพาะขยายแระ
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ *(*Louvre Museum หรือ *Musé*e du Louvre)
#สวยจนตะลึง ต้องยอมใจเค้าเลย ค่าเข้า 15€ หรือ 620฿ เดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวงก่อนที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จะย้ายไปประทับที่พระราชวังแวร์ซายส์ ปัจจุบันลูฟร์ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่า ระดับโลกจำนวนมาก รวมไปถึงภาพโมนาลิซ่า ศิลปะภาพวาดชิ้นเอกของโลกด้วย ไม่เพียงแต่ศิลปะภาพวาดและโบราณวัตถุฝรั่งเศสเท่านั้น แต่เราจะได้ยลภาพวาด รูปปั้น และวัตถุโบราณจากอียิปต์ กรีก โรมัน เอทรุสแกน (Etruscan กลุ่มชนอารยธรรมที่อยู่บริเวณตอนกลางของอิตาลี่) ตะวันออกกลาง และศิลปะของอิสลามอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน เพราะมีทั้งสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามและเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อ เสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเดินทาง : Metro สาย 1 : สถานี Louvre-Rivoli / Metro สาย 1 , สาย 7 : สถานี Palais-Royal-Musee du Louvre (exit 2 Place du Palais Royal) นิแค่ออกจากรถไฟฟ้า ก็ตะลึงแพล๊บ เฮ้ยยย หล่อจุง แค่ทางเข้า ก็สวยงามแล้วอะ ตื่นเต้นนได้อีก สถาปัตกรรม คืองาม ได้มาสัมผัสสักครั้งก็ชื่นใจ การซื้อตั๋วมาจากเมืองไทยก่อน คือดีอะ ไม่ต้องฝ่าฝูงชน คนเยอะแยะ อิอิ ไปถึง ก็ยืนถ่ายรูปรอคิวเข้าได้เลยจ้า
เดินชมพิพิธภัณฑ์ ไปสักพัก ก็เริ่มหิว ก็เริ่มหาของกินในนี้นิแหละ มีทั้งเซตไก่ย่าง เซตสปาเก็ตตี้ เซตขนม เซตแซลม่อน ในบรรดาที่ลองกินมาทั้งหมด เซตไก่ย่างชนะเลิศสุดแระ Set นี้ 14€ หรือ 560฿ แบ่งกันกินกะเพื่อนสองคน บรรยากาศยามค่ำคืน ก็สวยงาม คลาสสิคไปอีกแบบนะ
สะพานกุญแจแห่งรัก (Pont des Arts)
สะพานข้ามแม่น้ำแซนนี้เป็นสะพานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองปารีส ที่ปลายสะพานทอดไปเห็นโดมสวยๆของ Institut de France มีคู่รักหลายคู่นิยมนำพวงกุญแจมาคล้องไว้บนสะพานแห่งนี้ ปลายสะพานเป็น Institut de France สามารถเดินมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประมาณ 300 เมตร
แม่น้ำแซน *(*Seine River หรือ *La Seine à Paris*)
พลาดละถ้าคุณไม่ได้มาชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำแซน ซึ่งไหลผ่านสถานที่สำคัญและย่านสวยงามของกรุงปารีส ทั้งหอไอเฟิล มหาวิหารนอเทรอดาม แกรนด์พาเลส (Grand Palais) พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ เป็นต้น เราขอแนะให้ล่องเรือยามใกล้ค่ำเพื่อที่จะได้ฟินกับการชมทิวทัศน์ของเมืองและสถาปัตยกรรมสวยงามยามต้องแสงอาทิตย์สีส้มและยามต้องแสงไฟในช่วงราตรี สามารถเดินมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประมาณ 300 เมตร
มหาวิหารนอเทรอดาม *(*Notre Dame Cathedral หรือ *Notre Dame de Paris*)
เป็น ศาสนสถานนิกายคอทอลิกที่สำคัญของฝรั่งเศส เพราะเคยเป็นศูนย์กลางของเมืองในยุคกลาง (Medieval) จนถึงปัจจุบัน เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของ โลก สถาปัตยกรรมของมหาวิหารนี้ใช้ศิลปะที่ละเอียดอ่อนสไตล์กอธิก (Gothic) ใช้โครงสร้างที่เป็นไม้ และใช้วัสดุอื่นๆ อีก เช่น หิน ตะกั่ว และกระจกสี ภายในวิหารมีรูปปั้นและภาพจิตรกรรมที่สวยงามเกี่ยวกับพระแม่มารี และต้องขึ้นบันไดมากถึง 387 ขั้นเพื่อไปถึงยอดของโบสถ์ เรียกได้ว่า มหาวิหารนอเทรอดามแห่งนี้มีทั้งความงดงามและใหญ่โตหรูหรามากทีเดียว #เข้าชมฟรี การเดินทาง : Metro สาย 4 : สถานี Chatelet หรือ Saint-Michel / Metro สาย 1 , 11 : สถานี Hotel de Ville / Metro สาย 7 : สถานี Chatelet หรือ Pont Neuf / RER สาย B , C : สถานี Saint-Michel - Notre-Dame หรือสามารถเดินมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประมาณ 1.5 กม. เดินเลียบริมแม่น้ำแซนมาเรื่อยๆ
โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ *(*Sainte Chapelle)
เป็น โบสถ์ที่ใช้สำหรับสวดมนต์ของราชวงศ์โดยเฉพาะ ซึ่งใช้ศิลปะสไตล์กอธิคในช่วงยุคกลางและประดับด้วยกระจกสีสไตล์ศตวรรษที่ 13 ที่สวยงามมากมายจนเรียกได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีคอลเล็คชั่นกระจกสีของศตวรรษนี้มากที่สุดเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นโบสถ์ขนาดเล็ก แนะนำว่า ไปช่วงเช้าจะดีที่สุดเพราะยังมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะและจะได้เที่ยวสบายๆ **ใกล้กับโบสถ์นอทเทอร์ดัม #ค่าเข้า10€ หรือ 400฿
ในส่วนของ มื้อเย็นของเรา แวะชิมอาหารประจำถิ่นเมนูนี้สักมื้อนะจ๊ะ ที่ร้าน Le Jardin Du Roy แถวๆ มหาวิหารนอเทรอดาม เดี๋ยวจะโดนหาว่าไปไม่ถึงฝรั่งเศสเอา! กับเมนู หอยทาก หรือเอสคาโก้ (escargot) เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างหรูของฝรั่งเศสที่ชาวต่างชาติหรือชาวไทยเราอาจ มองว่าแปลกเล็กน้อย แต่ที่ฝรั่งเศสคนนิยมกันมาก (และมากที่สุดในโลก) ด้วยนะยูววว
สำหรับเค้า บางตัวก็อร่อย บางตัวก็คาวนิดนึง แต่สำหรับเค้า เมนูนอกสายตา อย่าง ฟองดูเนื้ออร่อย บอกเลย ใครมาที่นี่ อย่าลืมลองนะ เนื้อสดๆๆ ทอดในกระทะร้อนๆ ดิฟด้วยซอส จิบด้วยไวน์แดง คือเริ่ดคะเริ่ด ค่าอาหารอยู่ที่ประมาณ 10-15 € หรือ 400-620฿
ถนนฌ็องเซลิเซ่และประตูชัยนโปเลียน *(*Champs-Élysées & Arc de Triomphe)
ถนนฌ็องเซลิเซ่ได้รับขนานนามว่า ถนนที่สวยงามที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งเริ่มต้นจาก Place de la Concorde เป็นที่ตั้งของพลาซ่าที่มีอนุสาวรีย์ยอดพีระมิดสไตล์อียิปต์ ผ่านกรองด์ปาเลส์ (Grand Palais) เปอตีปาเลส์ (Petit Palais) โรงละครรงปวง (Rond-Point) โรงละครมาริก์นี่ (Marigny) และย่านช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ถนนสายนี้ไปจรดที่ประตูชัยนโปเลียนหรือประตูชัยปารีส ฝรั่งเศส อนุสรณ์สถานสำหรับนโปเลียนและผู้ที่ต่อสู้และนำชัยชนะของสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียน เราสามารถขึ้นไปชมชั้นบนของประตูชัยได้ จากจุดสูงของประตูชัยนี้ คุณจะได้ชมและเก็บภาพถนนฌ็องเซลิเซ่และถนนสายอื่นๆ รวม 12 สายที่ทอดยาวมุ่งสู่ประตูชัยนี้ การเดินทาง : Metro สาย 1 , 2 , 6 : สถานี Charles de Gaulle-Etoile / Metro สาย 1 , 13 : สถานี Champs-Elysees-Clemenceau / RER สาย A : สถานี Charles de Gaulle-Etoile
พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles)
เป็นพระราชวังที่สวยงาม สร้างขึ้นโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส มีนายช่างสถาปนิก อัลเดรด เลอ นอสเตอร์ เป็นผู้ออกแบบ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2204 (ค.ศ. 1661) ใช้เวลาในการสร้างอยู่นานถึง 30 ปี จึงแล้วเสร็จ สิ้นเงินค่าสร้าง 500,000,000 ฟรังก์ ใช้คนงาน 30,000 คน ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างและศิลปกรรมก่อสร้างที่งดงามมาก การเดินทาง : Metro สาย 1 , 2 , 6 : สถานี Charles de Gaulle-Etoile / Metro สาย 1 , 13 : สถานี Champs-Elysees-Clemenceau /RER สาย A : สถานี Charles de Gaulle-Etoile ขนม มาการอง LADURÉE ร้านในตำนาน จากแพรรีสส ที่พารากอน ก็มีขายนะ แต่มาถึง ฝรั่งเศส ทั้งที ก็ขอลองกินแบบ Original หน่อยนะยูวว ดาราเทวีชิดซ้าย ความอร่อยให้ห้าดาว เพราะส่วนตัวชอบกินมาการอง แบบนี้
เมนู Breakfast ของพวกเรา กินง่ายๆ จิบกาแฟ กินขนม เบาๆ ก่อนออกเดินทาง ปล. ขนมที่นี่ อร่อยแระฟินมาก ชอบจุง กินทุกวัน ไม่เบื่อ ชีสที่นี่ อร่อยทุกเมนู มาแล้วอย่าลืมลองนะคะ ใครชอบกินร้อนๆแบบเค้า บอกให้อบร้อนได้นะ
มงต์มาร์ทร์ (The Basilica of the Sacred Heart of Paris หรือบาซิลิก้า)
หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส ตั้งอยู่บนยอดของเนินเขามงต์มาร์ทร์ (Montmartre) อยู่ทางทิศเหนือของปารีส เป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาวฝรั่งเศสซึ่งเสียชีวิตจากสงครามกับเยอรมนี โดยใช้ศิลปะสไตล์โรมัน-ไบเซนไทน์และประกอบด้วยสวน น้ำพุ หอระฆัง และตัวอาคารที่มียอดเป็นลักษณะโดมและตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก ที่โดมกลางซึ่งสูงที่สุดของอาคารนั้นเปิดให้เราขึ้นไปชมวิวปารีสแบบพาโนราม่าได้ การเดินทาง : Metro สาย 2 : สถานี Anvers / Metro สาย 12 : สถานี Abbesses หรือจะเดินมา จาก มูแล็ง รูจ ประมาณ 1 กม. อันนี้ปลื้มมาก ชอบทั้งโบสถ์ ชอบทั้งวิวเมือง ชอบทั้งถนนคนเดิน ฟินอะคะ
MoulinRouge ตั้งอยู่ในเขต Pigalle ไม่ห่างจาก Montmarte มากนัก คือโรงละครคาบาเรต์เก่าแก่ของกรุงปารีส
ถ้าจำ can-can dance จากในหนังได้ ที่นี่ถือเป็นจุดเร่ิมต้นของการพัฒนารูปแบบการร้องการเต้นจนกระทั่งแพร่หลาย ไปทั่วยุโรป สถานที่แห่งนี้จะโดดเด่นจนจำได้เพราะมีกังหันสีแดงตั้งอยู่ทางด้านหน้า การเดินทาง : Metro สาย 2 , 12 : สถานี Pigalle
โรงละครโอเปร่า (Opera)
โรงละครหรูใจกลางเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นรวมถึงประวัติอันยาวนาน จนกลายมาเป็นละครเวทีชื่อดังอย่าง The Phantom of The Opera การเดินทาง : Metro สาย 3 , 7 , 8 : สถานี Opera / RER สาย A : สถานี Opera #จากบ้านมาไม่กี่วัน เริ่มคิดถึงอาหารไทย หนักมาก
สตรอว์เบอร์รี หวานกรอบ กล่องละ 40฿
ข้อดีของที่พัก คือมีครัว ให้ทำอาหารเองได้
Super market ก็อยู่ใกล้ที่พัก
แถมมีแม่ครัวใหญ่มาเอง ทริปนี้ บอกเลย อิ่ม อร่อย ได้อีก
กิจกรรมที่คู่ควรกับสาวๆ วันนี้เป็น Shopping day ใครอยากซื้อ Brand ไหน Go go go เลยจร้า
La Vallee Village Outlet
การเดินทาง : RER สาย A : สถานี Val d'europe อยู่ก่อนถึง Disneyland Paris หลังจากออกมาจาก สถานีแล้วให้เดินไปทางขาวมือเข้าห้าง และ เดินต่อไปจนสุดทะลุห้าง ประมาณ 700 เมตร ตรงทางออกสุดทาง จะมีร้าน McDonald อยู่หัวมุม และท่านก็จะเข้าสู่จุด Outlet ลดราคากระหน่ำของ ปารีส ส่วนใหญ่จะเป็น สินค้าตกรุ่นหรือ ขายไม่ออก อาทิ เช่น longchamp, Jimmy choo, Raph Lauren, Salvatore Ferragamo, nike, puma , Vans, CK, Burburry, D&G, Paul Smith, Samsonite, Bally, Celine ตอนแรกก็งงๆ ทำไม แต่ละคน ถึงเหมา กระเป๋ากันมากมายขนาดนี้ เรียกได้ว่า ของใหม่มาปุ๊บ คนคว้าใส่แขนแบบนี้ปั๊บเลย พอไปดูป้ายราคาเท่านั้นแหละ ท่านผู้ชมมมม longchamp หูสั้น ใบเล็ก ใบละ 1,4xx฿ สอยสิคะ รออะไร =^__^= อัลม่อนเคลือบช๊อคโกแลต ใน Outlet อร่อยต้องลอง หอมหวนรัญใจสุดๆ
Goodbye Paris Next station >> Switzerland
ความสนุก ยังไม่จบเพียงเท่านี้ สามารถ คลิกตามไปอ่าน #ทริปยุโรปเดอะซีรี่ย์ ตอนถัดไปได้เลยจ้าตอนที่ 2 : ว่าด้วยเรื่อง การท่องเที่ยวในสวิสเซอร์แลนด์ สุดยอดดินแดนในฝัน ของใครหลายคน จะงดงามตระการต่อขนาดไหน
สุดท้ายนี้!! ต้องขอบพระคุณทุกท่านด้วยน๊า เข้ามาอ่าน และให้กำลังใจกัน
ชอบ กด Like ถูกใจ กด Share ได้เลยนะคร๊า!! เลิฟ เลิฟ
ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ FB Fan page : ญิ๋งเปรี้ยว พาเพลิน IG : YingPreawPaPlearn