ตำนานความเชื่อ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในไทย...ที่ควรไปลองสักครั้ง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นเรื่องเล่าและสืบสานวัฒนธรรมนั้นไว้จนมาถึงปัจจุบันจนเกิดคำว่า "ตำนาน"

การท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใดที่หนึ่งนอกจากจุดมุ่งหมาย ก็คือความเชื่อและศรัทธาของนักท่องเที่ยวต่อสถานที่นั้นๆที่ได้ฟังได้ยินมาและอยากไปสักครั้ง

วันนี้เราจะพาไปชมสถานที่เที่ยวที่มีตำนานความเชื่อเล่าขานกันมารุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จะมีที่ใดบ้างไปดูกันดีกว่าครับ

1.สะพานซูตองเป้ จ.แม่ฮ่องสอน (สะพานอธิษฐานสำเร็จ)

สะพานซูตองเป้ มีความยาว 600 เมตร เป็นสะพานที่ทำมาจากไม้ไผ่ ผ่านลำน้ำแม่สะงาและทุ่งนาของชาวบ้านทำให้เกิดความสวยงามเป็นอย่างมาก 

โดยสะพานนี้สร้างขึ้นแรงศรัทธา ความร่วมมือกันของ พระภิกษุ ชาวบ้าน โดยไม่ได้ของบประมาณจากทางรัฐเพื่อเป้าหมายที่จะออกมาบิณฑบาตในยามเช้า

เนื่องจากแรงศรัทธา และความสามัคคี สะพานไม้นี้จึงได้ชื่อว่า "ซูตองเป้" หมายถึงความสำเร็จ เป็นสะพานแห่งความสำเร็จ

"ซึ่งเขาว่ากันว่าใครที่เดินผ่านสะพานนี้แล้วไปอธิษฐานที่ปลายทางจะสำเร็จในเรื่องที่ขอกันเลยทีเดียว"

อ่านเพิ่มเติม >> สะพาน 'ชูตองเป้' สะพานไม้แห่งศรัทธา จ.แม่ฮ่องสอน

 

2.เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ (เมืองที่ห้ามพูดโกหก)

เมืองลับแล เป็นชุมชนเล็กๆในจังหวัดอุตรดิตถ์ ในสมัยก่อนการเดินทางมานั้นไม่สะดวก เลยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่อยู่ในที่ลับมองไม่เห็นนั่นเอง

ชุมชนลับแลเป็นชุมชนที่น่ารัก โดยปัจจุบันถูกผลักดันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพ เดินซื้อของ จุดเด่นของที่ จ.อุตรดิตถ์ เลยทีเดียว

"โดยเขาว่ากันว่าเป็นเมืองที่คนมีบุญเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ เป็นเมืองคนดี ถือวาจาสัตย์ ใครผิดสัจจะต้องออกจากเมืองไปทันที" ไปเที่ยวที่นี่ก็อย่าพูดโกหกกันนะจ๊ะ เพราะนี่คือเขตห้ามพูดโกหก

3.ดอยผาตั้ง @ผาบ่อง จ.เชียงราย (ประตูรักแห่งขุนเขา) 

ดอยผาตั้ง อยู่ในผาหม่น เป็นเทือกเขาพรมแดนไทย - ลาว ได้ชื่อว่าจุดชมวิวไทย ลาว ที่สวยพอๆกับภูชี้ฟ้าเลยทีเดียว

ถ้าเป็นเรื่องความรัก ใครๆก็อยากพาแฟนมาขึ้นเขาชมวิวทิวทัศน์ถูกไหมครับ ? แต่ที่ดอยผาตั้งแห่งนี้มีช่องเขาขาดแห่งหนึ่งที่เป็นจุดสนใจ เป็นช่องหินที่สามารถเดินลอดได้อยู่ในแนวหน้าผาและเป็นจุดชมวิวที่ดีเยี่ยมถือเป็นจุดเด่นของดอยนี้เลย

ถามว่าเกี่ยวอะไรกับความรักหละ ก็แค่จุดชมวิว เกี่ยวสิครับผมเพราะว่า...

"รักแท้คือการเดินทางที่ต้องไปค้นพบ ที่ผาหินแกร่งแห่งนี้อยู่มานานกว่า 100 ปี เป็นศูนย์รวมพลังงานของโลก มีประตูแห่งความรักอันบริสุทธิ์ ให้จับมือคนรักแล้วก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะส่งเสริมความรักให้แข็งแกร่งเหมือนหินผาที่มั่นคงดั่งภูผาแห่งนี้"

ขนลุกเลยใช่ไหม ก็อย่าลืมพาแฟนไปพิสูจน์กันนะครับ เสริมความรัก ชมวิวทิวทัศน์อีก โรแมนติกมากๆ

อ่านเพิ่มเติม >> "ดอยผาตั้ง" จุดชมวิวไทย-ลาว ชมทะเลหมอกได้ทั้งปี

4.สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 จ.มุกดาหาร (ถ้ำพญานาค) 

สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ 2 ที่เชื่อมกับไทย และ ลาว เป็นสะพานสร้างเศรษฐกิจสัมพันธ์อันดีของคน 2 ชนชาติ รวมไปถึงมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วย

โดยจะมีศาลาพญานาค เป็นจุดชมวิวในที่แห่งนี้นะครับ ปัจจุบันเทวสถานของพญานาคเป็นที่นับถือของประชาชน

ใครมาที่มุกดาหารไม่พลาดที่จะกราบไหว้สักการะขอพร และที่แห่งนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกด้วยนะครับ

"เป็นความเชื่อทางพุทธศาสนาและศรัทธาของชุมชนลุ่มแม่น้ำโขงที่มีต่อพญานาค เชื่อกันว่าเสาต้นที่ 2 ของสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงเป็น  ถ้ำพญานาค ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ท่านจะขึ้นมาเพื่อให้พรและปกปักรักษาลูกหลาน

ใครที่ได้มาสักการะให้ขอพรพญานาค ณ ถ้ำพญานาค ขอโชคลาภ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตมักสำเร็จผล" 

 อ่านเพิ่มเติม >> พิธีบวงสรวงองค์ปู่พญานาค ตามรอยตำนาน ‘เขาเล่าว่า’ ถ้ำพญานาค จ.มุกดาหาร

5.ภูทอก จ.บึงกาฬ (วิมานเทวดา)

ใครมาที่บึงกาฬภูทอกเป็นอีกหนึ่งที่ที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เป็นภูเขาที่โดดเดี่ยวเป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร 

และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ปฎิบัติธรรมเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาทางธรรมอีกด้วย

รวมไปถึงธรรมชาติที่งดงามของภูเขาแห่งนี้ทำให้มีคนขึ้นไปพิชิตถึง 7 ชั้นด้วยกัน ซึ่งแต่ละชั้นลำบากและหวาดเสียวเลยทีเดียวซึ่งคนที่อยากพิชิตจะเชื่อในตำนานที่ว่า

"เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ทำให้หลุดพ้น ซึ่งการขึ้นไปต้องใช้ความเพียรพยายาม โดยใช้ความเพียรขึ้นจากชั้นที่ 1-7 ซึ่งเปรียบเสมือนของวิมานเทวดาที่จะทำให้ได้ไปปฎิบัติธรรมและฝึกฝนความเพียร ซึ่งถือว่าเป็นมหาบารมี"

ท้าทายใช้ไหมหละครับใครที่ฝักใฝ่ธรรมมะและอยากพิสูจน์ตัวเองก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

 อ่านเพิ่มเติม >> ภูทอก...เสน่ห์แห่งขุนเขาในช่วงหน้าฝน จ. บึงกาฬ

6.วัดม่วง จ.อ่างทอง (พระประทานพร)

“หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” ประดิษฐาน อยู่ที่วัดม่วง จ.อ่างทอง

พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูง 95 เมตร

และที่นี้ยังมีภาพศิลปะ สวรรค์กับนรก ให้ทุกท่านได้ซึบซับ กับกฎแห่งกรรม

ซึ่งเขาเชื่อกันว่า "ใครที่ได้ไปสักการะขอพร โดยใช้ 2 มือสัมผัสที่ปลายนิ้วขององค์หลวงพ่อ แล้วตั้งใจขอในสิ่งที่ดี ทำความดีตามที่ตั้งใจไว้ แล้วจะได้รับผลสำเร็จสมตามใจปรารถนา" 

อ่านเพิ่มเติม >> "วัดม่วง" แวะอ่างทอง สักการะพระที่ใหญ่ที่สุดในโลก

7.เขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี (เขาหนุมานวัดใจ)

ลพบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่มีที่หนึ่งสำหรับนักผจญภัยต้องรู้จักดี คือ เขาวงพระจันทร์

เขาวงพระจันทร์มีทั้งหมด 3,790 ขั้น ซึ่งรอให้นักท่องเที่ยวได้พิชิตรวมไปถึงยังได้สักการะรอยพระพุทธบาทและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแห่งนี้ด้วย

โดยที่เขาเรียกว่า เขาหนุมานวัดใจ เพราะว่า จากจำนวนบันไดที่สูงหลายขั้นกว่าจะถึงบนยอดใช้เวลานาน เป็นเส้นทางพิสูจน์รักแท้ได้เลย

เชื่อกันว่า "คนที่เรารักพร้อมจะเคียงข้างกันเสมอไม่ว่าจะผ่านความยากลำบากแค่ไหนเขาจะอยู่ตรงนั้นกับเราอย่างแน่นอน และเป็นรักแท้แน่นอน"

ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ไปพิสูจน์กันที่นี่แหละครับ และที่นี่ยังเป็นที่ เสริมดวงคนเกิดปีวอก ที่นิยมไปกราบไหว้ขอพรเสริมพลัง เป็นสิริมงคลแห่งปีกับเจ้าพ่อพระกาฬ 

อ่านเพิ่มเติม >> เทศกาลขึ้นเขาวงพระจันทร์ พิสูจน์รักแท้กับบันไดขึ้นเขา 3,790 ขั้น

8.สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี (เกาะแห่งรัก)

สะพานอัษฎางค์ คุ้นๆกันไหมครับตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ แค่เกาะสีชังเอง จังหวัดชลบุรี

เกาะสีชังเป็นเกาะหนึ่งที่มีสายน้ำใส น่าหลงใหล กับเสียงคลื่น ที่ต้องนั่งเรือเข้ามาชมกับความงามของเกาะแห่งนี้

บรรยากาศสุดโรแมนติกเหมาะกับความรักมากและที่นี้ยังเป็นอีกที่หนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักเป็นอย่างดี เพราะใครๆก็อยากพาคนที่เรารักมาที่นี่

ซึ่งเขาเชื่อกันว่า "ที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยพลังแห่งรัก ณ เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวของความรักว่ากันว่าใครที่อยากเติมความหวานให้ชีวิต ยามเช้าให้ชวนกันมาเติมพลังแห่งรักกับแสงแรกของวัน ณ ปลายสะพานแห่งรัก

และยามพระอาทิตย์ตกให้ไปอธิษฐานขอพรกลางช่องเขาจะทำให้รักของท่านทั้งคู่ยาวนาน"

อ่านเพิ่มเติม >> เกาะสีชัง เดินทางเที่ยว เกาะใหญ่กลางทะเล จังหวัดชลบุรี

9.เขาหงอนนาค จ.กระบี่ (น้ำตาศักดิ์สิทธิ์)

เขาหงอนนาค ตั้งอยู่ในแดนใต้ของไทย ที่ไม่ใช่ทะเลแต่เป็นป่านั่นเอง และมีจุดชมวิวที่สวยงาม

เส้นทางการเดินป่านั้นไม่ยากลำบากนัก สามารถไปได้ทุกเพศทุกวัย และมีจุดชมวิวที่สวยงามมากๆแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ที่นี่มีเรื่องเล่าว่า "ดินแดนที่สวยงาม ชวนฝันที่นี่จะเป็นจุดจบของเรื่องราวความรักของพญานาค ที่ต้องหลั่งน้ำตาออกมา เกิดเป็นบ่อน้ำเล็กๆและใสตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่าถ้าอธิษฐานและเอาน้ำนั้นมาลูบหน้า จะสมปรารถนาและเป็นสิริมงคล"

เล่นน้ำทะเลกันเต็มอิ่มแล้วก็อยากลืมแวะมาล้างหน้ากับน้ำตาศักดิ์สิทธิ์นี้นะครับ เผื่อจะได้อะไรที่หวังไว้กลับบ้านไป

10.ถ้ำภูผาเพชร จ.สตูล (อุโมงค์แสงมรกต)

ถ้ำภูผาเพชร ถ้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล การเดินทางเข้ามาลำบากนิดหน่อยแต่ไม่มากมายขนาดนั้นขอให้อดทนนะครับมีของดีรอเราอยู่

นั่นก็คือไฮไลท์ของที่นี่ แสงมรกต สาดส่องเข้ามาในทำดูสวยงามมากๆ ใครที่ได้เห็นคงต้องหายเหนื่อย

ซึ่งเขาว่ากันว่า "ชีวิตคนเราขอเพียงเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์มันก็เกิดพลังที่จะเดินก้าวต่อไปในชีวิต และที่นี่มีอยู่โถงหนึ่งถ้าไปในเวลาที่แสงจากภายนอกทำมุมเข้ามา จะเกิดเป็นถ้ำแสงมรกตให้เห็น

เชื่อกันว่านี่คือแสงปลายอุโมงค์ที่เล่าขานกันมาใครได้มาเห็นสักครั้งก็จะเกิดพลังชีวิตที่เพิ่มเข้ามาให้กับตัวเอง"

----------------------------------------------------

เป็นไงบ้างครับนี่แค่ส่วนหนึ่งนะครับ ต้องขอขอบคุณแคมเปญดีๆของ การท่องเที่ยแห่งประเทศไทย "เขาเล่าว่า" ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยกับเรื่องเล่า ตำนาน และวิถีชีวิตเป็นของคู่กัน ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีเรื่องเล่า

และชวนกันออกไปท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวเรามีเป้าหมายเพิ่มขึ้น ก็อยากเชิญชวนให้ไปลองสัมผัส ออกไปท่องเที่ยวกันเยอะๆนะครับ

เนื้อหานี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในการตั้งเป้าหมาย หรือตัดสินใจให้กับทุกท่านๆได้ ขอขอบคุณที่ตามอ่านกันนะครับ สวัสดีครับ...