3 เทคนิคพิชิตตั๋วรถไฟแพงเวลาเที่ยวญี่ปุ่น
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้มาพบกับสาระดีๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวกันอีกแล้วนะครับ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นทีไร ค่าใช้จ่ายที่แพงที่สุดก็มักตกอยู่กับค่าเดินทางเสมอ
โดยแม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีระบบการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะรถไฟหัวกระสุนที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางแต่ละครั้งก็อาจทำให้เพื่อนๆโอดครวญได้ครับ
แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปครับ วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ 3 อย่างมาแนะนำให้เพื่อนๆทราบ ว่าจะซื้อตั๋วรถไฟเวลาเที่ยวญี่ปุ่นยังไงให้ได้ราคาถูกสุดๆ มาฝากกันครับ
1) ซื้อบัตรผ่านแบบ Japan Rail Pass
หากเพื่อนๆไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วต้องซื้อตั๋วรถไฟ บัตรผ่านที่เรียกว่า Japan Rail Pass ถือเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด หากต้องการเดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นไปในหลายๆ เมืองในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
เพราะเพื่อนๆ จะสามารถผ่านเข้าใช้บริการรถไฟในญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า Japan Rail (JR) ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงการใช้บริการรถไฟหัวกระสุนหรือชินคันเซ็น เรือและรถเมล์สาธารณะที่บริหารโดย JR ด้วย
อย่างไรก็ดีหากต้องการซื้อ Japan Rail Pass จะสามารถสั่งซื้อได้แค่ทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น โดยต้องสั่งซื้อก่อนวันที่จะเดินทาง ทำให้ไม่สามารถไปซื้อที่ออฟฟิศของ JR เอง ที่สนามบิน หรือบริษัททัวร์ได้
และผู้ที่จะใช้ Japan Rail Pass ได้ต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น เมื่อได้รับตั๋วแล้วก็สามารถแลกเป็นตั๋วรถไฟเมื่อไปถึงญี่ปุ่นได้
Japan Rail Pass มีทั้งหมด 3 แบบ แบ่งตามระยะเวลาที่ใช้ นั่นก็คือ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน โดยมีราคาตามคลาสของรถไฟ นั่นก็คือ 29,110 เยน ไปจนถึง 59,350 เยน
สำหรับตู้รถไฟธรรมดา และ 38,888 เยน ไปจนถึง 81,870 เยน สำหรับรถไฟชั้นเฟิร์สคลาส ซึ่งจะมีที่นั่งที่กว้างกว่าและมีเครื่องดื่มพิเศษให้บริการ
ถ้าหากเปรียบเทียบกับการซื้อตั๋วรถไฟหัวกระสุนเที่ยวเดียวแบบปกติแล้ว ก็ต้องจ่ายราวๆ 15,000 เยนเข้าไปแล้ว จึงทำให้การซื้อ Japan Rail Pass เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นมากๆเลยละครับ
2) ซื้อตั๋วที่ร้านขายตั๋วลดราคา
ร้านขายตัวลดราคา หรือที่เรียกว่า Kinken Shoppu (金券ショップ) ในภาษาญี่ปุ่น มักถูกมองข้ามไป แม้จะเป็นวิธีซื้อตั๋วเดินทางที่มีประโยชน์มากๆเวลาเที่ยวญี่ปุ่นก็ตาม
ร้านขายตั๋วลดราคาจะขายทั้งตั๋วรถไฟธรรมดา ตั๋วรถไฟหัวกระสุน บัตรกำนัล และตั๋วอื่นๆ โดยจะมีราคาถูกกว่าราคาที่ซื้อจากหน้าร้านและเครื่องซื้อตั๋วของ JR โดยตรง
โดยบางร้านอาจจะขายตั๋วของบริษัทรถไฟเจ้าอื่นๆร่วมด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีตัวของ JR ให้ตลอด เพราะว่ามีเครือข่ายทางรถไฟดำเนินการอยู่ทั่วประเทศ
แต่ในแต่ละร้านก็จะมีอัตราค่าตั๋วที่แตกต่างกันไป ตามแต่ supply และ demand ในขณะนั้น ร้านขายตั๋วลดราคามักตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟใหญ่ๆ นอกตัวสถานี และดำเนินการโดยคนนอกที่ไม่ใช่บริษัทรถไฟเอง
แต่ถ้าหากเพื่อนๆจะซื้อตั๋วรถไฟหัวกระสุนก็โชคร้ายหน่อยครับ เพราะมักจะลดราคาไม่เยอะ ลดลงมาเพียงแค่ 500 ถึง 1000 เยนเท่านั้น หากซื้อเป็นตั๋วรถไฟท้องถิ่นก็จะง่ายกว่าจะได้ลดเยอะกว่าครับ
3) ซื้อตั๋วลดราคาช่วงกลางวัน
ตัวลดราคาช่วงกลางวัน หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า hiruma tokuwari kippu (昼間特割きっぷ) เป็นตั๋วลดราคาที่ใช้ได้กับรถไฟเกือบทุกสายของ JR ทั้งรถไฟท้องถิ่น แบบด่วน และแบบด่วนพิเศษ
โดยสามารถใช้ได้ในช่วงเวลากลางวัน ก็คือตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็นในวันธรรมดา และใช้ได้ทั้งวันสำหรับวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
บ่อยครั้งที่ตัวลดราคาช่วงกลางวันจะถูกกว่าตัวปกติตั้งแต่ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นกับเส้นทางที่จะไป ฉะนั้น ถ้าหากเพื่อนๆ ตั้งใจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ลองวางแผนการเดินทางให้ อยู่ในช่วงกลางวันให้มากที่สุด
จะได้ใช้ตั๋วลดราคาช่วงกลางวันได้ยังไงล่ะครับ ในการใช้ตั๋วลดราคาช่วงกลางวันนั้น สามารถใช้บัตรเข้าประตูในวันธรรมดาได้จนถึง 5 โมงเย็นเท่านั้น และเมื่อผ่านเข้าประตูไปแล้วจะอยู่ในระบบรถไฟจนถึงกี่โมงก็ได้
และหากเพื่อนๆต้องการเดินทางโดยวิธีอื่นเช่นรถบัส ในบางครั้งก็มีตั๋วลดราคาช่วงกลางวันขายเช่นกันครับ ต้องลองถามกับร้านขายตั๋วลดราคาดูดีๆ นอกจากนี้ตัวลดราคาช่วงกลางวันก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้ถึง 3 เดือนนับแต่วันที่ซื้อ
เพราะฉะนั้นหากเพื่อนๆ วางแผนทริปเที่ยวญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ก็ซื้อตั๋วของทั้งทริปล่วงหน้าเตรียมไว้ได้เลยครับ
เท่านี้เพื่อนๆก็สามารถประหยัดงบเที่ยวญี่ปุ่นไปได้โข หมดกังวลไปได้เปลาะหนึ่งแล้วล่ะครับ อย่างไรก็ดีอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องการเดินทางโดยสวัสดิภาพและความปลอดภัยต่างๆระหว่างเดินทางด้วยนะครับ