ชีวิตดี๊ดีที่ เกาะล้าน | Koh Larn

อากาศร้อนขึ้นทุกวัน อยากไปเล่นน้ำ นั่งชิวกับสายลม และไปทะเล เชื่อว่าหลายคนแพลนเป้าหมายไว้ที่ทะเลแน่นอน

วันนี้แอดมิน สนุก ! ท่องเที่ยว ได้นำรีวิวจากพันทิบ พลังแห่งจันทรา จงแปลงกายา ที่เดินทางไปแค่เกาะล้าน ไม่ไกลจากกรุงเทพ พักผ่อนง่ายๆ พร้อมแนะนำที่เที่ยว ที่พักเกาะล้าน เที่ยวง่ายๆแบบนี้ได้ทุกเวลาเลยทีเดียว

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำเตือน กระทู้นี้รูปเยอะมากกกกก! 

*ขออนุญาตใช้ภาษาวิบัติบ้างบางคำ เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านนะคะ ^^

สวัสดีค่าา

เนื่องจากวันหยุดเทอมอันยาวนาน เด็กมหา'ลัยอย่างเราๆ จึงขอออกไปเที่ยวชิวๆ บ้างไรบ้างนิดนุงงง แล้วก็ตกลงกันไปที่นี่แหละ!

"เกาะล้าน" ...อ๊านน อ๊านน อ๊านนน (จะเอ็คโค่ทำไม!)

เลยอยากเอามาแชร์ให้โลกรู้! ประสบการณ์ไปเกาะครั้งแรกของเราจะเป็นยังไง ติดตามชมกันเลยยยย

(มีสรุปค่าใช้จ่ายให้ท้ายสุดด้วยค่ะ)

บอกก่อนว่า ทริปนี้เป็นทริปเกาะครั้งแรก เป็นการเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยครั้งแรก จึงมีการวางแผนกันนานมาก เป็นเดือนๆ เลยทีเดียว (แต่ไปแค่คืนเดียวเนี่ยนะ!) หาที่พัก หาถนนหนทาง ข้อมูลเเน่นยิ่งกว่าพุง!! และพอตกลงจองที่พักอะไรกันเรียบร้อย ก็เหลือแค่รอเวลาออกเดินทางเท่านั้น

ก่อนวันเดินทาง 1 วัน นี่ก็เริ่มมากังวลละว่าแบบ นี่มันหน้าฝนนะแก๊! ไปทะเล ไปเกาะงี้จะดีหรอ?
แต่ก็นะ.. ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนาให้ฝนไม่ตก T_T

วันเดินทางวันแรก อากาศแจ่มใสมากเอ๊าะ! ไม่มีฝนสักเม็ดเรากับเพื่อนๆ นัดกันที่ท่ารถอนุสาวรีย์ (ท่ารถข้างเซนจูรี่) เวลา 8 โมง แต่เลทไปเกือบ 9 โมง 55555 พอมากันครบแล้วก็ซื้อตั๋วไปเกาะล้านกัน รอสักครู่ก็มีพี่คนขับเรียกขึ้นรถ สาย กรุงเทพฯ - พัทยา
นั่งๆ นอนๆ กันไปประมาน 2 ชม. เศษ เราก็มาถึงเมืองพัทยากันแล้ว! เย้~

จุดแลนด์มาร์คที่มาแล้วต้องถ่ายรูป

ตอนแรกคิดว่าไปวันธรรมดาคนคงไม่เยอะ ที่ไหนได้ คนเยอะมากกกกก! ชาวต่างชาติเดินกันทั่วเลย พอเดินไปถึงท่าเรือ เราก็เดินๆ ตามนักท่องเที่ยวไปขึ้นเรือพาไปเกาะ //รีบขึ้นเรือ ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย แง้ ถ่ายแต่สะพานมาแทน

นั่งเรือกัน โคลงเคลงๆ สนุกดี! ใครเมาเรือทานยากันไว้ก็ดีน๊าา

มองไปก็มีแต่ท้องฟ้ากับน้ำทะเล

แล้วเรือก็นำเรามาสู่เกาะล้าน♡  เดินมาหน่อยจะเจอกับที่ขายแพ็กเกจดำน้ำ และร้านค้าร้านอาหาร

มีป้ายบอกเส้นทางด้วย

รอสักพัก ทางที่พักก็ส่งรถมารับเรา ไปถึงที่พักเลย สะดวกมั่กๆ

พักกันที่นี่ "บ้านชาวเกาะ"

เข้ามาก็จะเจอทางเดินยาว

ภายในห้อง มีเวลาออกเรือ และเวลาเช็คอิน เช็คเอาท์ บอกไว้เรียบร้อย

สิ่งอำนวยความสะดวก : เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำ ทีวี ตู้เย็น น้ำเปล่าฟรี 2 ขวด + อาหารเช้า 2 ที่ + มอเตอร์ไซค์ 1 คันพร้อมน้ำมัน

พี่คนดูแลน่ารักมาก ถามว่าเรามาที่นี่ครั้งแรกรึเปล่า แล้วพี่เค้าก็ให้แผนที่ง่ายๆ มาพร้อมแนะนำสถานที่ให้เสร็จสรรพเลย

ได้กุญแจมา 3 ดอก สำหรับเปิดประตูหน้าห้อง กับ ประตูหน้าที่พัก และ กุญแจมอไซค์

-พอเก็บสัมภาระกันเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกไปแว้นกันนนนน

ที่แรกที่เราไปกันคือ "Maharak Cafe" ไม่ไกลจากที่พักมากเท่าไหร่ เป็นคาเฟ่น่ารักๆ สำหรับนั่งชิวๆ ทานเค้กทานกาแฟกัน

มีโซนด้านในร้าน กับ ด้านนอกร้านติดทะเล

ตอนไปถึงชีสเค้กที่อยากกินดันหมดซะแล้ว เลยสั่งแต่เครื่องดื่มแทน [คาราเมลแมคคิอาโต้ ชาไทยเย็น มิกซ์เบอร์รี่สมูธตี้]

เมื่อรองท้องกันแล้ว เราก็แว้นไปที่ต่อไป

"จุดชมวิวหาดตาแหวน"

ทางขึ้นบริเวณนี้จะชันบ้าง ขับขี่กันอย่างระมัดระวังน๊า

เราแวะ "หาดตาแหวน" กันก่อน

ไปหาข้าวกินกัน เดินๆ มาเจอร้านอาหารตามสั่ง เราสั่งต้มยำปลาหมึกกับไข่เจียว

เห็นว่าหาดนี้คนเยอะ เลยขี่มอไซค์เลยไปอีกหน่อยถึง "หาดสังวาลย์"

หาดนี้อยู่ถัดจากหาดตาแหวนไม่ไกล น้ำใสมากกกกก แต่หินเยอะ คนน้อย เหมาะแก่การโพสท่าถ่ายรูปให้เต็มที่

มีสะพานไม้สวยๆ ด้วย

//ระหว่างถ่ายรูป เพื่อนเราโดนหินบาดที่เท้า เลือดพุ่งเลย แต่โชคดีที่แถวนั้นมีห้องปฐมพยาบาลฉุกเฉิน บริการทำแผลฟรีนะ//

- ถ่ายรูปกันจนจุใจแล้ว เรากับเพื่อนอยากดูพระอาทิตย์ตก เลยไปถามคนแถวๆ นั้น มีลุงใจดีคนนึงแนะนำจุดชมวิวที่สูงที่สุดให้ แต่ทางที่จะขึ้นไปมันชันมาก ลุงคงเห็นว่าเด็กพวกนี้ (ชะนีน้อย 3 คน) ไปไม่ถูกแน่

จึงอาสาขี่มอไซค์นำทางไป ซึ้งใจมาก TT แต่พอเห็นทางแล้ว โห... ไม่มั่นใจอย่างแรง

ทางชันมากกกก! เอียงเกือบ 45 องศา แถมสูงอีกตั้งหาก เพื่อนที่เป็นคนขับ นางมั่นใจว่าขี่ขึ้นไปได้ แต่ไม่มั่นใจว่าจะลงได้ 55555 แต่ลุงที่นำทางมาก็บิวท์ให้ขึ้นไปลองดู เราก็ เอาวะ! ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ้าลงไม่ได้ก็เข็นเอาละกัน

(แต่ถ้าขี่ไม่แข็งไม่เเนะนำจริงๆนะ!)

และสิ่งที่เราได้เห็น....

ที่นี่คือ "จุดชมวิวกังหันลม" มุมมองจากที่สูง 360 องศา! มองเห็นเกาะได้รอบด้านเลย

มันก็คุ้มจริงๆ นะที่เสี่ยงขึ้นมา

มาถึงตอนลง เดินกันเลยแจ้TwT ไม่มั่นใจกับการขี่มอไซค์ลง กลัวแหกโค้ง

จุดตรงที่มีกังหนลมนี่โหดมากๆ ทางชันเอียง 45 องศา ขนาดเดินยังกลัวล้มเลย

แล้วเราก็ถึงพื้นราบโดยสวัสดิภาพ ยังมีเวลาเลยว่าจะขี่กลับไปตรงจุดชมวิวที่แรกกัน แต่ระหว่างทางเจอทางแยกขึ้นไปจุดชมวิวอีกที่นึง และเราก็เปลี่ยนใจขึ้นไปที่นี่แทน 5555

"จุดชมวิวสำนักสงฆ์" ทางชันและขรุขระมาก เลยตัดสินใจ เดิน ขึ้นไปเลยจ้าาา นี่เรามาทะเลหรือมาปีนเขา

ทางไม่ไกลเท่าไหร่ ขึ้นไปเจอเห็นคือ พระองค์ใหญ่ ให้ไหว้สักการะกันก่อน

วิวที่นี่สวยมากกก แต่มีต้นไม้ขึ้นบังเล็กน้อย เป็นมุมที่ดูพระอาทิตย์ตกดินได้สวยอีกมุมนึงเลย

แต่วันนี้เมฆเยอะ เลยเห็นแค่พระอาทิตย์ลิบๆ ที่ทิวเขา ก่อนจะหายไปในกลีบเมฆ

จากนั้นก็ขี่มอไซค์กลับลงมา และไปหาอะไรใส่ท้องตอนเย็น

เจอร้านนี้ ป้ายหน้าร้านบอกว่าจานละ 50 บาท เลยเข้าไปกินกัน

แต่จริงๆ ไม่เห็นมีอะไร 50 บาทเลยง่ะ สงสัยจะเป็นน้ำที่ 50 บาท (แต่เขียนว่าจานละ??)

เราสั่งสุกี้แห้งปลาหมึก ก็ให้อภัยที่ไม่ใช่จานละ 50 นะ เพราะอร่อย 55555

คติประจำใจคือ กินอาหารคาว เสร็จต้องต่อด้วยอาหารหวาน! ก็เสิร์ชหาร้านกันจนไปเจอร้าน Soul Sweet แต่พอขี่มอไซค์ไปดูก็ต้องผิดหวังเพราะร้านปิด ก็เลยขี่ต่อมาเรื่อยๆ จนถึง Maharak Cafe อีกครั้ง 5555

แต่บรรยากาศกลางวัน กับ กลางคืน นี่ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

ดึกๆ อากาศไม่ร้อน เลยไปนั่งที่โซนด้านนอกติดทะเล

ตอนกลางคืนทางร้านจะขายแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับอิตาเลี่ยนโซดาเท่านั้น

ทริปนี้ No Alcohol! เราเลยสั่งอิตาเลี่ยนโซดากันคนละแก้วแทน และชีสเค้กที่เราอยากกินก็มีทำมาใหม่แล้ว เลยจัดซะ 1 อัน

น้ำส่องแสงได้ด้วย 5555

ชีสเค้กโฮมเมดของร้าน อร่อยมากกกกกก นุ่มๆ หอมชีส ละลายในปากเยยย

นั่งไปนั่งมา คนเริ่มเยอะ พวกเราก็เริ่มหิว เลยสั่งของกินเล่นๆ มาพอกรุบกริบ เฟรนฟรายชีสสส♡

จากนั้นก็กลับที่พัก อาบน้ำ นอนน Zzz

วันเดินทางกลับ เราตื่นสายยย! อดดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย T_T

ทางที่พักจะมีอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้หน้าห้อง ตอน 8.00 - 9.30 น.

จากนั้นยังพอมีเวลา เลยขี่มอไซค์ออกไปดูหาดที่ไม่ได้ไปเมื่อวาน

"หาดนวล" ทางที่ไปชันเล็กน้อย สองข้างทางเป็นวิวต้นไม้สีเขียวไปสุดทาง สวยดี

หาดนี้วิวสวยมากกก น้ำก็ใสมากด้วย คนก็น้อยด้วย แต่อากาศวันนี้ร้อนสุดๆไปเยย

มีชิงช้าประจำต้นไม้ให้นั่งเล่น

พอจุใจกันแล้วก็ขี่รถกลับที่พัก แล้วเช็คเอาท์ออก

ลืมบอกว่าที่นี่หมาแมวเยอะอยู่นะ บางทีเปิดประตูห้องมา ก็เจอหมานอนอยู่หน้าห้อง 5555

แต่ตัวนี้น่ารักมากกกกก นอนนิ่งให้ลูบหัว ให้ถ่ายรูปด้วย

-ก่อนลงเรือก็แวะซื้อโปสการ์ดกับของที่ระลึกนิดหน่อย
- และแล้วก็ได้เวลาโบกมือบ๊ายบายแล้ว ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยวอีกนะ!
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (สำหรับ 1 คน)
- ค่ารถไป - กลับ 130 + 100 = 230 บาท
- ค่าเรือไป - กลับ 30 + 30 = 60 บาท
- ค่าที่พัก 1450 ÷2 = 725 บาท
- ค่าอาหารทั้งหมดประมาน 500 บาท
- ค่าของที่ระลึกประมาน 100 บาท

รวมทั้งหมด 1615 บาท
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปล. ถ้ากระทู้นี้มีอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่า

ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ