มาแต่ตัวก็มาได้! จะกินข้าว ทำงาน ชมวิวหรือดูหนังสือก็ครบจบที่เดียวกับ Open House ณ Central Embassy
ใครที่ชอบหาที่นั่งทำงานพร้อม Wi-Fi ฟรี เดินดูหนังสืออาร์ต ๆ หรือนั่งทานอาหารแบบชิลล์ ๆ พร้อมวิวสวย ๆ ก็ไปเช็คอินที่ Central Embassy กันแล้ว เพราะเขาเปิดโซนใหม่ Open House บนชั้น 6 ที่ ถูกใจทั้งฟู้ดดี้และคนรักงานสร้างสรรค์แน่นอน เพราะเป็นพื้นที่กว้างที่มาพร้อมกับ 8 โซนที่รวมเอาทุกความต้องการของรุ่นใหม่อย่างครบครันแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แถมยังมี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีอีกด้วย!
ชั้น 6 ของ Central Embassy ไม่ได้มีไว้สำหรับแค่ขึ้นมาดูหนังอีกต่อไป เพราะชวนทั้งเพื่อนและครอบครัวมาพักผ่อนกันได้แล้ว เพราะที่นี่เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขนม บาร์ค็อกเทล ร้านหนังสือ ห้องทำงาน พื้นที่โชว์งานศิลปะ สนามเด็กเล่นของคุณหนู ๆ และโรงหนัง เรียกได้ว่ามาแล้ว ได้ครบ! ในที่เดียว
เริ่มกันที่โซนแรกซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นที่สุดของชั้น กับ Art Tower ตึกทรงสี่เหลี่ยมไซส์มินิที่มีจัดแสดงผลงานศิลปะทั้งจากศิลปินไทยและต่างชาติกันแบบไม่ซ้ำเดือน ผลัดเปลี่ยนกันมาให้เดินชมหรือเลือกซื้อของใช้เก๋ ๆ กันได้
ขอแอบกระซิบว่าข้างบนของ Art Tower นี้ ซ่อนมุมที่นั่งแบบ Private ที่แสงสวยน่าถ่ายรูปอยู่ด้วย
ส่วนใครที่ตั้งใจมาเพื่อดูหนังสือสำหรับงานออกแบบเจ๋ง ๆ ล่ะก็ ข้อดีของที่นี่คือเปิดหนังสือทุกเล่มให้เปิดดูตัวอย่างได้แบบสะดวก ไม่ต้องยุ่งยากเรียกพนักงาน แถมยังมีจัดโซน Open House Bookshop by Hardcover ที่รวมหนังสือดี ๆ เล่มหายากที่ออกใหม่จากทั่วทุกมุมโลกไว้ในที่เดียวให้เลือกอ่านกัน
ชาวฟรีแลนซ์หรือนักศึกษา ก็แวะมานั่งทำงานหรือประชุมงานกันได้อย่างสะดวก เพราะโซน Co-thinking Space นี้ มีให้ทั้งห้องประชุม (จำนวน 2 ห้อง ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น) และ Wi-Fi ได้ฟรีทั่วทั้งพื้นที่ หรือจะซื้อ Wi-Fi แบบความเร็วสูงมาใช้เพิ่มก็ได้
นั่งทำงานกันได้แบบยาว ๆ เพราะมีบาร์ค็อกเทลภายในโซนไว้คอยบริการด้วย
ใครที่หิว จะพักเดินออกมาหาอะไรทานที่โซน Eating Deck ที่มีหลายร้าน หลายสไตล์ให้เลือกอร่อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีนทานง่ายจาก Bao & Buns อาหารสุขภาพแบบมังสวิรัติจาก Broccoli Revolution เมนูไข่สุดครีเอทจาก Egg My God อาหารญี่ปุ่นจาก Muteki by Mugendai
หรือเดินมาสั่งหอยนางรมและซีฟู๊ดสด ๆ จากThe Raw Bar และสเต็กกับไวน์ดี ๆ จาก Water Library ที่ร้าน The Meat Bar และ The Casks หรือเค้กอร่อย ๆ จาก Paris Mikki ก็มีให้เลือกทานได้เช่นกัน
อีกไฮไลท์ของที่นี่คือบรรยากาศทิวทัศน์กรุงเทพฯ รอบตึกแบบพาโนรามา 360 องศา สั่งเสร็จก็จับจองที่นั่งมุมที่ชอบแล้วไปนั่งทานตรงไหนก็ได้เลย
ใครที่มาแบบเป็นครอบครัวมองหาร้านทานข้าวแบบมื้อจริงจังหน่อยก็เลือกกันได้ระหว่างร้านพิซซ่า Peppina ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์นโปเลียน Rico หรือร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นที่ Lady Nara กันที่โซน Eat by the Park ได้ ซึ่งที่มาของชื่อ มาจากวิวที่นั่งติดกระจกที่มองเห็นสวนสีเขียวและสถานทูตอังกฤษที่ด้านล่าง
ก่อนกลับ แวะชมหรือเลือกซื้อของใช้ทำมืออาร์ต ๆ ที่โซนหน้าโรงหนัง ทั้งเครื่องเซรามิก กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เครื่องเขียนไปจนถึงของฝากให้มาเลือกซื้อกันได้
ตามไปพิสูจน์ความอร่อยกันได้แล้ววันนี้ หรืออัพเดทความอร่อยอีกมากมายจาก iPick ได้ทาง Facebook Page และทาง Instagram @ipickth