2 วัน 1 คืน กับหน้าฝนที่สวยงามที่สุด ณ กาญจนบุรี ที่นี่มีแต่ความสุข
หากพูดถึงหน้าฝนหลาย ๆ คนคงใช้เวลาอยู่กับบ้านและพักผ่อนในวันที่อากาศสบาย ๆ ยามฝนพรำ แต่จะมันจะดีแค่ไหนถ้าคุณได้ออกไปเที่ยวในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในช่วงหน้าฝน !!
ได้ไปนอนริมน้ำฟังเสียงน้ำไหลผ่านพร้อมกับบรรยากาศของสายฝนและหมอกจาง ๆ ในช่วงเช้า เล่นน้ำล่องแพกันให้สุขใจ ได้ไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนและเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจ
ได้ไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ตามร้านคาเฟ่ต์น่ารัก ๆ กินกาแฟอุ่น ๆ และขนมแสนอร่อย ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องเร่งรีบเสพบรรยากาศที่แสนดีรอบ ๆ คาเฟ่ต์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน
ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่คุณจะได้ออกไปพบความทรงจำดี ๆ ความสุขที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง แค่เพียงคุณมีวันหยุดแค่ 2 วันและเก็บกระเป๋าออกเดินทาง วันหยุดของคุณก็จะกลายเป็นวันพิเศษในความทรงจำไม่รู้ลืม
เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่สู่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่มากล้นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่นี่อุดมสมบูรณ์เหลือเกินจนผมอิจฉาวิถีชีวิตของคนที่นี่จริง ๆ
เราไปสตาร์ท เดย์ทริปของเรากันที่ ร้านอาหาร ครัวชุกโดน เป็นร้านอาหารริมน้ำ บรรยากาศภายในร้านเน้นความเป็นไทย บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่รายล้อม เป็นร้านแบบ Open Air หลังคาสามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้
อาหารที่นี่อร่อยมาก ๆ เราขับรถกันมาด้วยความหิวโหย กินกันแบบไม่เหลือ แถมบรรยากาศริมแม่น้ำก็ดีต่อใจเหลือเกินในยามที่ฝนปรอย ๆ ลงมา นั่งทานอาหารอร่อย ๆ ไป เคล้ากับบรรยากาศแบบนี้ ฟินมาก
เมื่อท้องเริ่มอิ่มแล้ว เราจึงเดินทางกันต่อ โดยเราไปต่อกันที่ ต้นจามจุรียักษ์ ที่นี่เราได้ยินชื่อเสียงมานานถึงความใหญ่โตอลังการของต้นจามจุรีอายุกว่า 100 ปีเลยทีเดียว
และเมื่อเรามาถึงก็ไม่ผิดหวังสมคำล่ำลือจริง ๆ ภาพของต้นจามจุรียักษ์ ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ รายล้อมไปด้วยต้นหญ้าสีเขียวขจี ในช่วงหน้าฝน เป็นองค์ประกอบที่ดีให้เราได้ถ่ายภาพต้นจามจุรีออกมาอย่างสวยงาม
ทั้งกิ่ง ก้าน ใบ และรากของต้นจามจุรี ล้วนเป็นองค์ประกอบที่งดงาม ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก ๆ เป็นแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดจริง ๆ สำหรับคนชอบถ่ายรูป
เมื่อถ่ายภาพคนจนเต็มอิ่มแล้ว เราจึงเดินทางเข้าสู่ที่พักของเรา The River Life Resort ที่พักสไตล์แพไม้ริมน้ำ เมื่อเรามาถึงสายฝนก็ตกลงมาต้อนรับเราทันที
แต่ก็ไม่อาจขัดขวางความสุขในการใช้ชีวิตบนแพไม้ของเราได้ แต่กลับช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมจากการได้นอนฟังสายฝนพร้อมกับอากาศแสนเย็นสบาย พร้อมกับบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบ
ทำให้เราเคลิ้มไปกับธรรมชาติจนเผลอหลับไป นอกจากบรรยากาศรอบที่พักที่ดีแล้ว การตกแต่งที่พักและเฟอร์นิเจอร์ ของรีสอร์ทแห่งนี้ก็ดีต่อใจพวกเรามาก ด้านบนตกแต่งด้วยสไตล์ Loft ปูนเปลือย
ผสมกับสไตล์โมเดิร์นทันสมัย ในส่วนของแพที่พักก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นแพไม้ไผ่แบบดั้งเดิม เพิ่มเติมคือดีไซน์ภายในที่เหมาะแก่การพักผ่อนจนคุณแทบจะไม่อยากตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับเลยทีเดียว
และเมื่อตื่นขึ้นมาเวลาเร็วเหลือเกิน เข้าสู่ช่วงมื้อเย็นของเรา โซนรับประทานอาหารเย็นจะอยู่ในช่วงบนของรีสอร์ท เราต้องเดินขึ้นไป เมื่อเดินขึ้นถึงโซนทานอาหาร สิ่งที่เราเห็นคือสายหมอกจาง ๆ หลังสายฝน
ที่ลอยอยู่บนภูเขาคอยต้อนรับเราอยู่ พร้อมทั้งวิวแม่น้ำแควแบบ พาโนราม่า เป็นการอาหารที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ แล้วในที่สุดอาหารก็มาเสิร์ฟ โดยมีเมนูอาหารมากมาย ให้เราอิ่มหนำกันได้เต็มที่ไปพร้อมกับบรรยากาศดี ๆ
แล้ววันหนึ่งของเราก็ผ่านไปอย่างเร็วไว พร้อมกับความสุขของการพักผ่อนที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ เรามาที่นี่แค่วันเดียวก็แทบจะไม่อยากกลับบ้านแล้ว ชอบบรรยากาศ และการตกแต่งที่พักได้อย่างลงตัวมาก ๆ
เราตื่นมาพบกับเช้าวันใหม่ สิ่งแรกที่เราเห็นเมื่อออกมาสูดบรรยากาศหน้าแพที่พักคือสายหมอกลอยอยู่เหนือสายน้ำ อากาศเย็นสบายจนไม่ต้องเปิดแอร์ เรายอมรับตามตรงว่าเราแทบไม่อยากจะลุกออกมาจากที่นอนเลย
มันสบายและมีความสุขแบบสุด ๆ นี่แหล่ะคือการพักผ่อนที่แท้จริง หลังจากนั้นเราจัดการธุระส่วนตัวเสร็จจึงไปทานอาหารเช้าของทางรีสอร์ท และหลังจากนั้นกิจกรรมที่เรารอคอยก็มาถึงนั่นคือการล่องแพนั่นเอง
โดยเราจะได้นั่งอยู่บนแพไม้ไผ่และถูกลากไปด้วยเรือหางยาว ออกไปห่างจากที่พักหลายกิโล เมื่อถึงจุดที่เหมาะสม ทางรีสอร์ทจะปล่อยให้เราลงเล่นน้ำในบริเวณนั้นอย่างสนุกสนาน มันสบายจริง ๆ เมื่ออยู่ในน้ำ
สองข้างทางที่เราลอยคอเล่นน้ำกันเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์และวิวข้างหน้าคือ ภูเขาใหญ่พร้อมทั้งหมอกจาง ๆ จากตอนเช้าที่ยังคงอยู่เป็นเพื่อนเราไม่ไปไหน สุขใจทุกครั้งเมื่อได้เห็น
หลังจากเล่นน้ำเสร็จเราจึงเก็บของเตรียมตัวออกจากที่พักเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ ทั้งที่ยังไม่อยากกลับเลย ก่อนกลับเราได้เดินทางไปแวะร้านคาเฟ่สุดชิค นั่นคือร้านใจดี คาเฟ่ต์
ร้านนี้ตกแต่งด้วยสไตล์น่ารัก ๆ เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก อาหารของที่นี่ก็อร่อย มาก ๆ ทั้งเครื่องดื่ม และขนมต่าง ๆ มากมาย เป็นการเติมความสุขให้เราอีกครั้งก่อนจะกลับไปสู่กับการทำงาน
ถึงเวลาต้องเดินทางกลับกรุงเทพแล้ว เป็นการมาเที่ยวเมืองกาญหน้าฝนที่เราประทับใจมาก มันคือการพักผ่อนที่แท้จริง อาจจะเหนื่อยในการเดินทาง แต่แลกมาด้วยความสุขที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ทุกอย่างในทริปนี้มันดีไปหมด อยากจะต่อเวลาอยู่ที่นี่อีกหลาย ๆ วัน ลองออกเดินทางดูครับแล้วคุณจะรู้ว่าหน้าฝนก็สวยไม่แพ้ใครเลยจริง ๆ
อัลบั้มภาพ 38 ภาพ