ฤดูล่องแก่งมาถึงแล้ว !! 5 สถานที่น่าไปล่องแก่งแบบน้ำเต็ม ๆ ในช่วงหน้าฝน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักในความท้าทาย และชอบทำกิจกรรมสนุกตื่นเต้น ต้องห้ามพลาด เพราะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เป็นฤดูกาลที่ดีในการทำกิจกรรมล่องแก่งสุดมันส์นั่นเอง
ด้วยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้การล่องแก่ง เป็นไปอย่างสนุกสนานในช่วงนี้ เราไปดูกันว่า มีที่ไหนน่าไปล่องแก่งบ้าง Sanook Travel ได้รวบรวมมาให้ทุกคนไปลองกันแล้ว
1.ลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก
ลำน้ำอันดับหนึ่งในตำนานด้านการล่องแก่ง นักล่องแก่งทุกคนทราบถึงความท้้าทายและสนุกสนานของลำน้ำเข็กแห่งนี้ดี
สำหรับแก่งเด่นที่ผ่าน ได้แก่ แก่มรดกป่า ที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นไคร้น้ำ กับแก่งต่อเนื่องกันไปจนถึงแก่งปากยางที่ยาวต่อเนื่องเป็นร้อยเมตร
มีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำ
2.แม่น้ำเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
ลองมาดูการล่องแก่งแบบเบสิคสำหรับมือใหม่หัดล่องแก่งกันบ้าง กับแม่น้ำเพชรบุรีที่ทอดยาวผ่านอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ไหลคดเคี้ยวเหมาะสำหรับการพายเรือชมทิวทัศน์ การล่อต้นน้ำเพชรมี 2 รูปแบบ คือ การล่องแพ และการล่องเรือยาง
โดยการล่องแพจะมีระยะทางยาวประมาณ 33 กิโลเมตร และล่องแพยางจะมีระยะทางเพียงสั้น ๆ แค่ 1 กิโลเมตร
3.ลำน้ำว้า จ.น่าน
ลำน้ำเล็ก ๆ แต่กิจกรรมการล่องแก่งสนุกไม่เล็กไปตามสายน้ำเลย ที่นี่จะมีน้ำมากในช่วงหน้าฝน เหมาะแก่การมาทำกิจกรรมล่องแก่ง
แบ่งเป็น 3 ตอน คือ น้ำว้าตอนบน น้ำว้าตอนกลาง น้ำว้าตอนล่าง ซึ่งส่วนใหญ่นิยมล่องที่น้ำว้าตอนกลางและตอนล่าง โดยช่วงเดือนที่เหมาะสมในการไปล่องแก่งคือตั้งแต่ช่วงต้นหน้าฝนไปถึงช่วงหน้าหนาว
4.หนานมดแดง จ.พัทลุง
แก่งหนานมดแดง ของจังหวัดพัทลุง ในช่วงหน้าฝนแบบนี้น้ำกำลังเยอะให้นักทอ่งเที่ยวทุกคนได้ล่องแก่งแบบจัดเต็ม และสนุกสนาน
บรรยากาศสองฝั่งคลองยังมีความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้นานาพันธุ์ และนกประจำถิ่นนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีสายน้ำที่ไหลเย็นและใสจนเห็นหื้นข้างล่างเลยทีเดียว
5.ล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี
เป็นที่ที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับท่านที่ชอบความท้าทายกับสายน้ำอันเชี่ยวกราก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
ความตื่นเต้นความท้าทายการล่องแก่งสายนี้จุดเด่นอยู่ที่ตัวแก่งหินเพิงอันเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งใหม่
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ