ตระการตาทุ่งดอกไม้ทั่วโลก ที่จะทำให้หัวใจคุณเบ่งบานตลอดทั้งปี
ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือนพร้อมความรื่นรมย์นี้ คงจะไม่มีวิธีใดที่จะทำให้ท่านได้ดื่มด่ำกับฤดูกาลได้ดีกว่าการออกไปใช้เวลากลางแจ้งและเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่ผลิบานอีกแล้ว
วันนี้ Sanook! Travel จึงจะนำพาทุกท่านไปพบกับความอลังการและสวยงามของทุ่งดอกไม้จากทั่วโลกที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งรออวดโฉมให้คุณได้ไปสัมผัส
1.ลิซเซ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Lisse, the Netherlands)
ดื่มด่ำกับทิวลิปกว่า 7 ล้านดอกและดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่งในแปลงดอกไม้ที่จัดสรรไว้อย่างงดงามในสวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof Gardens) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเมืองลิซเซ
ดอกไม้สีสันสดใสที่ปลูกรายล้อมต้นไม้ สนามหญ้าเขียวขจีที่ตัดแต่งอย่างเป็นระเบียบ และผืนน้ำที่จะดึงดูดให้ท่านต้องหยุดแวะชมระหว่างทาง ไม่ไกลออกไปคือทุ่งทิวลิปหลากสีสันที่ทอดยาวไปจนสุดเส้นขอบฟ้า
ใครมีโอกาสไปเยือนเมืองลิซเซ ก็ไม่ควรพลาดสวนแห่งนี้เด็ดขาด
2.ฟุระโนะ ประเทศญี่ปุ่น (Furano, Japan)
แม้ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในฟุระโนะจะไม่ต่างจากที่โพรวองซ์นัก แต่ทิวทัศน์ที่แวดล้อมด้วยภูเขาโทคาจิ (Mount Tokachi) ที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังก็ทำให้ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่น
เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่าเฉลิมฉลองยามที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งในเดือนกรกฎาคม นอกจากการเยือนฟาร์มในท้องถิ่นเพื่อชมทิวทัศน์ดอกลาเวนเดอร์ ดอกป๊อปปี้ ดอกลิลลี่และดอกทานตะวันที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาแล้ว
อย่าลืมลองชิมไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสลาเวนเดอร์ที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ด้วยหละ
3.โบเกเต ประเทศปานามา (Boquete, Panama)
ด้วยสภาพพื้นที่เขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ทำให้โบเกเตเป็นเมืองที่น่าไปเยือนตลอดทั้งปี แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้นั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงงานเทศกาลดอกไม้ประจำปีของเมืองซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11-21 มกราคมของทุกปี
ณ ริมฝั่งแม่น้ำโบเกเตที่ซึ่งชาวสวนผู้เชี่ยวชาญจัดแสดงผลงานอันน่าทึ่งจากดอกไม้นานาพันธุ์ โดยไฮไลท์ได้แก่ผลงานจากสมาคมกล้วยไม้ในท้องถิ่นที่รังสรรค์จากหนึ่งในพรรณไม้ต่างแดนที่ล้ำค่ามากที่สุดในโลก
4.สเปลโล ประเทศอิตาลี (Spello, Italy)
ภายในเมืองสเปลโล เมืองเก่าของอิตาลีเปรียบเสมือนสวนดอกไม้อันแสนงดงาม ด้วยมีกระถางไม้ดอกแขวนเรียงรายและเถาไม้เลื้อยที่ปกคลุมเกือบทั่วทั้งผนังหินสีกุหลาบ บานเกล็ดไม้
และตามประตูอาคารต่างๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นเทศกาล “Inforiate” ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองเก่าแก่ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 18 มิถุนายนของทุกปี
ตามท้องถนนในตัวเมืองวันนี้จะปกคลุมไปด้วยภาพลวดลายที่ประกอบขึ้นจากดอกไม้นานาพันธุ์ โดยภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการประกวดที่กำหนดขึ้นตามหัวข้อต่างๆ
กลีบดอกไม้หลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นเดซี่ เบญจมาศ กุหลาบรวมถึงดอกไม้ประเภทอื่นๆ ต่างถูกบรรจงจัดวางอย่างประณีตและบรรจงเพื่อสร้างเป็นผลงานที่น่าตื่นตะลึง
5.จิแวร์นี่ ประเทศฝรั่งเศส (Giverny, France)
จิแวร์นีเป็นเมืองที่โคลด โมเนต์ (Claude Monet) จิตรกรชื่อดังชาวฝรั่งเศสใช้เวลาค่อนชีวิตอาศัยอยู่ ปัจจุบันบ้านและสวนที่เขาเคยพักพิงอยู่นี้ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม
และด้วยทัศนียภาพดังที่ปรากฏอยู่ในภาพเขียนชุดดอกบัวของจิตรกรผู้นี้ เพียงมองปราดเดียวท่านก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับทสถานที่แห่งนี้ทันที
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดที่แห่งนี้จึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลงานที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดหลายชิ้นของเขา เพราะสวนนี้ให้ความรู้สึกประหนึ่งหลุดออกมาจากภาพวาด
แทบทุกตารางนิ้วในพื้นที่แห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้ละลานตา ทั้งแนสเตอร์ชัม ทิวลิป ไอริส โบตั๋น คั่นกลางด้วยสระบัว สะพานใต้ดอกวิสทีเรีย และต้นหลิวขนาดยักษ์
6.ฮอลแลมบรา ประเทศบราซิล (Holambra, Brazil)
ฮอลแลมบรา (Holambra) อดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ตั้งอยู่ในรัฐเซาเปาโลของประเทศบราซิล โดยชื่อเมืองนี้เกิดจากการผสานพยางค์ต้นของประเทศฮอลแลนด์ (Hol) อเมริกา (Am) และบราซิล (Bra)
ปัจจุบันนี้เมืองฮอลแลมบรายังคงสืบสานวัฒนธรรมของชาวดัตช์เอาไว้และเป็นที่รู้จักดีในฐานะแหล่งเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา
รวมถึงเป็นสถานที่จัดงาน Expoflora เทศกาลประจำฤดูใบไม้ผลิที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นหนึ่งในงานจัดแสดงการเพาะปลูกดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย
7.ดาลัด ประเทศเวียดนาม (Dalat, Vietnam)
ดาลัดได้รับสมญาว่าเป็นเมืองแห่งดอกไม้นับพันเนื่องจากเป็นที่ตั้งของสวนดอกไม้ ฟาร์ม และเทศกาลมากมายที่คอยแต่งแต้มตัวเมืองด้วยสีสันสดใสยามดอกไม้บานและภูมิทัศน์เขียวขจี
ลองเดินออกสำรวจอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่งนี้ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกลิลลี่ เบญจมาศและกล้วยไม้นานาชนิดซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นดอกไม้ขึ้นชื่อของเมืองนี้ดูสิ ท่านจะต้องหลงใหลเป็นแน่นอน