ร้านอาหาร “ไม่ได้ตามสั่ง” ร้านอาหารใหม่ทดลองเปิดกิจการโดยพนักงานเสิร์ฟผู้ความจำเสื่อม

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ในเมืองโตเกียว ได้มีการทดลองเปิดกิจการของร้านอาหารแนวใหม่ ที่มีชื่อว่า 注文をまちがえる料理店 (Chuumon wo machigaeru ryouriten)

แปลง่าย ๆ คือ ร้านอาหารที่สั่งอะไร ก็จะได้อีกอย่าง โดยพนักงานผู้รับออเดอร์คือผู้สูงอายุที่มีภาวะความจำเสื่อมนั่นเอง ร้านอาหารร้านนี้ จะมีบริการพิเศษอย่างไร ติดตามอ่านกันได้เลย

ด้านหน้าร้านอาหาร ก็เหมือนร้านอาหารปกติทั่ว ๆ ไป มีป้ายร้านตามปกติ แต่ลองดูดี ๆ ทำไมตัวอักษรมันดูกลับด้านแปลก ๆ

เมื่อเข้าไปด้านใน ก็จะพบว่าเป็นร้านอาหารแบบปกติ ๆ นั่นแหละ เพียงแต่ว่า พนักงานรับออเดอร์ ที่เป็นสาว ๆ (?) สูงวัย ใส่ผ้ากันเปื้อนนั้น ต่างก็มีจุดที่เหมือนกัน นั่นก็คือ มีภาวะความจำเสื่อมนั่นเอง

นั่นก็เลยเป็นที่มาของร้านอาหาร “ไม่ได้ตามสั่ง” เพราะสาวเสิร์ฟของร้านนี้ อาจจะหลง ๆ ลืม ๆ เมนูอาหารของลูกค้า ว่าสั่งอะไรไปบ้าง ได้ลุ้นกันเลยล่ะ ว่าจะได้อาหารตามที่สั่งกันไปหรือไม่

หนึ่งในพนักงานรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารของร้านอย่างคุณไอโกะ (นามสมมติ) ที่ได้มาทดลองเป็นพนักงานในร้าน ด้วยเหตุผลที่ว่า เคยเป็นผู้ดูแลเด็กอนุบาลเมื่อนานมาแล้ว

คุ้นเคยกับการเสิร์ฟอาหารให้เด็กน้อย เลยคิดว่างานนี้ก็คงจะไม่มีอะไรยาก ต้องทำได้แน่ ๆ เลยล่ะ

แต่คุณไอโกะก็กังวลนะ ว่าจะสามารถรับออเดอร์ของลูกค้าได้สำเร็จหรือไม่ หรือจะทำอาหารหกระหว่างเดินไปเสิร์ฟหรือเปล่า กลัวว่าจะทำพลาดแล้วรบกวนคนอื่น

ผู้ที่มีภาวะความจำเสื่อมในบางครั้งแค่การอาศัยอยู่คนเดียวลำพังก็ยากพออยู่แล้ว ต้องไปอยู่กรุ๊ปโฮมบ้าง อะไรบ้าง แต่ทำไมถึงเลือกที่อยากจะมาเป็นสาวเสิร์ฟกันนะ! เลยขอไปตามติดชีวิตคุณไอโกะกันเสียหน่อย

เมื่อร้านอาหารเปิดให้บริการ ลูกค้ารายแรกเข้ามาในร้านเรียบร้อย ก็เชิญมานั่งโต๊ะ แล้วคุณไอโกะก็เดินมารับออเดอร์ลูกค้าในทันที แต่ทว่า..

สงสัยจะตื่นเต้นมากไป ดันลืมสนิทว่าตัวเองเดินมาทำอะไรตรงนี้  แต่ก็ได้ลูกค้าใจดี ช่วยคุณไอโกะ บอกว่ามารับออเดอร์หรือเปล่า คุณไอโกะเลยรอดตัวไป

สุดท้าย ลูกค้าก็เป็นผู้เขียนออเดอร์ลงในกระดาษเอง จริง ๆ ถ้าทำแบบนี้ ก็ไม่มีทางสั่งอาหารแล้วได้เป็นเมนูอย่างอื่นแน่นอน คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า พนักงานสาวเสิร์ฟ จะสามารถส่งตรงจานอาหารไปถูกโต๊ะ ถูกคนหรือไม่

เมื่อคุณไอโกะ ได้นำอาหารจานหลักไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าโต๊ะหนึ่ง เกิดความสงสัยจึงได้สอบถามทางลูกค้าว่า ได้เมนูอาหารที่ตรงกับที่สั่งไปหรือไม่… ปรากฏว่าถูกต้อง!

คุณลูกค้าบอกว่า “ใช่เมนูนี้เลยค่ะ ค่อยยังชั่ว แต่ก็รู้สึกเสียดายที่มันไม่ผิด (หัวเราะ)”

ในบางที การที่จะต้องเสียเวลากับการสั่งอาหารที่ต้องใช้เวลาในบางครั้ง หรือลุ้นว่าจะได้อาหารตรงตามที่สั่งไปหรือไม่นั้น จะเป็นการรบกวนลูกค้าหรือเปล่า แต่ว่าสำหรับลูกค้าภายในร้านนี้… ทุกคนดูแฮปปี้ดีนะ

ลูกค้าอีกคนก็บอกว่า ตอนแรกก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่พอคิดอีกแง่มุมหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่การสั่งอาหาร แล้วพนักงานก็รับออเดอร์ แต่สำหรับร้านนี้ จะได้พูดคุยกับพนักงานแล้วรู้สึกเหมือน

ได้ค่อย ๆ ทำสิ่ง ๆ หนึ่งไปด้วยกันให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง รวมไปถึงจุดที่ต้องมาลุ้นว่าจะได้อาหารตามที่สั่งไปหรือไม่ด้วย ก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เลย

และแล้ว คุณไอโกะ ก็เริ่มเสิร์ฟอาหารได้อย่างคล่องมือ นอกจากจะเสิร์ฟสลัดไปตามโต๊ะต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยปรุงรสสลัดให้อีกด้วย สมกับเป็นมือโปรเคยดูแลเด็กตัวน้อยตัวเล็กมาเมื่อสมัยก่อน

คุณไอโกะบอกว่า งานนี้มันไม่เหมือนตอนที่ดูแลเด็กอนุบาลเลย ถ้าเป็นเด็ก ๆ เค้าจะวิ่งเข้ามาหาเราเลยล่ะ แต่งานนี้ก็สนุกดี พอได้ทำอะไรที่แปลกใหม่ ก็ตื่นเต้นดีนะ

คุณไอโกะ ดูมีความสุขมาก ๆ เลยล่ะนะ

สำหรับร้านอาหารนี้ ที่มีแนวความคิดให้ผู้ที่มีภาวะความจำเสื่อมมาเป็นสต๊าฟ เหล่าเชฟต่าง ๆ นั้นล้วนเป็นมืออาชีพ ส่วนผู้ประกอบกิจการก็เป็นผู้ทำอาชีพเกี่ยวกับสื่อโทรทัศน์และการโฆษณาต่าง ๆ

ซึ่งมาช่วยประกอบกิจการในรูปแบบอาสาสมัครล้วน ๆ เลย

คุณโอกุนิ หนึ่งในผู้ประกอบกิจการ ซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้กำกับสถานีโทรทัศน์ ได้กล่าวถึงที่มาของแนวความคิดที่จะเปิดร้านอาหารนี้ว่า มาจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ที่ได้ทำสารคดีเกี่ยวกับผู้ชำนาญการในการดูแลผู้ที่มีภาวะความจำเสื่อม ได้ไปถ่ายทำที่กรุ๊ปโฮม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้สูงอายุจะมาอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่จะทำภารกิจชีวิตประจำวันด้วยตัวเองทั้งสิ้น

คุณโอกุนิก็ได้ร่วมรับประทานอาหารที่กรุ๊ปโฮมนี้หลายครั้ง ในช่วงเวลาที่ถ่ายทำรายการก็มีอยู่วันหนึ่งที่คุยกันไว้ว่า มื้อนี้จะเป็นแฮมเบิร์กนะ แต่เมื่อถึงเวลาแล้ว กลับกลายเป็นเกี๊ยวซ่าไปเสียนี่

“ถึงจะเป็นเกี๊ยวซ่า ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่นา” คุณโอกุนิคิดได้ว่า ในบางครั้งอาจมีหลาย ๆ สิ่งในสังคมที่ต้องการความถูกต้อง แต่บางครั้งถ้าเราสามารถที่จะยอมรับกับความผิดพลาดนั้น ๆ

และร่วมสนุกไปกับความผิดพลาดที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร มันก็อาจจะดีไม่น้อย เลยนึกถึงการเปิดร้านอาหารแบบนี้ขึ้นมา

ใครที่สนใจอยากไปร้านอาหารนี้ คงต้องรออีกซักหน่อย เพราะช่วงนี้กำลังรับบริจาคเงินเพื่อไปเป็นทุนในการเปิดร้านในช่วงเดือนกันยายน โดยคาดการณ์ไว้ว่าจะเปิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์

ถ้าใครมีโอกาสได้ไปในช่วงนั้น รับรองเลยว่าจะได้พบกับความตื่นเต้นอย่างแน่นอน