รีวิวจัดเต็ม! มหัศจรรย์ "สันหลังมังกร" ไปนอน เกาะยาวน้อย!!
เข้าหน้าฝน ความชุ่มฉ่ำในหัวใจ พาให้อดคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยว ในมุมต่างๆของประเทศไทยไม่ได้
แม้ด้วยสภาพอากาศ ที่ดูจะแปรปรวน หรือพูดง่ายๆ ตามแบบฉบับคนไปเที่ยวหน้านี้ เกือบทั้งหมดยกให้กับความเป็นธรรมชาติของฟ้าฝน
วันนี้หลายคนเลือกที่จะไปน้ำตก เลือกเที่ยวตามป่าเขาเพื่อชมความเขียวชอุ่มของไพรพนา แต่ผมกลับเลือกที่จะไปฝังตัวเองอยู่ในเกาะกลางทะเลพังงา
ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่า รีวิวนี้ ผมจะพาทุกคนไปลุยทะเลหน้าฝนกันที่ เกาะหนึ่งในประเทศไทย
ที่นี่คือ "เกาะยาวน้อย" อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา
ต้นทุนทางธรรมชาติที่สวยงาม ในรูปแบบแห่งความสงบของที่นี่ ต่างไปจากทะเลในหลายๆที่ที่ผมเคยไปสัมผัส
ความสวยงามปนความวุ่นวาย ที่ต้องเจอผู้คนเยอะๆ แย่งกันกินแย่งกันใช้ คุณจะไม่ได้เจอแบบนั้นแน่นอน
ทะเลที่นี่ แนบนิ่ง และสงบ ซึ่งแน่นอนว่ามันน่าจะตอบโจทย์ให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และได้ใช้ชีวิตบนเกาะกับคนรัก หรือกับครอบครัวอันเป็นที่รัก
ภาพที่ผมเห็นอยู่ด้านหน้า คือภาพของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางตามหาความเรียบง่าย และห่างจากความวุ่นวายในเมือง
"เกาะยาว" อำเภอเล็กๆ ของพังงา สามารถเดินทางมาได้ทั้งจากทางตัวจังหวัดพังงาเอง หรือแม้แต่จะเลือกมาจากกระบี่ หรือภูเก็ตก็มีเรือให้บริการแทบทั้งสิ้น
ผู้คนที่นี้เกือบๆ 95% เป็นมุสลิมที่อุดมไปด้วยมิตรภาพที่มากล้น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะผมได้เห็นตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะอยู่ในตลาด หรือในโรงแรมที่พัก
ผมเชื่อนะ ว่าหลายคนยังสงสัยว่าไปทะเลหน้าฝน ถ้าต้องไปเจอฝน ความสนุกก็จบเห่นะซิ
อันนี้ไม่เถียงนะครับ ทุกอย่างอยู่ที่ธรรมชาติล้วนๆ 555 เพราะผมเองก็คิดแบบนั้นตั้งแต่วันเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้ว
ผมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้ ในช่วงสายๆ ก่อนจะถึงเกาะยาวน้อย ก็ประมาณ 11 โมงกว่าๆ โดยที่พักที่ผมมาในวันนี้คือ "Paradise KohYao" รีสอร์ทในเครือ "Serenata" ที่อยู่ปลายสุดของเกาะยาวน้อย
บนอารมณ์แบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว ที่รีสอร์ทแห่งนี้มีให้ มันเหมาะเหลือเกินกับวันพักผ่อนที่เรียกว่าในฝันก็ว่าได้
ห้องพักน้อยใหญ่ของที่นี่ ไม่รู้จะบรรยายยังไง มันแจ่มดีแท้แม่คุณเอ๋ย ท่ามกลางวิวธรรมชาติทางทะเลอันสวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่าง
ที่พักแห่งเดียวบนเกาะที่มีชายหาดส่วนตัวสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจในทุกเวลา แถมยังสงบส่วนตัวไม่ต้องไปวุ่นวายกับใครอีกด้วย
จะถ่ายรูปสวย ๆ ริมชายหาดก็ได้วิวธรรมชาติล้วน ๆ ไม่ต้องถ่ายติดผู้คนที่มากมายมาให้เสียอารมณ์ รับรองว่าได้รูปสวย ๆ กลับไปแน่นอน
นอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นรีสอร์ทที่สร้างอยู่กลางธรรมชาติ อันสงบร่มรื่น โดยทางรีสอร์ทใช้วัสดุจากทางธรรมชาติในการตกแต่งที่พัก
ทำให้มีความรู้สึกกลมกลืนไปกับธรรมชาติและโทนสีขาวฟ้าให้ความรู้สึกแห่งการมาพักผ่อนกลางทะเลอย่างแท้จริง
ส่วนราคา หรือ ส่วนลดอะไรยังไง ก็ลองไปสอบถามเว็บไซต์ของที่นี่กันเองได้เลยครับ
หลังจากเก็บของเข้าที่พักกันแล้ว ก็เป็นเวลาของการท่องเที่ยวที่เรารอคอยกันแล้วจะรออะไรล่ะ ไปลุยกันเลย
นอกจากธรรมชาติทางทะเลแล้ว ที่เกาะยาวน้อยแห่งนี้ ยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่บนเกาะอีกมากมาย ที่รอให้เราไปสัมผัสกัน
ทั้งวิถีชีวิตของผู้คนและทุ่งนากว้างใหญ่สีเขียวขจีที่มาพร้อมกับสัตว์เจ้าถิ่นอย่าง เจ้าแพะ และเจ้าควาย ที่มารอต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างพร้อมเพียง
หลักจากอิ่มเอมกับธรรมชาติบนเกาะยาวน้อยแล้ว ยังไม่จบแค่นี้เพราะยังมีความพิเศษของธรรมชาติรอให้เราไปสัมผัสอยู่อีกมากมาย
เราเดินทางกันไปต่อที่ "เกาะผักเบี้ย" โดยใช้บริการเรือของรีสอร์ทได้เลย ราคาย่อมเยา โดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นก็มาถึง ขอบอกว่าสองข้างทางสวยและเราสามารถเก็บภาพสวยๆไปอวดใครต่อใครได้เลย เพราะว่าเด็ดจริงๆ
เกาะผักเบี้ยเป็นเกาะบริวารของเกาะห้อง แต่เรื่องความสวยงามนั้นต้องบอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้เกาะห้องเลย น้ำทะเลสีฟ้าสดใสสวยงาม น่าลงไปแช่ตัวสุด ๆ
แถมความสงบไม่วุ่นวายนั้นยังชนะเลิศ ไม่ต้องไปเบียดเสียดแย่งชิงกับใคร ใช้เวลาอยู่ที่นี่แบบชิล ๆ จะดำน้ำตื้นดูสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ หรือถ่ายรูปเล่นเก็บภาพความประทับใจก่อนกลับบ้านก็ดีไปหมด
หลังจากออกมาจากเกาะผักเบี้ย เราเดินทางมาต่อ เกาะกูดู อีกหนึ่งเกาะชื่อแปลกแต่สวยงามเหลือเกิน ที่นี่มีภูเขาหินปูนตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล เป็นภาพที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาอย่างลงตัว
ถ้าคุณนึกภาพไม่ออกว่าสวยงามเพียงใดลองนึกภาพของเขื่อนเชี่ยวหลานดู เพราะที่นี่มีความคล้ายคลึงกันมาก แถมยังมีน้ำทะเลสีเขียวมรกตงดงามลงตัวอย่างมาก
เราเพลิดเพลินกับความงามจนเผลอกดชัตเตอร์กันรัว ๆ เลยทีเดียว ประทับใจที่นี่มาก ๆ
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอจะได้เห็นนั่นก็คือ "สันหลังมังกร" หรือทะเลแหวกแห่งทะเลพังงานั่นเอง ที่นี่เป็นอีกหนึ่งทะเลแหวกที่คนยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก
จึงยังมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่มาก ทำให้เวลาถ่ายรูปนั้น จะเปรียบเสมือนคุณยืนอยู่กลางทะเลเพียงคนเดียว เป็นภาพที่สวยงามและแปลกตามาก ๆ
โดยสันหลังมังกรนี้ มีพิกัดอยู่ที่ เกาะพลอง นั่นเอง ซึ่งทะเลแหวกนี้ มีความยาวประมาณ 1.5 - 2 กิโลเมตร โดยจะเห็นได้ชัดในยามน้ำลง
สันทรายสีขาวทอดยาวไปกลางทะเลน้ำใสสีฟ้าอ่อน สะท้อนกับแสงแดดเป็นแสงระยิบระยับ ตัดกันได้อย่างลงตัว
รับรองว่าทะเลแหวกสันหลังมังกรของที่นี่สวยงามไม่เหมือนกับที่อื่นแน่นอน หากคุณลองมาที่นี่สักครั้งแล้วคุณจะลืมความงามของทะเลแหวกที่วุ่นวายที่อื่นไปเลย
หลังจากได้เจอสิ่งมหัศจรรย์กลางทะเลกันไปแล้ว เราได้ไปต่อกันที่เกาะต้นไม้อยู่ ที่มี "ต้นไม้ยักษ์" ใหญ่แอบซ่อนอยู่ในเกาะ
นั่นก็คือ ต้นสมพง หรือกะปุง กะพง อายุกว่า 100 ปี ที่มีขนาดใหญ่ถึง 20 คนโอบนั่นเอง ใหญ่โตอลังการสุด ๆ
หลังจากทัวร์เกาะกันอย่างหนำใจแล้ว ก็ได้เวลากลับที่พัก เหนื่อย ๆ จากการเดินทางมาทั้งวัน ได้มานั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ริมทะเลมองดูเสียงคลื่นและลมทะเลแสนเย็นสบาย เกือบทำให้เราเคลิ้มหลับไปเพราะความสุข
และแล้วเราก็ถูกปลุกจากภวังค์ด้วยกลิ่นหอมของอาหารทะเลสด ๆ ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้พวกเราในมื้อเย็น ที่นี่อาหารทะเลสดมาก ๆ เพราะเป็นเกาะกลางทะเลอาหารทะเลส่งตรงขึ้นบกมาจากเรือประมงเลย
ทานอาหารซีฟู้ดท่ามกลางแสงเทียน เคล้ากับเสียงดนตรีเบา ๆ และบรรยากาศที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วในเมืองกรุงอันแสนวุ่นวาย เป็นความรู้สึกที่แทบไม่อยากจะกลับไปเมืองกรุงเลย
"เกาะยาวน้อย" แห่งท้องทะเลของเมืองพังงา อุดมไปด้วยความสงบ แถมยังฉาบไปด้วยความสุข ในรูปแบบต้นทุนทางธรรมชาติที่งดงาม
ทะเลที่นี่อาจะไม่ได้ใสชนิดสีฟ้าครามดั่งเช่น สิมิลัน หรือ ตาชัย ก็จริง
แต่ความต่างตรงนี้แหล่ะ มันคือ "มนต์เสน่ห์" ที่เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของเกาะแห่งนี้
สิ่งที่เห็นอยู่รอบเกาะ คือภูเขาหินปูนน้อยใหญ่เต็มท้องทะเล มองไปมุมไหน ก็ดูสวยแปลกตาไปหมด
นอกไปจากนี้ สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้คือ "ความสงบ" ที่หลายคนต่างถวิลหาให้กับชีวิต
สงบแบบไหนนะหรือ....ลองออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วคุณจะหลงรักที่นี่ เหมือนเฉกเช่นที่ผมเป็น
อัลบั้มภาพ 394 ภาพ