5 ที่เที่ยวหน้าฝน คนผจญภัยไม่ควรพลาด
ช่วงเวลานี้เปรียบเสมือนนาทีทองของนักเดินทางที่มีใจรักในธรรมชาติอย่างแท้จริง ซึ่งเฝ้ารอนับวันเวลามาเกือบปีเพื่อจะได้พบกับวันที่หมู่มวลดอกไม้เบ่งบานเปล่งสีสัน ทั้งสายน้ำใสไหลหลั่งเย็นก่อเกิดกิจกรรมความสนุกสนานมากมาย
ฤดูฝน อาจเป็นช่วงวันเวลาที่นักท่องเที่ยวหลายคนจะได้หยุดพัก เพราะความไม่สะดวกหลายประการอันมีสาเหตุมาจากความเฉอะแฉะเปียกลื่น หรือความไม่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ แต่โปรดอย่าลืมว่า ฤดูฝน คือช่วงวันเวลาที่ธรรมชาติจะได้ผลิบานอวดช่องดงามให้ความรู้สึกสดชื่นฉ่ำเย็น หลังจากผ่านพ้นช่วงฤดูร้อนแล้งมาอย่างแสนสาหัส ช่วงเวลานี้เปรียบเสมือนนาทีทองของนักเดินทางที่มีใจรักในธรรมชาติอย่างแท้จริง ซึ่งเฝ้ารอนับวันเวลามาเกือบปีเพื่อจะได้พบกับวันที่หมู่มวลดอกไม้เบ่งบานเปล่งสีสัน ทั้งสายน้ำใสไหลหลั่งเย็นก่อเกิดกิจกรรมความสนุกสนานมากมาย
วันนี้สายฝนได้โปรยปรายลงมาแล้ว ผมจึงขอหยิบยกสถานที่ท่องเที่ยว 5 แห่ง ที่มีความน่าสนใจและคุ้มค่าต่อการเดินทางไปเยือน มาให้คุณได้เป็นทางเลือกแล้วตัดสินใจเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันอีกครั้ง เผื่อว่าวันหยุดนี้จะเป็นวันหยุดสุดประทับใจของคุณและครอบครัวอันอบอุ่น หรือคุณและเพื่อนที่รู้ใจ จะได้ออกผจญภัยร่วมกันอีกครั้ง
1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ พื้นที่ป่าธรรมชาติตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร มีพื้นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาวเป็นลานป่าสนสามใบขึ้นอยู่มากมายเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ช่วงฤดูฝน เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายนของทุกปี กลางทุ่งหญ้าจะมีดอกไม้ดินออกดอกสีม่วงขึ้นเป็นกลุ่มหนาแน่น ได้แก่ ดอกหงอนนาค ดอกกุง และดอกหญ้ารากหอมจะมีดอกสีม่วง สีเหลืองสวยงามมาก การเดินทางขึ้นสู่ลานสน จะต้องใช้วิธีเดินเท้าขึ้นบนภูเขาสูงเท่านั้น โดยมีระยะทางประมาณ 5 กม. เส้นทางการเดินค่อนข้างสูงชัน ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนออกเดินทาง
น้ำตกภูสอยดาว ตั้งอยู่ด้านล่างใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ ริมทางหลวงหมายเลข 1268 เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นสู่ลานสน ตัวน้ำตกประกอบไปด้วย 5 ชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ 0 5541 9234 – 5
2. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก กิจกรรมความสนุกสนานท้าทาย และได้รับการยกย่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เป็นสายน้ำที่มีความสนุกสนานปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับการล่องแก่งที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากมีความสะดวกสบายไม่ต้องเดินเท้าเข้าป่าไม่ต้องเตรียมเสบียง การล่องแก่งลำน้ำเข็กจะเริ่มต้น จากบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ล่องไปสู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ความพิเศษอยู่ที่จะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งคือระดับที่ 1 และเข้าสู่ระดับน้ำที่มีความสนุกสนานท้าทายขึ้นตามลำดับจนกระทั่งถึงระดับสูงสุดคือระดับ 5 ในช่วงท้ายของลำน้ำเข็กนี้จะขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก รวมระยะทางในการล่องแก่งประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก
สามารถล่องแก่งได้ในช่วงฤดูฝน คือช่วงเดือนมิถุนายน - ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน นอกจากการล่องแก่งที่สนุกสนานแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ชิมกาแฟแก่งซอง ซึ่งเป็นกาแฟท้องถิ่นพันธุ์อราบิก้า แบบต้นตำรับที่มีความเข้มเติมด้วยความมันและหวานหอม ตามแบบฉบับ “กาแฟแก่งซอง” ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกอยู่ทั่วไปบริเวณตำบลแก่งโสภา ดดยบริเวณนี้จะมีร้านจำหน่ายกาแฟสดให้บริการอยู่หลายร้าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742 – 3
3. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ ดอกกระเจียว หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บัวสวรรค์ ดอกมีสีชมพูอมม่วงบนยอดเขาพังเหยเมื่อถึงฤดูฝนจะบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งหญ้าเพ็กสีเขียว ผสมกับไอหมอกและลมเย็นพัดโชยมา ทำให้ผู้มาเยือนประทับใจกับท้องทุ่งบัวสวรรค์ “งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม จังหวัดชัยภูมิ” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตลอดเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ เป็นกิจกรรมที่จัดต้อนรับฤดูฝน และผู้ที่สนใจทั่วไป ที่เดินทางมาเยือนดินแดนแห่งความสวยงามเป็นธรรมชาติ ให้เกิดความประทับใจอย่างไม่รู้ลืม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4421-3666 , 0-4421-3030
4. น้ำตกทีลอซู อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี ลำน้ำทั้งสายตกลงจากหน้าผาสูงชัน ความกว้างของน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ ซึ่งมีความสูงโดยรวมประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก ติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก การเดินทางท่องเที่ยวในฤดูฝน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางปิดเส้นทางรถยนต์ เนื่องจากการสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเป็นการพักฟื้นผืนป่าเพื่อให้สัตว์ป่าได้ออกหากินและขยายพันธุ์โดยไม่ถูกรบกวน
หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปเที่ยวชมน้ำตกทีลอซูในช่วงนี้ ควรติดต่อบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากการเดินทางเข้าไปสามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ ล่องเรือยางจากอำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือ เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341-3 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทรศัพท์ 0 5557 7318
5. อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 215 กิโลเมตร เส้นทางระหว่างอำเภอทองผาภูมิมุ่งหน้าสู่อำเภอสังขละบุรี จะตัดผ่านภูเขาเลียบไปตามทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ มองเห็นทัศนียภาพที่งดงาม อำเภอสังขละบุรีมีชาวมอญอาศัยตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก ตัวอำเภอตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "สามประสบ" คือบริเวณที่ลำห้วยสามสายมาบรรจบกัน อันได้แก่ ลำห้วยซองกะเลีย ลำห้วยบิคลี่ และลำห้วยรันตี ก่อเกิดเป็นแม่น้ำแควน้อย
เมืองบาดาล ในอดีตคืดที่ตั้งของวัดวังก์วิเวการาม ที่หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านอพยพ ชาวกะเหรี่ยงและมอญได้ร่วมก้นสร้างขึ้น เมื่อปี 2496 ต่อมาในปี 2527 มีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ) ขึ้น ทำให้น้ำเข้าท่วมบริเวณวัด จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนที่ตั้งวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี
ในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งน้ำลดจะสามารถมองเห็นตัวโบสถ์ของวัดได้อย่างชัดเจน และสามารถนั่งเรือไปเที่ยวชมได้ แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะขึ้นท่วมสูงเกือบทั้งหมดเหลือเพียงยอดของโบสถ์ให้เห็นเท่านั้น กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในชื่อเมืองบาดาล นอกจากนี้อำเภอสังขละบุรียังมีสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่เชื่อมระหว่างฝั่งตัวอำเภอและฝั่งที่ชาวมอญอาศัยอยู่ สะพานไม้แห่งนี้สร้างโดยเงินบริจาคและแรงพลังศรัทธาของชาวไทยและชาวมอญ ที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ นับเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี ที่นักท่องเที่ยวน่าจะได้เดินทางไปเที่ยวชม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 0 3451 1200 , 0 3451 2500
สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 แห่งนี้ คงช่วยให้ท่านที่กำลังคิดถึงธรรมชาติ ได้เป็นแนวทางในการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนได้บ้าง แต่โปรดอย่าลืมว่าการขับรถในช่วงที่ฝนตกนั้นค่อนข้างอันตราย จึงไม่ควรประมาทด้วยการใช้ความเร็วที่มากเกินไปนะครับ