5 วิธีเดินทางขึ้นเครื่องบินแบบมืออาชีพ

การเดินทางโดยเครื่องบินในปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย และได้รับความนิยมไปทั่วโลก

แต่ปัญหาที่เหล่านักเดินทางที่ต้องใช้บริการเป็นประจำคือการต้องเสียเวลาเข้าคิวตรวจสอบสัมภาระ ต่อคิวเพื่อเช็คอินบัตรโดยสาร

ต่อคิวเพื่อรับการตรวจในการเดินทางเข้าออกของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือแม้กระทั่ง การต่อคิวเพื่อขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเรื่องเหล่านี้บอกเลยว่าจะหมดไป เพียงแค่คุณทำตามวิธีที่วันนี้ Sanook! Travel นำมาฝากกัน

1. มาก่อนเวลาที่จะเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

ข้อแรกนี้เรียกได้ว่าเป็นท่าพื้นฐาน หลายคนก็มองข้าม ขณะที่หลายคนก็เพื่อเวลามากเกินไป ซึ่งการมาก่อนเวลาเดินทางสามชั่วโมงนั้น เป็นคำแนะนำที่เรียกได้ว่าเหมาะสมมาก

เพราะการมาถึงก่อนเวลาทำให้คุณมีเวลาหาเคาท์เตอร์ของสายการบินที่คุณจะโดยสารว่าอยู่ในแถวของตัวอักษรใด ได้เช็คไฟลท์ของตนเองว่าจะอยู่ที่ประตูทางออกที่เท่าไร

และเมื่อ เคาท์เตอร์สายการบินเปิดให้เช็คอิน บัตรโดยสารคุณก็จะเป็นคิวแรกๆที่สามารถเลือกที่นั่งได้ และ ไม่ต้องรอเข้าแถวยาวๆอีกต่อไป

2.เลือกเข้าคิวให้เป็น

สิ่งหนึ่งสำหรับคนที่ไปสนามบินทุกคนต้องเจอคือการเข้าคิว ทั้งเข้าคิวเพื่อตรวจสัมภาระและความปลอดภัย เข้าคิวเพื่อตรวจเอกสารของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

ดังนั้นก่อนที่คุณจะต่อแถวทุกครั้งโปรดเลือกแถวที่จะต่อสักนิด อาทิ ถ้าแถวที่คุณหมายตาไว้ดันมีผู้โดยสารที่มากันเป็นครอบครัว มีพ่อแม่ลูกครบ หรือ มีผู้โดยสารที่มากันเป็นกลุ่ม ขอให้ตัดสินใจใหม่

หันไปเลือกแถวที่มีผู้โดยสารลักษณะมาคนเดียว หรือ เป็นนักธุรกิจ เพราะ ผู้โดยสารกลุ่มนี้เดินทางบ่อยจะรู้ดีว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องผ่านช่องตรวจสัมภาระและความปลอดภัย

พวกเขาจะไม่รอให้เจ้าหน้าที่ถามว่ามีโน้ตบุ๊ค อยู่ในกระเป๋าไหม แต่พวกเขาจะหยิบออกมาสำแดง หรือ ถอดสิ่งที่เป็นโลหะเพื่อให้การตรวจผ่านไปอย่างรวดเร็วทันที

ด้วยเหตุนี้การเลือกต่อแถวในเวลาเดินทางจึงไม่ใช่แค่แถวไหนก็ได้ เพราะถ้าเลือกแถวถูกจะช่วยย่นระยะเวลาไปได้อย่างน้อย 5 นาทีเลยทีเดียว

3.เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าช่องตรวจสัมภาระและความปลอดภัย

เวลาเดินทางด้วยเครื่องบิน นั้นหลายคนมักจะจัดเต็มทั้งเครื่องประดับ และ เสื้อผ้าหน้าผม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณจะต้องเผชิญความยากลำบากในช่องตรวจสัมภาระ

และ ความปลอดภัย ดังนั้นก่อนจะแต่งตัว เพื่อเดินทางโดยเครื่องบินนั้น ควรเลือกรองเท้าที่ไม่มีวัสดุเป็นโลหะอยู่ภายใน เลือกกางเกงเป็นเอวยางยืดไม่ต้องใส่เข็มขัด เลือกกระเป๋าเป้

หรือ กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ เอาไว้ใส่เงินสด บัตรเครดิต และเมื่อผ่านช่องตรวจสัมภาระจะได้เอาไว้ใส่นาฬิกา และ เครื่องประดับ ซึ่งการเตรียมตัวแบบนี้จะทำให้คุณใช้เวลาในช่องนี้ มากที่สุดก็แค่สองนาที

4.สะสมไมล์ทุกครั้งที่เดินทางเพื่อสิทธิพิเศษที่คุณนึกไม่ถึง

การสะสมไมล์ สำหรับหลายคนคือการสะสมเพื่อแลกบัตรโดยสาร แต่ในความเป็นจริงแล้ว การสะสมไมล์ที่ถึงเป้ายังช่วยให้คุณได้เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า ได้ขึ้นเครื่องก่อนคนอื่น

หรือได้เช็คอินตั๋วในช่องทางพิเศษ โดยไม่ต้องไปต่อในแถวปกติ และ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ราบรื่น ชนิดไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้นกันเลยทีเดียว

5.หาทางไป Gate ให้เจอก่อนจะเดินช้อปปิ้ง

หลายคนคิดว่าการมาล่วงหน้าก็เพื่อจะเผื่อเวลาเดินช้อปปิ้งใน ดิวตี้ ฟรี แต่ในความเป็นจริงแล้วหลายคนช้อปปิ้งเพลิน จนต้องวิ่งหน้าเริดเพื่อหาทางไป Gate ของตนเอง

เพราะในสนามบินนานาชาติใหญ่ๆทั่วโลกนั้นมักจะมีทางไป Gate ที่ค่อนข้างไกล และ บางแห่งก็ต้องนั่งรถไฟภายในสนามบินเพื่อไปยัง Gate ปลายทาง

ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางมืออาชีพ ที่ต้องหาทางไป Gate ให้เจอก่อนจะไปช้อปปิ้ง หรือ ไปหาอาหารรองท้อง เพราะถ้าเรารู้ทางไปขึ้นเครื่องแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง