ความงดงามที่ซุกซ่อนอยู่ในเมืองอันแสนสงบ "อุทัยธานี"

อุทัยธานี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด! มีเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน

ถ้าหากได้มาเที่ยวแล้ว เชื่อว่า อุทันธานี จะเป็นอีกหนึ่งลิสท์เมืองท่องเที่ยวในดวงใจแน่นอน วันนี้ Sanook! Travel จึงได้นำรีวิวดี ๆ จากคุณ ผู้ชายนวล ๆ มาฝากกัน

วันนี้นวลเลยถือโอกาส พาพี่Thairung Transformer II ไปลุยอุทัยฯกันแบบ เต็มอิ่มกับ กับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองอุทัยธานี ไม่ว่าจะเป็น วัดท่าซุง

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ่างเก็บน้ำทับเสลา หุบป่าตาด และแวะไปเก็บบรรยากาศยามเย็นที่ย่านเมืองเก่าริมฝั่งแม่น้าสะแกกรังถ้าพร้อมกันแล้ว ตามนวลมาเลยครับ

ในเช้าวันวันเสาร์สดใส นวลออกจากบางกอก 6 โมงเช้า ใช่เวลาขับรถชิว ๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงท่าโป๊ะข้ามฟาก จากชัยนาท ไปอุทัยฯ

มันจะได้บรรยากาศของการข้ามไปมาจากฝั่งชัยนาท ไปอุทัยฯ ช่วยล่นระยะทางไปได้อีกเกือบ 30-40 กิโลเมตรเลยนะครับ

บรรยากาศยามเช้า ย่านคุ้งสาเภาฝั่งชัยนาท จะมีตลาดย่อมๆที่คึกคักพอสมควร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของกิน และอาหารพื้นบ้านนานาชนิด

แพยนต์สามารถจุดรถยนต์ขนาดใหญ่ ได้ถึง 9 คันเลยนะครับ

ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็ข้ามมาถึงฝั่งอุทัยฯแล้วค้าบ

ปล.วิถีชีวิตการใช้แพข้ามฟากแบบนี้มีให้เห็นอีกไม่นานแล้วนะครับ เพราะตอนนี้เขากาลังเริ่มก่อสร้างสะพานข้ามแล้ว อีกหน่อยการข้ามแพยนต์แบบนี้คงมีให้เห็นน้อยแล้วเนอะ

วัดท่าซุง

ข้ามมาถึงอุทัยฯแล้ว เราก็เลยถือโอกาสแวะไหว้พระขอพรกันก่อนเลยที่วัดท่าซุง

วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม วัดขึ้นชื่อเรื่องความงามของจังหวัดอุทัยธานี และเป็นอีกหนึ่งในวัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย เป็นวัดเก่า แต่ก็ได้มีการบูรณะเรื่อยมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน

มีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกาแพงด้านหน้า มณฑป และพระวิหารแก้วที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจาลอง

และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดาที่ไม่เน่าเปื่อย ไฮไลท์ความงามของที่นี่ต้องยกให้ “วิหารแก้ว 100 เมตร” ที่ตกแต่งด้วย

โมเสกแก้วเล็กๆทั้งวิหาร ทาให้ดูแวววับสวยงามจับตา

ถัดมาอีกหน่อยแต่ยังอยู่ภายในบริเวณวัดท่าซุงนี้ จะพบ ปราสาททองคา (กาญจนาภิเษก) ที่ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ประดับลวดลายไทยปิดทองคาเปลวติดกระจก

ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ญาติโยมถวาย

รอบนอกปราสาทใช้ทองคาเปลวปิดรอบปราสาทให้เป็นสีทองอร่ามอีกด้วย

มาต่อ ๆ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 90 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอุทัยธานี-หนองฉาง-ลานสัก

ทางหลวงหมายเลข 3438 ถึงหลักกิโลเมตรที่ 53-54 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร

จะถึงที่ทาการเขตด่านตรวจเขาหินแดง ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยทับเสลา จากที่ทาการเขตฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยังสถานีวิจัยเขานางรา ระยะทาง 17 กิโลเมตร

และหน่วยพิทักษ์ป่ากะปุกกะเปียง ระยะทาง 14 กิโลเมตร จากหน่วยพิทักษ์ป่ามีเส้นทางเดินป่าไปโป่งน้าร้อนอีก 6 กิโลเมตรค้าบ

เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อ 2534

มีพื้นที่ครอบคลุม 6 อำเภอ 3 จังหวัด รวมถึงจังหวัดอุทัยธานี ในอำเภอบ้านไร่ อำเภอลานสัก และอำเภอห้วยคต

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถาน สืบ นาคะเสถียร ชายผู้อุทิศตนเพื่อปกป้องผืนป่า และสัตว์น้อยใหญ่

ชื่อของ สืบ นาคะเสถียร คงยังติดตรึงอยู่ในใจใครหลายคน เพราะท่านไม่ใช่เพียงคนที่รักและอุทิศตัวของเขาเพื่ออนุรักษ์ผืนป่าเอาไว้เท่านั้น

แต่..ท่านอุทิศทั้งชีวิต และจิตวิญญาณของท่านไว้ที่นี้ ด้วยเสียงปืนที่ลั่นขึ้นกลางป่า

ห้วยขาแข้ง ในวันที่ 1 กันยายน 2533 โดยท่านเพียงแต่หวังว่าจะมีส่วนทาให้ผู้คนเหลียวมามองป่ามากกว่าเดิมด้วยการเสียสละชีวิต

"ป่าไม้เป็นบ่อเกิดของทุกสรรพสิ่ง มนุษย์เราเป็นทั้งผู้ใช้ และผู้ทาลายมรดกของธรรมชาติมาอย่างช้านาน จะมีสักกี่คน ที่ตระหนัก และระลึกถึงคุณค่าของผืนป่า เทียบเท่ากับผู้เสียสละคนนี้..." สืบ นาคะเสถียร

บ้านพักสืบ นาคะเสถียร

หน้าบ้านของท่านสืบ นาคะเสถียร จะมีลาห้วยไหลผ่าน ถ้าวันไหนโชคดีจะเห็นสัตว์ออกมาเล่นน้าที่ลาห้วยด้วยน้า

ตอนแรกนวลกะว่าจะไปกางเตนท์นอน แต่ว่าวันที่นวลไปฝนตกหนักเลย นวลเลยต้องล้มเลิกแผนนั้นไป แง่วๆ

ขากลับนวลเลยขอแวะฉายภาพกับป้ายสักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงห้วยขาแข้ง

เขื่อนทับเสลา

ขับย้อนกลับมาออกมาอีกนิดนึง ขวามือจะเป็นเขื่อนทับเสลา หรือเขื่อนระบา ที่สร้างกั้นลำห้วยเสลา เกิดเป็นเขื่อนขนาดกลางที่มีวิวสวยมากอีกแห่งหนึ่ง

ฉากหลังของเขื่อน เป็นทิวเขาสลับซับซ้อน สวยมากเลยนะครับขอบอกเลยว่าอากาศดีมาก

เดสติเนชั่นต่อไปที่นวลจะพาไปเที่ยวก็คือหุบป่าตาดจ้า ดินแดนที่ได้ชื่อว่ายุคจูราสสิค และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายทาของเจ้าแม่นาคี

ความดีงามมันอยู่ตรงที่เราต้องลอดถ้าเข้าไป พอโผล่ไปออกที่หุบป่าตาดเหมือนย้อนเวลาไปยุคจูราสสิคเลยแกรเอ้ย

หุบป่าตาด ตั้งอยู่ในอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ขึ้นชื่อว่าเป็น ดินแดนจูราสสิคเมืองไทย ชมความมหัศจรรย์ของผืนป่าดึกดาบรรพ์

บริเวณโดยรอบของหุบป่าตาดนี้เป็นระบบนิเวศค่อนข้างปิดเนื่องจากมีทางเข้าออก ทางเดียว แสงแดดจะส่องถึงเฉพาะช่วงเวลาเที่ยงวันเท่านั้น

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักผจญภัยลิสไว้ว่าต้องมาให้ได้ เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยว Unseen ของเมืองไทยอีกด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนเราเข้าไปอยู่ในยุคจูราสิคอย่างงั้นเลย

ไฮไลท์สำคัญของหุบป่าตาด ได้แก่ “ต้นตาด” ที่เป็นพืชตระกูลปาล์มดึกดาบรรพ์ที่พบมากในบริเวณหุบเขาหินปูนนี้ และ “กิ้งกือมังกรสีชมพู”

สัตว์หายากของโลกที่ในประเทศไทยสามารถพบเห็นได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งหุบป่าตาดจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. นะครับ

ถ้ำเจ้าแม่นาคี ยิ่งใหญ่มากเลยนะครับ

นวลติดฝนอยู่หุบป่าตาดเกือบ2 ชม.แกเอ้ย แผนท่องเที่ยวหลาย ๆ ที่ล่มหมด เลยต้องเปลี่ยนแผนมาเก็บบรรยากาศตัวเมืองอุทัยฯมาฝากแทน

เมืองอุทัยธานีเป็นเมืองที่อยู่บนที่ดอน ไม่มีแม่น้าสายใหญ่ ในอดีตจึงต้องค้าขายกันโดยการพายเรือ ชาวเมืองต้องขนข้าวบรรทุกเกวียนมาลงที่แม่น้า

จึงทาให้พ่อค้าพากันไปตั้งยุ้งฉางรับซื้อข้าวที่ริมแม่น้าจนเป็นหมู่บ้านใหญ่

เรียกว่า “หมู่บ้านสะแกกรัง” เนื่องจากเป็นพื้นที่มีป่าสะแกขึ้นเต็มริมน้า และมีต้นสะแกใหญ่อยู่กลางหมู่บ้าน

วัดอุโปสถาราม วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีศิลปะทางด้านสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ทั้งมณฑปทรงแปดเหลี่ยมที่ออกไปทางสถาปัตยกรรมตะวันตก และถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งของอุทัยฯ

หาเรามาเยือนที่แห่งนี้ก็จะได้ชมภาพชีวิตของชาวแพ ซึ่งได้สร้างบ้านคร่อมไว้บนแพลูกบวบไม้ไผ่ และตลอดลาน้ายังจะได้เห็นการปลูกพืชผักลอยน้าที่สวยงาม

โดยเฉพาะเตยแพ และพุทธรักษาที่ชาวบ้านปลูกไว้อย่างมากมาย

รวมไปถึงการเลี้ยงปลาในกระชังที่ทากันทุกแพ และที่ถือว่าเป็นความโดดเด่นของแม่น้าสายนี้ ได้แก่ ปลาแรดที่มีรสชาติดีกว่าแหล่งอื่น ๆ

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรจึงมีการทาประมงน้าจืดจานวนมาก

ถนนคนเดิน ตรอกโรงยา หรือ เซ็กเกี๋ยกั้ง เสน่ห์ของที่นี่ก็คือ บ้านเรือนไม้เก่าๆ ทุกวันเสาร์ บนถนนสายเล็กๆ แห่งนี้

จะมีนักท่องเที่ยวและชาวอุทัยฯพากันมาเดินเที่ยว กินอาหารอร่อยๆ ขึ้นชื่อของเมืองอุทัยฯ

ผู้คนในชุมชนจะเปิดบ้านชาวจีนในสมัยก่อนหลายหลัง รวมถึงมีการเล่าถึงประวัติของตรอกโรงยาในสมัยก่อน ให้นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ได้ทราบกัน

นอกจากจะอิ่มความรู้กันแล้ว แถมยังได้ช๊อบของฝากเล็กๆ น้อยๆ กลับมาฝากคนที่บ้านอีกด้วยนะแกร

อุทัยธานี อีกหนึ่งจังหวัดน่ารักที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากเท่าไหร่ สามารถเดินทางเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือมานอนค้างอุทัยฯ สัมผัสวิถีชีวิตที่ยังน่าประทับใจกันได้นะครับ

รับรองว่าแฟนจ๋าจะหลงรักอุทัยฯเหมือนนวล

การได้...เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตใครสักคน

การได้...รู้จักและเรียนรู้สิ่งต่างๆไปด้วยกัน,,,

การได้...เดินทางไปในกาลเวลาของกันและกัน

การได้...พบเจอคนที่เดินเคียงข้างไปกับเราในทุกๆความฝัน

อย่า...รีบร้อนเดินทางไปถึงฝั่งฝัน ใส่ใจข้างๆทางใส่ใจคนที่เดินข้างๆกัน

คำตอบ...ของการเดินทางคือ การพบเจอคาว่า"ความรัก"อย่างแท้จริง