มนต์สะกดแห่งภูหนอง ที่นักเดินทางทุกคนต้องมนต์สะกดกับความสวยงาม!!
ถนนสายนี้สวยทุกครั้งที่ได้เดินทางผ่านไป ทางเชื่อมระหว่างจังหวัดหนองคายกับจังหวัดเลย ครั้งนี้เราจะไม่ผ่านไปเฉยๆ ขอหยุดพักผ่อนที่หมู่บ้านแห่งนี้
ซึ่งปีที่แล้วเราเคยไปแวะกินข้าว และได้เจอความพิเศษจนอยากกลับมาอีกครั้ง บ้านภูเขาทอง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เราทุกคนต่างผ่านการท่องเที่ยวทุกช่วงชีวิต ตั้งแต่เที่ยวกับครอบครัวตอนเด็ก เที่ยวกับโรงเรียนตอนประถม-มัธยม เที่ยวกับเพื่อนตอนเรียนมหาลัย
เริ่มจากเที่ยวกับคนที่เป็นห่วงเราที่สุด จนทุกวันนี้คนเหล่านั้นยอมปล่อยให้เราไปเที่ยวแบบไม่ติดตามเราอีกต่อไป แค่ดูแลตัวเองได้และกลับบ้านปลอดภัยเอาเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อย
และค่ำคืนนี้ก็เช่นกันเราถึงที่พักตอนเที่ยงคืน กว่าจะรวมตัวกันได้ไม่ใช่ว่าอยู่ไกลกันนะ แต่เราทุกคนเริ่มทำงานประจำกันแล้วต้องรอให้เลิกงาน ซึ่งเพื่อนเลิกงานตอน 1 ทุ่ม กลับมาเตรียมของเพื่อออกเดินทางต่อ
เราเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับได้ยินเสียงน้ำไหลดังมากพอที่จะทำให้เราสนใจ มองออกไปยิ่งรู้สึกว่าดีแล้วที่ยอมเดินทางมาตอนกลางคืน
น้ำโขงภูเขาล้อมหมู่บ้านภูเขาทองและมีฝ้าหมอกปกคลุมเอาไว้ มีแสงพระจันทร์ส่องลงมากระทบวิวด้านล่างมองเห็นทุกอย่างแทบจะชัดเจนเลยก็ว่าได้
พร้อมกับพี่หนึ่งลูกชายเจ้าของบ้านลัดดาโฮสเตย์ที่เราไปพัก ออกมาต้อนรับ และยกของลงจากรถช่วยไปเก็บบนบ้านพักที่อยู่บนเนินเขา เราเดินขึ้นไปบนบ้านมีคุณแม่คอยต้อนรับ
ก่อนจะนัดหมายกันเล็กน้อยถึงสถานที่ ที่เราจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้า ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องพัก
05.30 น. เราทุกคนออกมารวมกันที่ห้องโถง ในภาพที่คิดไว้ตอนแรกคงยังมืดอยู่แน่เลย แต่พอได้ออกมานอกบ้านเท่านั้นแหละ ตี 5 นี่ก็สว่างหมดแล้วนะ
เราเดินทางมุ่งหน้าสู่ภูหนอง หวังจะขึ้นไปเก็บแสงแรกของวันที่นั่น วิว 360 องศา หวังเก็บภาพสวยๆ มาฝากชาว Sanook! Travel กันเต็มที่
ต้องบอกก่อนว่าภูหนองอยู่ในการดูแลร่วมกันของ 2 หมู่บ้านคือ บ้านหนอง และบ้านโนนสว่าง ห่างจากบ้านภูเขาทอง 2 กิโลเมตร
สามารถขึ้นได้สองจุด คือจุดแรกทางเท้าขึ้นที่บ้านหนอง ตรงข้ามกับจุดชมวิวอ่างปลาบึก จุดที่สองวัดโนนสว่างด้วยรถอีแต๋น
ซึ่งทางทีมเราสะดวกทางรถอีแต๋นมากกว่าในรอบเวลาน้อยแต่อยากไปให้สุดตามสไตล์นอนน้อยแต่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แฮร่ๆ ทางขึ้นถือว่าผจญภัยในระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้นะ
เอาง่ายๆ จับให้แน่นนะ น้องนะ เลยแหละ ทางก็ชันหมอกก็ลอยต่ำเหลือเกิน ได้อารมณ์สุดๆ วิวก็อยากดู
ไหนจะต้องลุ้นว่าจะปีนไหล่เขาหรือกำลังจะลงทางลาดชันต้นไม้น้อยใหญ่บดบังไปในบางช่วงยิ่งทำให้อาการง่วงของเราหายไปหมดเพราะความอยากเห็น“ถึงแล้วนะครับ” เสียงคุณลุงสำราญ
ผู้ช่วยของบ้านหนองผู้ขับอีแต๋นโฟวิลพาเราโลดโหนมาจนถึงจุดนี้ จุดชมวิวทะเลหมอกภูหนอง เวลาประมาณ 6 โมงเช้า
หมอกที่เหมือนหมอกฝนมาพร้อมกับลมบางๆ แต่ไม่หนาวแม้แต่นิดเดียว ทุกคนลงจากโฟวิล (อีแต๋น) พร้อมอุปกรณ์ทำมาหากินของตัวเอง อุปกรณ์คือกล้องและของกิน
ลืมเล่าไปถึงความน่ารักของบ้านโฮมสเตย์ของเราที่คุณแม่ๆ และคุณยายทำข้าวห่อใบตองหมูแดดเดียวกับแจ่วสูตรประจำบ้านของตัวเองใส่พานข้าวขันโตกเอาไว้ให้เราเอาขึ้นมากินบนภูหนอง
ว่าแล้วแต่ละคนก็ถือของกึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อที่จะไปให้ถึงจุดชมวิวให้เร็วที่สุด เพราะหมอกกำลังเคลื่อนไหวไปแบบช้าๆ
แต่ภาพตรงหน้าไม่เคยเหมือนเดิมเลย (เฮ้ยแกร...มันดีจริงอะ) อารมณ์เดินไปประทับใจไปอยากชวนเพื่อนที่ติดงานมาด้วยกัน สายลมอ่อนๆ
พร้อม กับหมอกที่แปลงร่างเป็นทะเลไปแล้วเรียบร้อยกับการกินข้าวตรงจุดชมวิว อร่อยแล้วยังสวยอีก คุ้มค่าจริงๆ อีกหนึ่งความทรงจำที่ดีของชีวิตนี้
หมอกหนาและนานถึง 9 โมงเช้า บ้างเป็นละอองจางๆ ลอยผ่านหน้าเราไป บ้างจับเป็นก้อนเคลื่อนไหลไปตามล่องภูเขาไหลลงน้ำโขง พร้อมกับเสียงดังซาๆ ขึ้นมาเบาๆ จากด้านล่าง
พอหมอกบางเรายังเห็นอ่างปลาบึกทั้งอ่างได้มุมกว้างด้านล่างที่สวยไม่แพ้หมอก โขดหินลำน้ำแซมด้วยต้นไม่สีเขียวมองลงไปสบายตามากๆ
รู้สึกดีและประทับใจกับวันหยุดอันแสนสั้นของตัวเองจริงๆ เป็นหนึ่งวันที่คุ้มค่ามากๆ ใครจะคิดว่าทางผ่านไปจังหวัดเลย ถนนเส้นนี้แอบซ่อนหมู่บ้านน่ารักๆ เอาไว้
นี่ถ้าไม่จอดรถแวะทานข้าวหรือหาที่พัก ก็ไม่ได้เจอที่สวยๆ แบบนี้ เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่ ภูหนองนะ ที่นี่มี พันโขดแสนไคร้ ภูโล้น ภูผาดัก เตาเผาโบราณ และอีกหลายที่ที่รอเรากลับมาอีก
ธรรมชาติชอบตอบแทนความเหนื่อยหล้าจากการเดินทางเพื่อมาเจอความสุขเสมอคุณว่าไหม ขอบคุณทุกคนที่หมู่บ้านแห่งนี้ ณ หมู่บ้านภูเขาทอง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ