ศรีลังกา สิกิริยา สวรรค์ของคนบาป (ตอนจบ)

ศรีลังกา สิกิริยา สวรรค์ของคนบาป (ตอนจบ)

ศรีลังกา สิกิริยา สวรรค์ของคนบาป (ตอนจบ)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ได้นำเสนอ ศรีลังกา สวรรค์บนพื้นพิภพ (ตอนแรก) ไปแล้ววันนี้ก็ได้เวลานำเสนอตอนจบแล้วครับ

จากเมืองอนุราธปุระ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือ และในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศศรีลังกา ผมได้เดินทางต่อลงมายังภาคกลางของประเทศ โดยเดินทางไปที่เมืองโปโลนนารุวะ เมืองหลวงในอดีตแห่งที่สองของประเทศศรีลังกา ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมากแต่กลับล่มสลายไปจนกลายเป็นเมืองร้างอยู่นับร้อยปี  ภายหลังมีการค้นพบและกลายเป็นเมืองโบราณล้ำค่า  และถือเป็นสถานที่ไฮไลท์ของการเดินทางในทริปนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ เขาสิกิริยา

dsc04861

 รถบัสปรับอากาศเปิดแอร์เย็นฉ่ำ พาคณะเดินทางมายังบริเวณทางขึ้นเขาสิกิริยาในช่วงบ่ายของวัน จากจุดจอดรถนี้ทุกคนจะต้องเดินเท้าสู่ยอดเขา เพื่อไปชมโบราณสถานซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นพระราชวังที่งดงามมาก่อน โดยสถานที่แห่งนี้มีความมหัศจรรย์อยู่ที่การก่อสร้างอยู่บนยอดเขา ราวกับเป็นพระราชวังลอยฟ้าอยู่ในแดนสวรรค์สมัยนั้น

dsc04947

ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า เขาสิกิริยา คือเมืองสวรรค์ของชาวดิน  มีผู้ประมาณการว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว 277 ปี พระเจ้าเทวานัมปินติสสะ  กษัตริย์ของลังกาได้เสร็จมาพบบริเวณนี้ แล้วพระราชทานนามเขาลูกนี้ว่า สีหศิริ ซึ่งแปลว่า ขุนเขาราชสีห์  อยู่ต่อมาประมาณ พ.ศ. 440 – 450 ถึงรัชสมัยของพระเจ้าปุลหัตถะ ได้ทรงสร้างศาลาโรงธรรมและป้อมเชิงเทินไว้ที่แห่งนี้  ต่อมาสมัยพระเจ้าพาหิยะ ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าปุลหัตถะ  ท่านได้ทรงสร้างโรงทานให้แด่พระภิกษุสงฆ์  จนกระทั่งมาถึง พ.ศ. 1020 สมัยของพระเจ้ากัสยปะ ได้ทรงสร้างพระราชวังไว้ด้านบน และพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ ณ พระราชวังแห่งนี้

dsc04954

เกี่ยวกับความเป็นมาการสร้างพระราชวังลอยฟ้า ของพระเจ้ากัสยปะ นี้มีความน่าสนใจอยู่ว่า พระองค์ได้ก่อกรรมหนักหนาโดยการปลงพระชนม์พระราชบิดา เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ จากนั้นพระองค์ได้ทรงสร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นตามคำยุยงของเหล่าพราหมณ์  ที่สรรเสริญยกยอให้พระองค์สถาปนาเป็นท้าวกุเวรราชเทพ หรือผู้มีอำนาจเหนือสิ่งทั้งปวง เพื่อที่จะทำให้เหล่าประชาชนผู้มีความจงรักภักดีกับพระราชบิดา เกิดความเลื่อมใสเชื่อถือในพระองค์ ทั้งยังได้ผลิตเหรียญทองขึ้นใช้มีการกำกับมูลค่า โดยใช้พระนามตราไว้ว่า ท้าวกุเวรราชเทพ จนเป็นที่ยอมรับของพ่อค้าทั่วไป และพระราชวังลอยฟ้าแห่งนี้ พระเจ้ากัสยปะหมดสิ้นงบประมาณไป 70 ล้านเหรียญทอง และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างถึง 7 ปี จึงเสร็จสิ้นสมบูรณ์ดุจเป็นแดนสวรรค์

dsc04957

หากพิจารณากันจากพื้นราบด้านล่างแล้ว ผมยังไม่เห็นความเป็นไปได้ถึงขั้นตอนการก่อสร้างพระราชวังบนยอดเขา  เพราะเขาลูกนี้แทบจะไม่มีทางขึ้นไปได้ ในปัจจุบันผู้ที่จะเดินขึ้นไปชมต้องเดินเท้าไปตามขั้นบันไดที่สร้างไปตามผนังผา บางช่วงเป็นการขึ้นบันไดแบบ 90 องศา สำหรับผู้ที่กลัวความสูงคงมีอาการขาสั่น มัคคุเทศก์ของเราได้บรรยายไว้ว่าบันไดที่ขึ้นสู่พระราชวังที่ตั้งอยู่ด้านบนสุด นับรวมได้ถึง 1,200 ขั้น ในคราวแรกผมเองก็รู้สึกท้อเพราะสภาพอากาศค่อนข้างร้อน  แต่เมื่อตัดสินใจเดินขึ้นไปเพราะคิดว่า ในเมื่อมาถึงแล้วก็อยากจะไปให้เห็นสวรรค์บนดินสักครั้งหนึ่ง เมื่อเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดยิ่งสูงขึ้นก็ยิ่งมีสายลมเย็นพัดมาปะทะร่างกายที่เปียกชุ่มด้วยหยาดเหงื่อ กลับทำให้รู้สึกสดชื้นขึ้นได้อย่างน่าประหลาด ยิ่งสูงขึ้นไปลมก็ยิ่งพัด เม็ดเหงื่อเริ่มหายไปจนในที่สุดก็มีแต่ความสดชื่นท่ามกลางทิวทัศน์เบื้องล่างอันงดงาม

dsc04886

จุดเด่นของเขาสิกิริยานี้อีกจุดหนึ่งคือ ช่วงก่อนถึงลานสิหบาท จะมีกลุ่มภาพเขียน ที่เรียกว่า ภาพเฟรสโก้ (Fresco) เป็นภาพเขียนสีที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี และหลายภาพมีความสมบูรณ์อยู่  ทางด้านวิทยาศาสตร์พิสูตรกันแล้วว่าภาพเขียนเหล่านี้ถูกเขียนขึ้นด้วยสีจากธรรมชาติอาจจะได้มาจากยางไม้ แล้วนำไปผสมกับวัสดุธรรมชาติ วาดลงไปบนพื้นปูนเปียกที่ยังไม่แห้งสนิท จึงทำให้เกิดความคงทน แต่ทั้งนี้จิตกรผู้วาดคงจะต้องมีฝีมือขั้นสูง เพราะเมื่อวาดลงไปแล้วยากจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ภาพเฟรสโก้ชุดนี้ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังประเทศศรีลังกาได้ปีละหลายหมื่นคนทีเดียว

dsc05017

ผม และคนอื่นๆ ในคณะ รวมทั้งชาวศรีลังกาเองด้วย ได้เดินไต่ไปตามบันไดขึ้นสู่ยอดเขาสิกิริยา ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะเดินขึ้นบันไดไปให้ถึง แม้ในบางจุดจะมีความหวาดเสียวหรือน่ากลัวอยู่บ้างก็ตาม ยิ่งขึ้นไปผมก็ทวีความสงสัย ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่า ในสมัยนั้นจะต้องใช้คนงานก่อสร้างพระราชวังสักกี่ชีวิต และการขนอิฐทั้งวัสดุก่อสร้างอื่น จะมีวิธีการใดช่วยให้สะดวก แม้ผู้เป็นพระราชาเองก็ตามจะขึ้นจะลงแต่ละครั้งคงต้องลำบากยากเย็น สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นคำถามคาใจให้ผู้มาเยือนนำกลับไปขบคิดกันให้เป็นปริศนา

dsc04886

ในที่สุดผมก็ได้มาถึงพระราชวังลอยฟ้าของพระเจ้ากัสยปะ บนยอดเขามีสายลมแรง โดยสามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบ 360 องศา ได้โดยรอบ เมื่อมองไปจะเห็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ หากเป็นในช่วงเวลาเย็นคงได้ชมดวงอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม

พระราชวังแห่งนี้ไม่กว้างขวางมากนัก แต่ในสมัยที่รุ่งเรืองอยู่นั้นคงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พระเจ้ากัสยปะทรงใช้เวลาในการรอคอยถึง 7 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์เป็นพระราชวังที่ว่ากันว่างดงามดุจสวงสวรรค์ แต่พระองค์ทรงเสวยสุขอยู่บนวิมานลอยฟ้าของพระองค์ได้เพียง 11 ปี  เจ้าชายโมคคัลลาน์ พระอนุชาต่างมารดา ได้ยกทัพมาจากอินเดียล้อมเขาสิกิริยาไว้ หวังแก้แค้นให้พระราชบิดาและชิงบัลลังก์กลับคืน กาลเวลาไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าไร จนพระเจ้ากัสยปะหมดหนทางต่อสู้ ทั้งยังขาดเสบียงอาหาร จึงตัดสินใจปลงพระชนชีพพระองค์เองด้วยดาบ สิ้นใจอยู่ในพระราชวังลอยฟ้าของพระองค์

img_0282

และนี่ก็เป็นอีกบทสรุปหนึ่งของความจริง ที่ทุกคนไม่สามารถหลีกหนีกฎแห่งกรรมไปได้ แม้จะมีอำนาจมากมายสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่หาได้คำนึงถึงความสูญเสียว่าจะเผาผลาญไปสักกี่ชีวิตจึงจะได้มาซึ่งความสุขส่วนตัว ท้ายสุดแม้กระทั่งรูปปั้นของตนเองก็ยังถูกทำลายป่น ไม่มีใครต้องการเห็นหรือว่าจดจำ

ทุกวันนี้ยังคงเหลือเพียงรากฐานของพระราชวัง และบันไดขั้นที่ 1,200 ให้นักท่องเที่ยวได้ไปยืนภาคภูมิใจในพละกำลังของตนเอง แล้วก็กวาดสายตาไปรอบตัวสูดอากาศสดชื่น พรางส่งยิ้มตอบรับรอยยิ้มบริสุทธิ์ที่เห็นฟันขาวบนใบหน้าสีดำ...ศรีลังกา

         

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ ศรีลังกา สิกิริยา สวรรค์ของคนบาป (ตอนจบ)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook