ขนมญี่ปุ่นที่เหมาะเป็นของฝาก
กำลังตามหาขนมญี่ปุ่นอยู่หรือเปล่า ขนมที่เหมาะเป็นของฝากจากญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น เยลลี่ ไดฟุกุ หรือของเล่นญี่ปุ่นที่กินได้ เราก็มีมาแนะนำให้ชมกัน
ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี
แทบจะไม่มีของฝากจากประเทศไหน ที่ได้รับแล้วจะดีใจไปกว่าของฝากจากญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะเป็นของฝากแนวของใช้ ของกิน เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกมากมาย
จะซื้อของอะไรไปฝากคนที่เรารักนั้น เราก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะว่าแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างกันไป
แน่นอนว่าของฝากจากญี่ปุ่นนั้นมีให้เลือกทั้งแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ชุดยูกาตะ
ชุดกิโมโนแบบแต่งเองได้ง่ายๆ พัดญี่ปุ่น ของเล่นญี่ปุ่น
หรือจะเป็นสไตล์วัยรุ่นขึ้นมาหน่อย เช่น ของฝากประเภทซับคัลเจอร์ อย่างฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบ
ของเล่นแบบแปลกๆ ของใช้ลวดลายคาแรคเตอร์น่ารักๆ เครื่องสำอางแบรนด์ญี่ปุ่น เป็นต้น
วันนี้เราเลยจะพาไปดูกันง่ายๆ ว่าไปญี่ปุ่นซื้ออะไรมาฝากดี
ตัวอย่างไอเดียของฝากจากญี่ปุ่น
หลายต่อหลายคนไปญี่ปุ่นแล้วก็อาจจะยังไม่มีไอเดียว่าจะซื้ออะไรมาเป็นของฝากดี วันนี้เรามีของฝากจากญี่ปุ่นที่รับรองได้ว่าใครได้รับต่างก็ดีใจอย่างแน่นอน เพราะมันคือของฝากประเภทขนมนั่นเอง!!
ก่อนอื่น เราจะสามารถหาซื้อของฝากประเภทขนมได้ที่ไหนบ้าง อันนี้ง่ายมากๆ เพราะว่าที่ญี่ปุ่นตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ จะมีร้านขายของฝากซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นั้นๆ
เพียงแค่ก้าวเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความอลังการดาวล้านดวงของประเภทสินค้าต่างๆ แล้ว
นอกจากนี้ยังมีโซนขายอาหารที่อยู่ตามชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า ที่ชาวญี่ปุ่นเขาเรียกกันว่าเดปะจิกะ (デパ地下) ที่นั่นก็จะมีขนมญี่ปุ่นแท้ๆ ขนมจากต่างประเทศมากมายหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกซื้อกัน
เกริ่นมาพอสมควรไปดูขนมที่วันนี้เราเอามาแนะนำกันดีกว่า ใครใคร่ซื้อเป็นของฝากซื้อ ใครใคร่ซื้อกลับมาทานเองซื้อ กำกระเป๋าตังค์ของท่านเอาไว้ให้แน่น แล้วตามเรามาเลย
ขนมญี่ปุ่นแท้ๆ เช่นไดฟุกุ
ขนมประเภทแรกที่เราขอแนะนำ น่าจะถูกใจบรรดาคนที่ชื่นชอบขนมญี่ปุ่นจ๋าๆ เป็นอย่างมากก็คือไดฟุกุ (大福)
ขนมไดฟุกุ คือ ขนมที่ทำจากแป้งโมจิ สอดไส้ด้วยถั่วแดงบดเป็นหลัก แต่เดี๋ยวนี้เขาก็มีการพัฒนาจับนู่นหยิบนี่มาใส่เพื่อเพิ่มมูลค่าและความอร่อยให้มากยิ่งขึ้น
ขนมไดฟุกุที่วางขายที่ญี่ปุ่นนั้นมีมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นรสชาติออริจินัลอย่างไส้ถั่วแดง (ที่มีทั้งบดและไม่บด) ไดฟุกุรสเค็ม ไดฟุกุสตอเบอรี่ ไดฟุกุบ๊วย ไดฟุกุกาแฟ ส่วนใครชอบแนวฟิวชั่นขึ้นมาหน่อยก็จะมีไดฟุกุมองบลังค์ ไดฟุกุพุดดิ้ง ไดฟุกุช็อกโกแลต ไดฟุกุทิรามิสุ และอื่นๆ ให้ได้ลองกัน
ถึงแม้ว่าวัตถุดิบหลักของไดฟุกุจะเป็นถั่วแดงบด แต่มีหลายที่ที่ใช้เป็นชาเขียว ช็อคโกแลต ครีมสด งาดำ ครีมส้ม รวมไปถึงรสชาติอื่นๆ อีกหลายชนิด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ถูกชะตากับถั่วแดงบดเสียเท่าไหร่ โดยรับรองได้ว่าไม่ว่าคนรับจะเป็นสายญี่ปุ่นจ๋า สายลองของแปลก สายสุขภาพ หรือสายไหนๆ ก็จะมีไดฟุกุรสที่ถูกใจให้ซื้อฝากแน่นอน
เยลลี่ญี่ปุ่น
อย่าเพิ่งหัวเราะกันไปว่าทำไมเราถึงแนะนำเยลลี่ญี่ปุ่นเป็นของฝาก อยากให้ทุกคนลืมภาพจำของเยลลี่ที่เคยทานมาก่อนหน้านี้ เพราะว่าเยลลี่ที่ญี่ปุ่นนั้นจะเน้นใส่น้ำหรือเนื้อผลไม้แท้แบบเน้นๆ ไม่ใช่แค่ปรุงกลิ่นแต่งรสแบบทั่วๆไป แต่เราก็ต้องเลือกยี่ห้อให้ถูกนะ หากเจอของดีๆ ทุกคนจะได้ลิ้มรสเนื้อเยลลี่นุ่มๆ เด้งๆ หอมหวาน กับน้ำผลไม้สดๆ ฉ่ำๆแน่นอน
ยี่ห้อที่คนไทยชอบซื้อกลับบ้านบ่อยๆก็อย่างเช่น โคโรโระ (コロロ) แบบในภาพ ซึ่งมีขายตามร้านค้าทั่วไป ราคาก็ไม่แพง ถุงนึงประมาณร้อยเยนเท่านั้น
แต่ถ้าถามคนญี่ปุ่นถึงยี่ห้อหรูมีระดับ ใครๆต่างก็แนะนำเยลลี่ชื่อดังจากร้านเซมบิกิยะ (千疋屋) ร้านที่คัดสรรผลไม้คุณภาพดีเยี่ยมจากทั่วทั้งญี่ปุ่นมาทำเยลลี่รสเลิศ มีสาขาอยู่ตามห้างดังในโตเกียว แม้ว่าเยลลี่ของที่นี่ราคาอาจจะไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่ แต่รสชาติและความประทับใจนั้นรับประกันได้ว่าดีเยี่ยมแน่นอน บวกกับมีแพคเกจที่หรูหรา เหมาะกับการนำไปเป็นของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักได้เป็นอย่างดี
ผลไม้ญี่ปุ่น
หากได้รู้จักกับคนญี่ปุ่นแล้วจะรู้ว่าคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับฤดูกาล (旬) เป็นอย่างมาก คนญี่ปุ่นจะทานอาหารหรือผลไม้ต่างๆ โดยเปลี่ยนไปตามฤดูกาลนั้นๆ เช่นถ้าพูดถึงฤดูใบไม้ผลิคนญี่ปุ่นก็จะนึกถึงสตอเบอรี่ ฤดูร้อนเป็นเมล่อน พีช ฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นลูกพลับ ลูกแพร์ แอปเปิ้ล ฤดูหนาวเป็นสตรอเบอรี่ กีวี่ ส้ม เป็นต้น
จากด้านบนที่เรากล่าวถึงร้านเซมบิกิยะ (千疋屋) จริงๆ แล้วร้านนี้เขาเริ่มจากการขายผลไม้สดมาตั้งแต่ปี 1834 ก่อนจะเริ่มนำผลไม้่ต่างๆ มาแปรรูปเป็นสินค้าอื่นๆ รวมถึงเปิดร้านอาหาร ร้านเค้กและขนมหวาน ร้านน้ำผลไม้ให้ผู้ที่ชื่นชอบผลไม้มารับประทานผลไม้สดๆ คุณภาพดีส่งตรงจากทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นกันได้ และบางสาขาเป็นรูปแบบบุฟเฟ่ต์ให้ทานกันแบบจุใจกันไปเลย!! ใครติดใจผลไม้สดๆของญี่ปุ่น หากไปที่นี่ก็สามารถซื้อกลับมาเป็นของฝากได้ แต่ต้องระวังเรื่องการแพ็คของนิดนึงนะ
แน่นอนว่าหากสู้ราคาไม่ไหว ไม่ต้องไปที่นี่ก็สามารถหาซื้อผลไม้ได้เช่นกัน หากไปตามซุเปอร์มาเก็ตของญี่ปุ่นที่ไหนก็ได้ที่ใกล้โรงแรม ก็มักจะมีผลไม้สดๆ วางขายอยู่แน่นอนในราคามิตรภาพ เพียงแต่แพคเกจมักจะเป็นแบบกล่องโฟมหรือพลาสติกใสง่ายๆ ไม่สวยงามควรค่าแก่การเป็นของฝากเหมือนซื้อจากร้านที่เราบอกด้านบน แต่ผลไม้ก็คือผลไม้นะ
สำหรับผลไม้ยอดนิยมที่มีความเป็นญี่ปุ่นจ๋าและคนไทยอยากได้ ก็คงหนีไม่พ้นเมล่อน แต่สตรอเบอรี่ องุ่น ลูกพลับ ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ช็อกโกแลตญี่ปุ่น เช่น Royce
คงจะไม่มีใครว่าเราว่าเว่อร์ ถ้าจะบอกว่าตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักช็อกโกแลตแบรนด์หรู สัญชาติญี่ปุ่นสุดอร่อยอย่าง Royce ที่ตอนนี้เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ไม่แพ้ช็อกโกแลตแบรนด์จากประเทศอื่นๆเลย ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและแน่นอนว่าชาวไทยอย่างเราด้วย รวมไปถึงคนญี่ปุ่นเองก็เช่นกันที่ยกให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจ
สินค้าดังๆ ที่คนญี่ปุ่นยกนิ้วให้ก็คือ Royce Au Lait ที่ถือเป็นสินค้าตัวแทนของแบรนด์นี้เลย นอกจากนี้ก็มีรสชาเขียว Matcha และช็อกโกแลตสีขาว White ซึ่งใช้ครีมสดจากฮอกไกโดมาเป็นส่วนผสม
นอกจากช็อกโกแลตยี่ห้อดังทั่วโลกตัวนี้แล้ว ที่ญี่ปุ่นยังมีช็อกโกแลตสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ให้ได้ชิมและซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mary's ที่มีคอลเลคชั่นสุดแสนเก๋อย่าง Fujisan Miniature Crunch Chocolates ซึ่งมีรูปร่างเป็นทรงภูเขาไฟฟูจิตามชื่อที่มาพร้อมขนาดเล็กกว่าของจริงถึง 180,000 เท่า!!
หรือจะเป็น รกกะเตะ (六花亭) แบรนด์เก่าแก่จากฮอกไกโดแหล่งเดียวกันกับ Royce ที่มีแพ็คเกจเป็นลายดอกไม้ต่างๆเป็นเอกลักษณ์ ผู้ใหญ่ใครเห็นเป็นต้องร้องอ๋อ ซึ่งนอกจากจะมีช็อกโกแลตรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีขนมประเภทอื่นอีกด้วย คอนเฟิร์มว่าแบรนด์ญี่ปุ่นอร่อยทุกอย่าง
คิทแคท
"ฝากซื้อคิทแคทชาเขียวหน่อย" ประโยคคุ้นหูที่คุณอาจจะเคยโดนพูดมาแล้ว หรืออาจจะเคยเป็นคนพูดเสียเอง! แต่เราอยากจะบอกว่าคิทแคทที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีแค่รสชาเขียว! คิทแคทที่ญี่ปุ่นมีหลากหลายรสชาติมาก มีทั้งจำหน่ายเฉพาะท้องถิ่น เช่น รสพุดดิ้ง(โกเบ) รสสตอเบอรี่ชีสเค้ก(โยโกฮามะ) รสวาซาบิ(จังหวัดชิซุโอะกะ) รสแอปเปิ้ลชินชู(นางาโนะ) รสชาโฮจิฉะ(เกียวโต) รสมันเทศม่วง(โอกินาวะ) เป็นต้น หรือแม้แต่คิทแคทที่จำหน่ายเฉพาะช่วงเวลาพิเศษๆก็มี เช่นช่วงฮัลโลวีน(รสพุดดิ้งฟักทอง) ช่วงปีใหม่ต้อนรับคอนเสิร์ตขาว-แดง และช่วงหน้าร้อน(รสผลซิตรัส) เป็นต้น และท้ายสุดคือ การจำหน่ายแบบจำกัดวันวางขาย หรือลิมิเต็ดเอดิชั่น (期間限定) ซึ่งสินค้าญี่ปุ่นนั้นชอบมากๆ กับการวางสินค้าขายแบบลิมิเต็ด เช่น รสช็อกโก้บานาน่า รสส้ม รสเหล้าญี่ปุ่น รสคุ้กกี้แอนด์ครีม รสฟรุตพาร์เฟ่ต์ รสลูกอม เหล่านี้จะหาซื้อตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว
ปี 2003 คิทแคทญี่ปุ่นเปิดตัว "KitKat Chocolatory" โดยมีคอนเซปในการนำเสนอถึงการเปลี่ยนแปลงของคิทแคท โดยเป็นร้านช็อคโกแลตกูร์เม่ต์ที่เปิดสาขาอยู่ตามห้างดัง มีคิทแคทรสต่างๆมากมายวางจำหน่ายที่ตามร้านค้าทั่วไปไม่มีขาย โดยมีการเปลี่ยนส่วนผสมไปตามฤดูกาล ราวกับเป็นร้านขนมทำมือ ปัจจุบัน KitKat Chocolatory มีหลายสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ต่างๆ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ขายอาหารและขนมของห้างดัง เช่น ไดมารู เป็นต้น หากใครต้องการซื้อคิทแคทแบบที่หรูสุดๆ และแปลกจริงๆ ลองไปหาดูที่ ร้านเหล่านี้ ได้เลย
อย่าลืมอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความลับของคิทแคทได้ที่นี่ 8 เรื่องเกี่ยวกับคิทแคทที่คุณไม่รู้
ของเล่นญี่ปุ่นกินได้
อีกหนึ่งตัวเลือกที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน!
สำหรับใครที่จะซื้อของไปฝากคนชอบทำอาหาร หรือเด็กๆที่บ้าน เราขอแนะนำ Cooking Toy ซึ่งเป็นของเล่นที่สามารถทำอาหารหรือขนมหวานออกมาทานได้จริงๆ ประเภทอาหารที่สามารถทำได้นั้นมีตั้งแต่ประเภทข้าว ประเภทเส้น ขนมปัง ของหวาน ไอศกรีม เครื่องดื่ม หรือจะเป็นของเล่นสำหรับผู้ใหญ่อย่างเครื่องทำเบียร์ เครื่องทำฟองเบียร์ ทำลาเต้อาร์ต ก็มีเช่นกัน
Cooking Toy เหมาะสำหรับเด็กๆชั้นประถมศึกษาเป็นต้นไป หากยังเป็นเด็กเล็กกว่านั้นจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครองอยู่เสมอ ส่วนใหญ่แล้วสินค้าประเภทนี้หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายของเล่นทั่วไป บางชิ้นที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า ต้องอย่าลืมแนบเครื่องแปลงไฟไปให้ด้วยนะ
ของฝากที่สุดแสนจะน่าสนใจชิ้นนี้ รับรองว่าถูกใจทุกเพศทุกวัย ใครได้รับก็ดีใจอย่างแน่นอน