ชุดภาพถ่ายจากอดีตสู่ปัจจุบัน ณ สถานที่ที่ในหลวง ร.9 เคยประทับ
ในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของปวงชนชาวไทยเช่นนี้ เป็นห้วงเวลาที่ทำให้เราคนไทยทุกคนอดคิดถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่ในหลวงร.9 ทรงมีต่อประชาชนชาวไทยไม่ได้
วันนี้ Sanook! Travel มีชุดภาพถ่ายดีๆ จากคุณ Tan Nidhivir Wongpraywit ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตอยู่ ณ ต่างประเทศ ของในหลวงร.9 ผ่านทางชุดภาพถ่าย "ธ สถิต ในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์"
มานำเสนอให้ปวงชนชาวไทยทุกคนได้รำลึึกถึงในหลวงร.9 พระราชาผู้ทรงเป็นที่รักของเราปวงชนชาวไทยทุกคนกันครับ
เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว ที่เหล่านี้เคยเป็นสถานที่ที่ราชสกุล มหิดล เคยข้องเกี่ยว เคยเป็นที่ประทับ รวมทั้งเคยเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
ผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อความผาสุขของปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 70 ปี การค้นหา การเดินทาง ยังไม่สิ้นสุด เพราะตราบที่ค้นหา ก็ยิ่งพบ ก็ยิ่งมีต่อ เหมือนจิ๊กซอว์ที่ไม่รู้จักจบ เพราะสิ่งที่พระองค์ทำนั้น มากมายเหลือเกิน
และเมื่อยิ่งค้นหา ก็ยิ่งรู้สึกว่า ตัวเองนั้นแสนโชคดี โชคดีที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย โชคดีที่ได้เกิดในพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และเสียสละที่สุดในโลก
ณ จุดตั้งตนของขบวน Ticker tape
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่งผ่านถนนบรอดเวย์ในนครนิวยอร์ค ทรงโบกพระหัตถ์ให้กับชาวนิวยอร์คที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ ในระหว่างทาง
อาคารเลขที่ 44 ถนนแลงดอน เป็นสถานที่ทำงานของฝ่ายการศึกษา หน่วยงานต่างประเทศ และที่อาศัยของข้าราชการไทย ในระหว่างปี ค.ศ.1917 - 1927 (พ.ศ.2460-2470) รวมทั้งใช้เป็นสถานที่ตั้งสมาคมสยาม Siamese Alliance ภายใต้การบริหารของเจ้าฟ้ามหิดล หรือ สมเด็จพระบรมราชชนก และนางสาวสังวาลย์ ตะละกัฏ ซึ่งต่อมาได้รับสถานปนาเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนี เคยทรงพักอยู่ที่นี่เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในปี ค.ศ.1918 เมื่อเพิ่งเดินทางมาถึงบอสตัน
The Harding Cottage 3 page street, Bass Rocks
ฮาร์ดดิ้ง คอทเทจ บ้านเลขที่ 3 ถนนเพจแบสร๊อคนั้นเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของสถานทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี ซี สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ เคยเสด็จที่นี่ในระหว่างการเดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระหว่างฤดูร้อนในปี พ.ศ.2459 โดยพระองค์ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่บ้านหลังนี้ก่อนที่จะเริ่มศึกษาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาว์วาร์ด
บ้านเลขที่ 11 ถนนฮอธอร์น เดิมตั้งอยู่หัวมุมถนนแบรตเทิลและเชิร์ช สมเด็จพระบรมราชชนก ทรงใช้เป็นที่พำนักในช่วงพี่ ค.ศ.1916 ถึง 1918 (พ.ศ.2459 - 2461) ในขณะที่ทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
บ้านเลขที่ 15 ถนนเบิร์คลี่ เคมบริดจ์
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อครั้งยังเป็นนางสาวสังวาลย์ ตะละกัฏ พักอยู่บ้านนี้กับครอบครัว วิลลิสตัน ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ.1919 ถึง เมษายน ค.ศ.1920 เพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาวิชาพยาบาล ที่วิทยาลัยซิมมอนส์ และโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยทุนการศึกษาของสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา นางสาวสังวาลย์ ศึกษาศิลปะ และวิชาอื่น ๆ กับสองสาวพี่น้องตระกูลวิลลิสตัน ชื่อ เอมมิลี่และคอนสแตนซ์ และไปเข้าเรียนโรงเรียนกวดวิชา ของนางสาวอิดิธ จอห์นสันด้วย
741 Main street. West Chop
ฤดูร้อน พ.ศ.2471 สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล พร้อมทั้งพระชายาและพระราชโอรสพระราชธิดา ได้ทรงมาประทับที่บ้านพักตากอากาศ ณ เกาะมาร์ธาส์ วินยาร์ตแห่งนี้ โดยการชักชวนจาก ดร.ฟรานซิส โบวส์ แซร์ และภรรยา ผู้ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาด้านต่างประเทศในกรุงเทพ
ค.ศ. 1926 - 1928 63 ถนนลองวูด บรู๊คลายน์
สถานที่พักของเจ้าฟ้ามหิดล พร้อมพระชายา พระธิดา และ พระราชโอรส
มิถุนายน 2503 เสด็จพระราชดำเนินเยือนอพาร์ตเมนต์ ซึ่งเป็นที่ประทับแห่งแรกของพระองค์
บ้านเลขที่ 49 ถนนซีด้า เบลมอนท์
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ กับครอบครัวเค้นท์ จากเดือน กรกฏาคม ค.ศ. 1919 ถึง กันยายน ค.ศ. 1919 หลังจากที่ทรงหมั้นกับเจ้าฟ้ามหิดล นางสาวสังวาลย์ กำลังเตรียมที่จะเข้าศึกษา วิชาพยาบาลด้วยทุนของ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา
7 กค. พ.ศ. 2470
โรงพยาบาล Mount Auburn หรือ โรงพยาบาลเคมบริดจ์ ณ ขณะนั้น สถานที่พระราชสมภพ
ห้องหน้าต่างสูงชั้นบนด้านซ้ายที่เห็นในตึกนี้เป็นห้องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชสมภพ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่พระราชสมภพในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหม่อมสังวาลย์ ตะละภัฏ และพระโอรสพักที่โรงพยาบาลนี้เป็นเวลา 21 วัน
เมื่อครั้งเสด็จประพาส 7 ก.ค. พ.ศ.2503 ทรงเสด็จมาโรงพยาบาลเมาว์ออเบิน สถานที่ประสูติ โดยมีหมอดับบลิว สจ๊วต วิตต์ ที่ถวายการประสูติและนางพยาบาลผู้ช่วยมารับเสด็จ ประองค์ทรงพระราชทานหีบบุหรี่ถมทองให้ และพระราชทานตลับแป้งถมทองให้นางพยาบาล
21 มิถุนายน 2503
เมื่อครั้งเสด็จไปโรงถ่ายหนังบริษัทพาราเมาวน์ขณะถ่ายหนังเรื่อง G.I.Blue พระเอกคือ เอลวิส เพรสลี่ เป็นการพบกันของราชาแห่งปวงชนชาวไทย และราชาร๊อคแอนด์โรล พระองค์ได้ทอดพระเนตรฉากพระเอกร้องเพลง
มิถุนายน 2503
เสด็จไปทอดพระเนตรการแสดง Have Gun, Will Travel ซึ่งมีดารานำคือ ริชาร์ด บูน รับเสด็จ
ริชาร์ด ถวายปืนให้ทรงโพสถ่ายรูป เฮฮามากในวันนั้น
ทรงพระราชทานให้สื่อสัมภาษณ์ โดยทางโรงถ่ายจัดฉากหัองรับแขกถวายเหมือนในหนัง แต่ของตกแต่งเป็นภาพจริงราคาแพงยืมมาจากพิพิธภัณฑ์
ทางสมาคมภาพยนตร์อเมริกาได้จัดงานเลี้ยงถวาย ทรงลุกขึ้นตรัสในงานว่า "เราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาราน้อยใหญ่ เสียใจที่จะบอกทุกท่านว่าวัยรุ่นไทยชอบดูหนังฮอลิวู๊ดมากกว่าดูหนังสือสอบ" เหล่าผู้กำกับดารายิ้มหัวเราะชอบใจ และทรงตรัสถึงหนัง The King and I ว่าหนังสนุก เพลงเพราะดี แต่คนไทยอาจไม่ชอบ แล้วทรงทิ้งท้ายด้วยคำฮิตที่พระเอกในเรื่องนี้ชอบพูดประจำ คนฟังชอบใจที่ทรงเป็นกันเองมาก
มิถุนายน พ.ศ.2503
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา ทรงเยี่ยมชมสวนสนุก ดิสนีย์แลนด์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีนายวอลท์ ดิสนีย์ เฝ้ารับเสด็จ
เครื่องเล่นในภาพคือ อลิส อิน วันเดอร์แลนด์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ พระเจ้าลูกเธอตามเสด็จอเมริกาและยุโรปด้วยทั้ง 4 พระองค์ โดยพักรออยู่ที่ตำหนักเวลาเสด็จไหนเป็นทางการ
จุดสิ้นสุดของขบวน ticker tape ศาลาเทศบาลเมืองนิวยอร์ค
ชาวนิวยอร์ค จำนวนกว่า 750,000 คน ร่วมกันถวายการต้อนรับตามประเพณี มีการโห่ร้องและขว้างปาสายรุ้งตลอดระยะทางที่เสด็จ ฯ ผ่านถนนสายบรอดเวย์ล่าง มุ่งสู่ศาลาเทศบาลมหานครนิวยอร์ค
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถพระที่นั่งเปิดประทุนผ่านไปท่ามกลางอากาศสดใสเป็นเวลา 20 นาที
5 ก.ค. 2503
ทรงเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ บนอพาร์ทเมนต์ชั้นบนสุดของตึกแห่งนี้ เพื่อทรงดนตรีร่วมกับคณะวงดนตรีดังของอเมริกา เบนนี่ กู๊ดแมน ราชาเพลงสวิงแจ๊สสมัยนั้น
ทรงเป็นพระสหายที่สนิทสนม จนเคยนำคณะมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ในโอกาสนี้นายกู๊ดแมนทูลเกล้าฯ ถวายแซกโซโฟน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นที่ระลึก
ความเชี่ยวชาญในการทรงดนตรีของพระองค์นั้น เป็นที่ประจักษ์กับสายตาคนทั่วไปหลายต่อหลายครั้ง อย่างเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเยือนในปีนั้น ระหว่างงานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำที่วอชิงตันเพลส ทรงได้รับการกราบบังคมทูลเชิญให้ร่วมบรรเลงดนตรีกับวงดนตรีที่จัดแสดงถวายหน้าพระที่นั่ง โดยไม่ได้ทรงเตรียมพระองค์มาก่อน ก็สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานในวันนั้นอย่างยิ่ง
วัดนวมินทรราชูทิศ
วัดไทยในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9 ในต่างแดน สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ