สำรวจแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ๆ ของ UNESCO
ในทุกๆ ปี มีสถานที่ต่างๆ กว่าร้อยกว่าพันแห่งทำการยื่นเรื่องต่อ UNESCO เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ และในปีนี้องค์การ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกเพิ่มอีก 21 แห่ง โดยแบ่งเป็นสถานที่ทางธรรมชาติ 3 แห่ง และสถานที่ทางวัฒนธรรม 18 แห่ง แหล่งมรดกโลกเหล่านี้ตั้งกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นบนเกาะกรีนแลนด์อันหนาวเหน็บ ไปจนถึงทะเลทรายคาลาฮารี รวมถึงเทือกเขาแอนดีส ไปจนถึงปราสาทหินในกัมพูชา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียนสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งใหม่เหล่านี้ Booking.com ผู้นำระดับโลกด้านการเชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักน่าทึ่งมากมายหลากหลายประเภท จึงได้คัดเลือกแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจเหล่านั้นมาบางส่วน และแม้ว่าสถานที่บางแห่งจะตั้งอยู่แสนไกล ทว่าเราก็ยังมีที่พักอันยอดเยี่ยมในบริเวณใกล้เคียงมาแนะนำ
อุทยานแห่งชาติลอสอาแลร์เซส (ประเทศอาร์เจนตินา)
อุทยานแห่งชาติลอสอาแลร์เซส (Los Alerces National Park) ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาแอนดีสในรัฐชูบุต (Chubut Province) ของประเทศอาร์เจนตินา โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ทางธรรมชาติซึ่งเพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ชื่อของอุทยานแห่งนี้มีที่มาจากต้น “อาแลร์เซ” (Alerce) ซึ่งขึ้นอยู่ทั่วไปในบริเวณนี้ นอกจากป่าดงพงไพรอันกว้างใหญ่แล้ว ภูมิประเทศของที่นี่ยังประกอบด้วยทุ่งหญ้าบนภูเขาสูง รวมถึงทะเลสาบและแม่น้ำอันงดงาม นอกจากนี้อุทยานแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่าง ๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างนากอุยยิน (Huillín otter) รวมทั้งกวางเวมุล (Huemul) และกวางปูดู้ (Pudú) ซึ่งพบได้ในแถบปาตาโกเนีย
พักที่ไหนดี: Laguna Larga Lodge ลาโก ฟูตาเลาฟ์เกน (Lago Futalaufquen)
Laguna Larga Lodge ตั้งอยู่บนพื้นที่ 750 ไร่ในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ โดยอยู่ห่างจากทะเลสาบฟูตาเลาฟ์เกน (Futalaufquen Lake) อันสวยงามประมาณ 4.8 กิโลเมตร และห่างจากทะเลสาบลากูนาลาร์กา (Lake Laguna Larga) เพียงไม่กี่ก้าว ที่พักแห่งนี้มีชายหาดและท่าเรือส่วนตัว ตลอดจนห้องพักสไตล์อัลไพน์พร้อมวิวทะเลสาบ คุณสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าสไตล์อเมริกันแบบจัดเต็มได้ทุกวัน อีกทั้งห้องอาหารของที่นี่ยังเสิร์ฟเมนูอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีบริการขี่ม้าท่ามกลางภูมิประเทศอันงดงามและทริปตกปลาอีกด้วย
เขตปราสาทหินสมโบร์ไพรกุก แหล่งโบราณคดีอิศานปุระ (ประเทศกัมพูชา)
อิศานปุระ (Isanapura) คือราชธานีของอาณาจักรเจนละ (Chenla) อันเรืองอำนาจในปลายศตวรรษที่ 6 จนถึงต้นศตวรรษที่ 7 ทุกวันนี้บรรดาซากปราสาทหินและสิ่งปลูกสร้างของนครแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่านเรียงรายให้คุณได้ชมที่แหล่งโบราณคดีสมโบร์ไพรกุก (Sambor Prei Kuk) ในจังหวัดกำปงธม (Kompong Thom) สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นที่นี่ได้วางรากฐานให้กับงานสถาปัตยกรรมและศิลปะเขมรอันมีเอกลักษณ์ของยุคนครวัด จุดเด่นของมรดกโลกแห่งนี้ คือปราสาทหินทรงแปดเหลี่ยมอันมีเอกลักษณ์ รวมถึงระเบียง ทับหลัง และหน้าบันซึ่งประดับตกแต่งอย่างงดงาม
พักที่ไหนดี: Sambor Village Hotel กำปงธม
Sambor Village Hotel ตั้งอยู่ห่างจากย่านใจกลางเมืองกำปงธมประมาณ 600 เมตร และห่างจากปราสาทหินสมโบร์ไพรกุก 40 นาทีหากเดินทางโดยรถยนต์ จากที่พักแห่งนี้คุณสามารถมองเห็นแม่น้ำสตึงแสน (Stung Sen River) อันงดงามได้ ห้องพักของที่นี่มาพร้อมกับเคเบิลทีวี ตู้นิรภัย มินิบาร์ ตลอดจนระเบียงและพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งอันกว้างขวาง ที่พักแห่งนี้มีจักรยานให้ยืมฟรี คุณสามารถปั่นสำรวจและเพลิดเพลินกับบริเวณโดยรอบ ก่อนกลับมาผ่อนคลายในสระว่ายน้ำ ที่มีเครื่องดื่มค็อกเทลแสนสดชื่นให้คุณได้จิบที่บาร์ริมสระอีกด้วย เมนูอาหารท้องถิ่นต่างๆ ณ Sambor Village ยังใช้เฉพาะวัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงเท่านั้น
กู่ล่าง-อวี่ สถานที่ตั้งรกรากของชาวต่างชาติอันเก่าแก่ (ประเทศจีน)
กู่ล่าง-อวี่ (Gulangyu) เป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำจิ่วหลง (Chiu-lung River) นอกชายฝั่งเมืองเซียะเหมิน (Xiamen) ในปีพ.ศ. 2385 เมื่อท่าเรือของเซียะเหมินเปิดให้มีการค้าขายกับต่างประเทศ ชาวต่างชาติก็เริ่มเข้ามาที่กู่ล่าง-อวี่ จนในปีพ.ศ. 2446 ที่นี่ก็ได้กลายเป็นสถานที่ตั้งรกรากของชาวต่างชาติ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมมีให้พบเห็นได้ผ่านสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใครของเกาะแห่งนี้ เช่น สไตล์อามอยเดโค (Amoy Deco Style) กู่ล่าง-อวี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี เกาะแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ขับขี่รถยนต์หรือแม้แต่จักรยาน คุณสามารถเดินทางไปกู่ล่าง-อวี่ได้ด้วยการโดยสารเรือข้ามฟากจากย่านใจกลางเมืองเซียะเหมิน ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีเท่านั้น
พักที่ไหนดี: Flower Yard Inn Xiamen Gulangyu Anhai Garden Branch ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกู่ล่าง-อวี่ ห่างจากท่าเรือข้ามฟากหวนกู่ (Huangu Ferry Marina) ไม่ถึง 1.6 กิโลเมตร ห้องพักทุกห้องมีโทรทัศน์ ห้องน้ำส่วนตัว และ WiFi ฟรี ที่พักแห่งนี้อยู่ห่างจากวัดหนานผู่ถัว (Nanputuo Temple) ไม่กี่กิโลเมตร และมีบริการทัวร์สำหรับจัดทริปให้ผู้เข้าพักหากต้องการอีกด้วย
ตาปูตาปัวเตอา (เฟรนช์โปลินีเซีย)
ตาปูตาปัวเตอา (Taputapuātea) เป็นเขตปกครองแห่งหนึ่งบนเกาะราอีอาเตอา (Ra’iatea) ของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่แห่งนี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางของสามเหลี่ยมโปลินีเซีย (Polynesian Triangle) ประกอบด้วยเขตอาเวรา (Avera) ปัวฮีน (Puohine) และโอโปอา (Opoa) โดยที่โอโปอานั้นคุณจะได้พบกับ “มาไร” (Marae) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และศูนย์กลางของชุมชนซึ่งชาวมาโอฮี (Ma’ohi) ใช้จัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ จัดกิจกรรมทางการเมือง และพิธีศพ ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 1543 และได้รับการบูรณะในปีพ.ศ. 2537 สถานที่แห่งนี้ประกอบด้วยลานหินกว้างซึ่งมองลงไปจะเห็นทะเล แท่งหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน และทิกิ (Tiki) หรือเสารูปคนมากมาย โดยที่นี่ถือเป็นมาไรที่ใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พักที่ไหนดี: Fare Oviri Lodge โอโปอา
Fare Oviri Lodge ตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวซึ่งมีทรายสีขาวสะอาด ให้บริการบังกะโลสไตล์โปลินีเซียนซึ่งมาพร้อมกับเฉลียงส่วนตัว และทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขาและท้องทะเล ที่นี่มีบริการดำน้ำสน็อกเกิลฟรี อุปกรณ์พายเรือแคนู และ WiFi ฟรีในพื้นที่ส่วนกลาง ที่สำคัญคือ Fare Oviri Lodge นั้นตั้งอยู่ห่างจากตาปูตาปัวเตอามาไร (Taputapuātea marae) เพียงประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น
มหาวิหารและอารามอัสสัมชัญแห่งเกาะสวียาชสก์ (ประเทศรัสเซีย)
สวียาชสก์ (Sviyazhsk) เป็นชื่อเกาะและเมืองในสาธารณรัฐตาตาร์สถาน (Republic of Tatarstan) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย เมืองแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าซาร์อีวานผู้เหี้ยมโหด (Ivan the Terrible) ซึ่งใช้ที่นี่เป็นเมืองหน้าด่านในการพิชิตจักรวรรดิข่านคาซาน (Kazan Khanate) เดิมทีนั้นที่นี่ไม่ได้เป็นเกาะ ทว่าหลังจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกุยบูเชฟ (Kuybyshev Reservoir) พื้นที่โดยรอบของเมืองแห่งนี้ก็ถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตามถนนเชื่อมระหว่างสวียาชสก์กับแผ่นดินใหญ่นั้นยังคงมีอยู่ ที่เกาะแห่งนี้คุณจะได้พบกับอารามอัสสัมชัญ (Assumption Monastery) และมหาวิหารอัสสัมชัญ (Assumption Cathedral) ซึ่งต่างมีอายุนับย้อนไปถึงศตวรรษที่ 16 ภาพเขียนสีเฟรสโกดั้งเดิมของที่นี่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และนับเป็นหนึ่งในภาพจิตรกรรมฝาผนังของนิกายอีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ที่หาชมได้ยากอย่างยิ่ง
พักที่ไหนดี: Hotel Complex Dejavu อินโนโปลิส
Innopolis Hotel Complex Dejavu ตั้งอยู่ในอินโนโปลิส (Innopolis) นิคมเทคโนโลยี (Technology park) ซึ่งได้รับการสถาปนาให้มีสถานะเป็นเมืองในปีพ.ศ. 2557 โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสวียาชสก์ และคาซาน (Kazan) เพียง 30 นาทีเมื่อเดินทางโดยรถยนต์ ที่นี่มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งและห้องสปา รวมถึงซาวน่าสไตล์ฟินแลนด์และตุรกี ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มได้ที่บาร์ หรือลองลิ้มรสอาหารได้ที่ห้องอาหารของโรงแรม ในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกีได้ที่เนินสกีใกล้ๆ ส่วนในช่วงหน้าร้อน คุณก็ยังสามารถเล่นกอล์ฟที่สนามซึ่งอยู่ห่างจากที่พักเพียง500 เมตรเท่านั้น
ภูมิทัศน์วัฒนธรรมโคมานี (ประเทศแอฟริกาใต้)
ภูมิทัศน์วัฒนธรรมโคมานี (ǂKhomani Cultural Landscape) ตั้งอยู่ในทะเลทรายคาลาฮารี (Kalahari Desert) ในประเทศแอฟริกาใต้ บริเวณที่ติดกับชายแดนประเทศนามิเบียและบอตสวานา ชนเผ่าเร่ร่อนโคมานีซาน (ǂKhomani San) ถือเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนแอฟริกาใต้ ชนเผ่านี้เรียนรู้วิธีการปรับตัวให้เข้ากับทะเลทรายอันแห้งแล้ง รวมถึงสภาพภูมิประเทศอื่นๆ ในบริเวณที่อาศัยอยู่ หากคุณต้องการสัมผัสภูมิทัศน์วัฒนธรรมโคมานีแล้วหละก็ ต้องห้ามพลาดในการแวะเวียนไปที่อุทยานแห่งชาติคาลาฮารีเจมส์บอก (Kalahari Gemsbok National Park)
พักที่ไหนดี: Xaus Lodge เขตอนุรักษ์คาลาฮาดีทรานส์ฟรอนเทียร์พาร์ค (Kgalagadi Transfrontier Park)
Xaus Lodge ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคาลาฮารีเจมส์บอก (Kalahari Gemsbok National Park) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์คาลาฮาดีทรานส์ฟรอนเทียร์พาร์ค (Kgalagadi Transfrontier Park) ที่พักแห่งนี้เป็นของชุมชนชนพื้นเมืองแอฟริกาใต้ และบ้านพักของที่นี่ก็ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมของชนพื้นเมือง แต่เพิ่มห้องน้ำส่วนตัวเข้ามา นอกจากนี้ที่พักแห่งนี้ยังมีสระว่ายน้ำ รวมถึงห้องอาหารที่ซึ่งคุณจะสนุกไปกับการมองดูสัตว์ชนิดต่างๆ ที่อยู่บริเวณแอ่งน้ำได้อย่างใกล้ชิด ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถร่วมกิจกรรมเดินป่าพร้อมไกด์นำทาง ตลอดจนแวะไปเยี่ยมเยือนชนเผ่าซาน (San) ที่หมู่บ้านได้อีกด้วย