อยู่อย่างวิถีจันท์ ท่ามกลางสายน้ำ และบรรยากาศของวัน ที่ ‘บ้านหลวงราชไมตรี’

สายน้ำจะไหลย้อนกลับ พาเราไปเจอความทรงจำที่แสนประทับใจ ณ ที่แห่งนี้ บ้านหลวงราชไมตรี

WHERE THE RIVER WILL RETURN
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันและเพื่อนออกเดินทางมายังเมืองจันท์ เพื่อร่วมกันพิสูจน์ว่าการเข้าพัก ณ บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี ในละแวกย่านชุมชนริมน้ำจันทบูรนั้น จะเปรียบดั่งสายธารแห่งกาลเวลาที่นำพาพวกเรากลับไปพบเจอกับความทรงจำแสนประทับใจในอดีตอีกครั้ง…ได้จริงหรือไม่?

เพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ตอนนี้เรามาอยู่กันที่ ถนนสุขาภิบาล ถนนสายแรกของจังหวัดจันทบุรี ริมฝั่งแม่น้ำจันทบูร ซึ่งแน่นอนว่าในยามที่รถแล่นผ่าน เราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจหลายต่อหลายหลัง เรื่อยมา…จนกระทั่งถึงบ้านหลวงราชไมตรี ภาพของอาคารสูง 2 ชั้น อายุราว 150 ปี ที่อยู่เบื้องหน้า ทำเอาเราถึงกับร้องว้าว! เลยทีเดียว

ตกตะลึงอยู่ไม่ทันไร คุณหมู-ปัทมา ปรางค์พันธ์ ผู้ดูแลบ้านพัก ก็ออกมาให้การต้อนรับตามขนบธรรมเนียมแบบไทย ๆ ด้วยการเชื้อเชิญให้ผู้มาใหม่ถอดรองเท้าวางบนชั้น ก่อนจะเดินนำเราเข้าไปรับเครื่องดื่มเย็น ๆ ข้างในและพาชมบ้านสุดคลาสสิกหลังนี้ไปพร้อม ๆ กันอย่างเป็นกันเอง

THE HISTORIC INN
คุณหมูเล่าเท้าความถึงประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้ให้ฟังว่า “แต่เดิมบ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านพักของหลวงราชไมตรี ซึ่งต่อมาได้ถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ให้เป็นบ้านพักสไตล์บูติกโฮเทล เพื่อเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของหลวงราชไมตรี ปูชนียบุคคลของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีการเก็บรวบรวมเรื่องราวและสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เกี่ยวกับท่านไว้เป็นอย่างดี”

INFO: หลวงราชไมตรี มีนามเดิมว่า ปูม ปุณศรี เป็นบุตรคนที่ 2 ของหลวงประมวญราชทรัพย์ (จีนจำปา) เป็นผู้นำยางพาราเข้ามาปลูกในจันทบุรีเป็นคนแรกและดำเนินการค้าจนส่งผลทางเศรษฐกิจให้จันทบุรีมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับสมญานามว่าเป็น บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก ด้วยความขยันหมั่นเพียรบวกกับคุณงามความดีที่ท่านทำประโยชน์ไว้ให้กับแผ่นดิน ทำให้ท่านได้รับโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ให้เป็นหลวงราชไมตรี

บริเวณโถงด้านล่าง นอกจากจะใช้เป็นมุมต้อนรับแขกแล้ว ยังถูกจัดไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม จัดแสดงหลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดค้นพบบริเวณใต้ถุนบ้านเมื่อครั้งที่มีการปรับปรุงบ้านครั้งใหญ่ ทั้งถ้วยชามและข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ รวมถึงสิ่งของที่พบเจอภายในบ้าน อาทิ ภาพถ่ายของชุมชนริมน้ำในสมัยก่อน เอกสารราชการสำคัญ ๆ หนังสือแบบเรียนภาษาต่าง ๆ หีบ ตู้ เตียง เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ส่วนตัวของท่านหลวง ก็ถูกนำมาจัดแสดงให้ความรู้แก่ผู้เข้าพักด้วยเช่นกัน นับเป็นบ้านพักพิพิธภัณฑ์ขนานแท้ เพราะไม่ว่าจะเดินชมมุมไหนของบ้านก็ล้วนแล้วแต่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้ศึกษาด้วยกันทั้งสิ้น

12 ห้องพัก 12 เรื่องราว
หลังจากทราบถึงความเป็นมาของบ้านแบบพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พัก เพื่อที่หลังจากนี้เราจะได้มีเวลาเดินสำรวจรอบ ๆ บ้านกันต่อ ให้สมกับที่พวกเรารอคอยการได้มาสัมผัสบรรยากาศการเข้าพักแบบวิถีจันท์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในอดีตอีกครั้ง

สำหรับห้องพักของบ้านหลวงราชไมตรีนั้น มีทั้งหมด 12 ห้อง ซึ่งทุกห้องจะเชื่อมโยงกับประวัติและเรื่องราวการดำเนินชีวิตของท่านหลวงราชไมตรี จากเดิมที่มีลักษณะเป็นห้องโถงโล่งเชื่อมต่อกันทั้งหมด ก็ถูกกั้นเป็นห้อง ๆ มีธีมการนำเสนอและการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป

เริ่มต้นกันที่ ห้องนายพ่อนายแม่ ห้องพักขนาดใหญ่ เห็นทิวทัศน์แม่น้ำจันทบูร ซึ่งเป็นห้องเดียวที่ตั้งอยู่ ณ ตำแหน่งเดิม คาดเดากันว่าน่าจะเป็นห้องพักของท่านหลวงราชไมตรี และท่านฟอม ปุณศรี ผู้เป็นภรรยา การตกแต่งจึงเป็นไปอย่างหรูหรา เพื่อแสดงความยกย่องท่านทั้งสองให้สมกับฐานะนาย ผู้เปรียบเสมือนพ่อและแม่ ผู้เป็นที่รักของทุกคน ต่อด้วย ห้องครัวนายแม่ ห้องที่เต็มไปด้วยเรื่องราวการทำอาหารในยุคก่อน บอกเล่าถึงอดีตเมื่อครั้งที่ภรรยาท่านหลวงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนี้ เพื่อเตรียมอาหารให้กับคนในบ้านได้รับประทาน รวมถึง ห้องพลอย ที่บอกเล่าเรื่องราวของอัญมณีประจำจังหวัด อย่างทับทิมและมรกต อันเป็นสินค้าเศรษฐกิจที่ทำให้จันทบุรีมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ

และสำหรับใครที่อยากนอนเตียงสองชั้น ต้องที่ ห้องนักเรียนชาย กับ ห้องนักเรียนหญิง ซึ่งเป็นห้องพักที่ทำให้ผู้เข้าพักได้รับรู้ถึงความเมตตาของท่านหลวง ผ่านการส่งเสริมการศึกษาให้กับลูก ๆ หลาน ๆ จนกระทั่งเด็ก ๆ เหล่านี้เรียนจบ ได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ต่อกันด้วย ห้องท่าหมอทอด ซึ่งชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก เพราะเป็นห้องพักที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินเรือค้าขายในอดีต สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันของท่านหลวงกับวิถีการค้าริมน้ำ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าสายน้ำจันทบูรได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง รวมถึง ห้องอีสเอเชียทีค ซึ่งกล่าวถึงเรื่องราวของบริษัทอีสเอเชียทีค บริษัทคู่ค้าสำคัญที่ทำให้ยางพาราและสินค้าเมืองจันท์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ห้องลูกยาง และ ห้องต้นยาง เป็นอีกหนึ่งห้องที่จะทำให้ทุกคนได้ระลึกถึงความสำคัญของหลวงราชไมตรี ในฐานะผู้ริเริ่มทำการปลูกยางพาราจนแพร่หลายเป็นวงกว้างทั่วทั้งภาคตะวันออก เช่นเดียวกันกับ ห้องวิถีจันท์ วิถีธรรม ห้องพักที่หันหน้าออกชุมชน ทำให้ผู้เข้าพักมองเห็นวัดโบสถ์ วัดสำคัญที่ผูกพันเป็นพิเศษกับชุมชนแห่งนี้ รวมถึงได้มองเห็นวิถีชีวิตของผู้คนละแวกนี้ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้คำสอนของท่านหลวง แต่ถ้าใครสนใจศิลปะ แนะนำให้เลือก ห้องบ้านราชไมตรี เพราะเป็นห้องพักที่แสดงรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์บริติชโคโลเนียลของบ้านหลังนี้ อันเป็นต้นแบบสำคัญที่สร้างกลิ่นอายความเป็นอัตลักษณ์ให้กับชุมชนริมน้ำจันทบูร ก่อนจะมาปิดท้ายกันที่ ห้องของป่าสมุนไพร ซึ่งรวบรวมของป่าและสมุนไพร อันเป็นสินค้าที่ท่านหลวงทำการติดต่อซื้อขายกับคนท้องถิ่นในเขตป่าตะวันออก เพื่อทำการส่งออกไปยังต่างประเทศ

การเดินสำรวจห้องพักทั้ง 12 ห้องครั้งนี้ ทำเอาพวกเราทุกคนต่างอิ่มเอมใจไปกับความงดงามที่ซ่อนอยู่ในแต่ละห้องเป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะแต่เรื่องของสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในเพียงเท่านั้น แต่การเชื่อมต่อเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ของท่านหลวง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของจังหวัดจันทบุรี ที่นำเสนอผ่านห้องพักยังมีส่วนช่วยเสริมให้บ้านหลวงราชไมตรีแห่งนี้เป็นบ้านพักกึ่งพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่ไม่ว่าใครได้พักอาศัยจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม

LIVE THE LOCAL LIFE
มาถึงตอนนี้ การพักแรมที่บ้านหลวงราชไมตรีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราได้รับความรู้สึกที่ต่างไปจากที่อื่น ๆ เพราะนอกจากจะทำให้ได้หวนคืนสู่อดีตแล้ว ยังทำให้มีโอกาสได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับคนท้องถิ่นและเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าบ้านพักแห่งนี้ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องของธุรกิจเป็นหลัก แต่เน้นสร้างวิสัยทัศน์ วัฒนธรรมนำการค้า และการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม อันจะนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

“สายน้ำจะไหลย้อนกลับ ที่บ้านหลวงราชไมตรีแห่งนี้”
คำกล่าวนี้ดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง ซึ่งก็ชัดเจนแล้วว่า บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรีหลังนี้ คือสถานที่หลอมรวมอดีต เรื่องเล่า ประสบการณ์ ความรัก และความผูกพันของชาวจันทบุรีในทุกยุคทุกสมัย อันถือเป็นความภาคภูมิใจของคนจันท์ทุกคน ที่มีโอกาสได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์บ้านหลังนี้เอาไว้ให้คงอยู่เคียงคู่วิถีชีวิตดั้งเดิมตราบนานเท่านาน

CONTACT
252 ถ.สุขาภิบาล ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000
0 3932 2037, 08 8843 4516