เปิดแล้ววันนี้ไร่ Jim Thompson หนึ่งปีเปิดแค่เพียงเดือนเดียวเท่านั้น!!!

เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้ กับสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนเฝ้ารอคอยมาตลอดทั้งปีกับไร่ Jim Thompson ไร่ดอกไม้และผลผลิตทางการเกษตรอันงดงามของเมืองโคราช

โดยในทุกปีจะมีการจัดตกแต่งพื้นที่ภายในไร่ด้วยงานศิลปะ ที่ตั้งอยู่ในพื้นฐานของการเกษตร โดยจะมีธีมแตกต่างกันไปในแต่ละปี

สำหรับปีนี้ไร่ Jim Thompson เปิดตัวมาด้วยธีม เต๋อเตินเวินวัง พลังแห่งน้ำ ที่แสดงให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความสำคัญของน้ำผ่านทางการจัดสวนดอกไม้ที่ผสมผสานกับงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง

และมีการถ่ายทอดเรื่องราวของยักษ์สะลึคึ และพรานจึ่งขึ่งกังแดง ผู้เป็นตำนานแห่งการกำเนิดแม่น้ำโขง และแก่งขุดคู้ ผ่านทางงานศิลปะภายในฟาร์มอีกด้วย

โดยตั้งแต่ที่เข้าประตูฟาร์มไปทุกคนก็จะได้พบกับซุ้มทางเข้าไม้ไผ่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำโขง แม่น้ำที่เป็นหัวใจหลักของชาวอีสาน

หลังจากนั้นจะมีจุดท่องเที่ยวมากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นหรือใช้บริการรถนำเที่ยวของทางไร่เพื่อไปยังจุดหมายต่างๆ อากาศกำลังเย็นสบายไม่ร้อนจนเกินไปเที่ยวได้อย่างชิลๆ

จุดไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้สำหรับการมาไร่ Jim Thompson นั้นได้แก่ ลานจึ่งขึ่งดังแดงและยักษ์สะลึคึ ที่จะมีงานศิลปะถ่ายทอดเรื่องราวของทั้งสองตำนานนี้ไว้อย่างสวยงาม

ถัดต่อไปคือลานฟักทองยักษ์และทุ่งดอกไม้ 5 สี สำหรับจุดนี้ถือว่าห้ามพลาดหากใครที่อยากจะได้ภาพถ่ายสวยๆ กับสวนดอกไม้ 5 สีที่ออกดอกผลิบานสวยงามมากในช่วงนี้

นอกจากนี้ยังมีลานฟักทองยักษ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการปลูกฟักทองได้อย่างสวยงามของไร่ Jim Thompson ที่นำฟักทองผลผลิตทางการเกษตรนำมาจัดแต่งได้อย่างลงตัวเป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ห้ามพลาด

หลังจากเดินถ่ายภาพกับทั้งลานฟักทองและสวนดอกไม้ 5 สีกันจนพอใจแล้วจุดต่อไปที่แฟนละครนาคีต้องมาเยือนนั่นก็คือ เรือนคำแก้ว นางเอกจากละครเรื่องนาคีนั่นเอง

โดยเรือนไม้โบราณศิลปะภาคอีสานหลังนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำจริงๆ ในละครเรื่องนาคี คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เหล่านักแสดงเคยมาใช้สถานที่จริงๆ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวทุ่งดอกไม้ 5 สีได้แบบพาโนราม่าอีกด้วย

ผ่านจากเรือนคำแก้วไปอีกจุดหนึ่งที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอีสานได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ หมู่บ้านอีสาน ที่ในปีนี้มีการจัดแสดงผลงานศิลปะ "ปราสาทน้ำ" กลางทุ่งข้าวเขียวขจี

มองดูแปลกตาและงดงามอลังการมาก เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่ต้องมาให้ได้ นอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะลวงปลา โดยอินทนงค์ ชิณวงศ์ และบั้งไฟพญานาค โดย อ.ดนุพล เอนอ่อน ให้ชมกันอีกด้วย

ถือได้ว่าเป็นผลงานศิลปะที่ประดิษฐ์ประดอยขึ้นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านและใช้วัสดุพื้นบ้านในการทำงานศิลปะขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ สวยงามแค่ไหนต้องมาลองชม

หลังจากพักผ่อนเดินเล่นในหมู่บ้านอีสานกันแล้ว หากใครอยากจะนั่งเรือพายแบบชิลๆ เหนือผืนน้ำที่มีฉากหลังเป็นภูเขาพญาปราบที่นี่ก็มีให้บริการ

อีกทั้งมีการแสดงโชว์หมอลำ ศิลปะพื้นบ้านของภาคอีสานที่มาสร้างความสนุกสนานให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนอยู่ตรงบริเวณท่าน้ำด้วย ใครสนใจสามารถไปร่วมสนุกกันหน้าเวทีได้ตลอดทั้งวัน

และสถานีสุดท้ายก่อนที่จะหมดวันนี้ ก็คือจุดที่ทุกคนรอคอยจะได้มาเห็นและถือเป็นไฮไลท์ประจำปีที่ทุกคนรอคอยนั่นก็คือ ทุ่งดอกคอสมอสบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ 

ซึ่งในช่วงที่เปิดให้นักท่องที่ยวเข้าเยี่ยมชมนี้เองคือช่วงที่ดอกคอสมอสเบ่งบานมากที่สุด สวยงามตระการตามาก ฉากหลังคือวิวภูเขา และดอกคอสมอสสีขาว ชมพู ม่วง บานสะพรั่งพร้อมกัน

ราวกับว่าที่นี่คือสวิตเซอร์แลนด์จริงๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะพบแต่ดอกคอสมอสเต็มไปหมด ใครที่ชื่นชอบดอกไม้และอยากเห็นทุ่งดอกคอสมอสแบบเยอะๆ จัดเต็มสักครั้ง ที่นี่คือสวรรค์สำหรับคุณ

และก่อนกลับหากใครอยากซื้อสินค้าทางการเกษตรของที่นี่ก็มีจุดบริการขายสินค้าเกษตรให้แก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง และผักสดต่างๆ หรือจะเป็นผลผลิตแปรรูปก็มีให้เลือกซื้อหากันมากมาย

การมาที่นี่เพียงหนึ่งวันสิ่งที่ทุกคนจะได้รับกับไปจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ ความทรงจำดีๆ รูปถ่ายสวยๆ และความรู้ทางด้านวัฒนธรรมประเพณี

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเพราะปีหนึ่งจะเปิดเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หากพลาดโอกาสนี้ไปจะต้องรอชมความสวยงามแบบนี้ไปถึงปีหน้าเลยทีเดียว

แถมที่นี่ยังอยู่ใกล้กรุงเทพฯ สามารถขับรถไปกลับเป็นวันเดย์ทริปได้ด้วย เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาพักผ่อนหลังจากวันทำงานหนักๆ มาตลอดทั้งอาทิตย์

ลองให้เหล่าดอกไม้และธรรมชาติเยียวยารักษาคุณจากความเหนื่อยล้าดู มาสูดโอโซนให้เต็มปอดและกลับไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมกันเถอะครับ

วันเวลาเปิดให้บริการ : ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2560 - 7 มกราคม 2561 ตั้งแต่เวลา : 9.00 - 17.00 น. เปิดให้เข้าชมทุกวัน

สถานที่ตั้ง : ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา