10 ร้าน Street Food เมืองไทยที่ติดอันดับใน Michelin Guide Bangkok

07 ธ.ค. 60 (16:43 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

กลายเป็นกระแสที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางสำหรับข่าวการเปิดตัวหนังสือ Michelin Guide Bangkok ฉบับปฐมฤกษ์ ซึ่งก็คงทราบกันไปแล้วว่า มีร้านอาหารในเมืองไทยจำนวน 17 ร้านที่ได้รับรางวัลมิชลิน สตาร์ โดยแบ่งออกเป็นระดับ 2 ดาว จำนวน 3 ร้าน และ 1 ดาว อีก 14 ร้าน นอกจากนั้นก็ยังมีร้านอาหารที่ได้รับรางวัล Bib Gourmand หรือร้านที่มีรสชาติอาหารอันยอดเยี่ยม และราคาคุ้มค่า รวมถึงร้านที่มีการแนะนำโดยทั่วไป สิริรวมแล้วทั้งสิ้น 98 ร้าน

ที่น่าสนใจสุดๆ คงหนีไม่พ้น “เจ๊ไฝ” ร้านสตรีทฟู้ดเพียงร้านเดียวที่ได้รับมิชลิน สตาร์ ระดับ 1 ดาว ทว่าก็ยังมีร้านสตรีทฟู้ดอีก 27 ร้านที่ติดอยู่ในลิสต์ของหนังสือเล่มดังกล่าว วันนี้ Sanook! Travel ขอหยิบยก 10 ร้านสตรีทฟู้ดเด็ดๆ ที่หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วมาแนะนำกันอีกครั้ง

1 เจ๊ไฝ

หรือชื่อเต็มว่า “เจ๊ไฝ ประตูผี” โด่งดังในเรื่องของราคาที่อาจไม่ย่อมเยานัก แต่แลกมาด้วยวัตถุดิบอาหารทะเลที่สดใหม่ รสชาติเข้าขั้นยอดเยี่ยม คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไป เสน่ห์ในการประกอบอาหารด้วยเตาถ่าน ซึ่งเป็นสูตรโบราณที่สืบต่อมานานกว่า 70 ปี เมนูเลื่องชื่อคงหนีไม่พ้น “ราดหน้าทะเล” ราคาจานละ 800 บาท ที่ประกอบไปด้วยกุ้งลายเสือ เนื้อปู ปลาหมึก ผักคะน้า หรือ “ไข่เจียวปู” สนนราคาอยู่ที่ 400 บาท แต่เนื้อปูหวานอย่าบอกใคร

พิกัด: 327 ถ.มหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิดบริการ: จันทร์-เสาร์ 17.00-02.00 น. (วันอาทิตย์ หยุด)

2 เอลวิสสุกี้ ยศเส

เป็นอีกร้านที่สืบทอดความอร่อยมานานกว่า 40 ปี กับเมนูเด็ด สุกี้สูตรโบราณที่จะรับประทานแบบน้ำหรือแห้งก็อร่อยไม่แพ้กัน มีให้สั่งทั้งหมู ไก่ ทะเล และรวมมิตร แต่ไฮไลต์คงต้องยกให้น้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้านที่ผสมเต้าหู้ยี้ พริก กระเทียมดอง และถั่วลิสงบดเข้าด้วยกัน ติดอกติดใจกันถ้วนหน้า

พิกัด: 200/37 ซ.ยศเส ถ.พลับพลาไชย แขวงเทพสิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 17.00-23.00 น.

3 โกอ่าง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ

หลายคนอาจมองว่า “ข้าวมันไก่” ก็เป็นเมนูอาหารที่หารับประทานได้ทุกตรอกซอกมุม แต่บอกเลยว่าหากได้ลองลิ้มชิมรสไก่นุ่มๆ แน่นๆ ข้าวมันหอมกรุ่นเรียงตัวเป็นเม็ดจากร้านโกอ่างแล้วล่ะก็ คงหาเวลาไปซ้ำแบบไม่ต้องรอนาน ร้านนี้การันตีความอร่อยมายาวนานกว่า 40 ปี กับการคัดสรรไก่ที่มีมาตรฐาน รวมถึงยังมีเมนูที่สั่งมากินคู่กับเมนูหลักได้เข้ากันดีแท้อย่าง เป็ดตุ๋นเห็ดหอม มะระตุ๋นซี่โครงหมู เป็นต้น

พิกัด: 960-962 ซ.เพชรบุรี 30 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 06.00-14.00 น. และ 17.00-02.00 น.

5 เย็นตาโฟคอนแวนต์

อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ที่ครองใจสายกินมายาวนานหลายทศวรรษ ทีเด็ดนั้นอยู่ที่ซอสเย็นตาโฟสูตรของทางร้านที่นำเอามันเทศมาต้มบด ผสมกับมะเขือเทศต้มบดละเอียด แล้วค่อยปรุงรสตามสูตรที่เจ้าของร้านมิอาจบอกกล่าวได้ เครื่องก็แน่นเอี้ยดอร่อยเต็มคำทั้ง ลูกชิ้นปลา, ลูกชิ้นกุ้ง, แมงกะพรุน, ฮือก้วย, ลูกชิ้นรักบี้, หมึกกรอบ, เต้าหู้, เลือด และเกี๊ยวกรอบ รวมถึงใช้กระดูกหมูต้มเคี่ยวนานถึง 2 ชั่วโมงเพื่อให้ได้น้ำซุปรสชาติเยี่ยม

พิกัด: 36/3 ถ.คอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เวลาเปิดบริการ: จันทร์-ศุกร์ 07.00-17.00 น., เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 07.00-15.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือน)

5 วัฒนาพานิช เอกมัย

หากพูดถึงก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ชื่อแรกๆ ที่จะหลุดออกมาจากปากคงหนีไม่พ้นร้าน “วัฒนาพานิช” ที่ไม่สั่งไม่ได้เลยก็คงจะเป็น “เกาเหลาเนื้อ” ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินไปสองวันสามคืน เนื้อสดหมักมาเป็นอย่างดี ลูกชิ้นเอ็นเคี้ยวกรุบกรอบ ใครสั่งเกาเหลาก็ซดน้ำข้นคลั่กอร่อยได้ใจ ส่วนใครสั่งก๋วยเตี๋ยวความเข้มเข้นก็จะลดลงมาหน่อย แต่อร่อยไม่แพ้กัน

พิกัด: 336 เอกมัยซอย 18 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 10.00-20.30 น.

6 คั่วไก่สวนมะลิ สี่แยกโรงพยาบาลกลาง

การที่ลิ้นของเราได้สัมผัสกับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผัดให้ติดกันเป็นแพ ด้านบนกรอบเกรียมพอประมาณ ด้านล่างเส้นเหนียวนุ่ม ค่อยๆ เคี้ยวลิ้มรสชาติอันหอมกรุ่นไปทีละเล็กละน้อยคงเป็นอะไรที่เกินบรรยาย ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ สาขาสี่แยกโรงพยาบาลกลาง ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แถมไก่ที่หมักมาเป็นอย่างดียังนุ่มลิ้นเกินห้ามใจ ใครแวะไปย่านนั้นลองชิมกันได้

พิกัด: 26/1 ซ.เทวีวรญาติ ถ.หลวง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 17.00-22.00 น.

7 ลิ้มเหล่าโหงว เยาวราช

คอก๋วยเตี๋ยวห้ามพลาดร้านนี้โดยเด็ดขาด เพราะเมนูก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่นี่มีเสียงร่ำลือว่า ลูกชิ้นปลามีความเหนียวนุ่มเด้งในปาก เข้ากันดีกับเส้นบะหมี่แบนที่ทางร้านทำเอง ไม่เจือสีและไร้วัตถุกันเสีย สำหรับคนที่ชอบทานแบบแห้งแนะนำให้ใส่จิ๊กโฉ่วซอสเปรี้ยวลงไปเป็นสูตรเฉพาะ พร้อมซดน้ำซุปร้อนๆ ที่ทำจากกระดูกปลา หรือจะลองชิมก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง กระเพาะปลาน้ำแดง ก็เด็ดไม่แพ้กัน

พิกัด: 1095 ถ.มิตรพันธ์ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 18.30-23.00 น.

8 โจ๊กปรินซ์

ผ่านไปย่านบางรักก็ต้องไม่พลาดที่จะแวะชิมโจ๊กหมูสูตรกวางตุ้งแสนร่อยที่ร้าน “โจ๊กปรินซ์” ที่เปิดกิจการมากว่า 60 ปี เนื้อข้าวละเอียดเนียนที่ทำจากปลายข้าวหอมมะลิ ต้มกับน้ำซุป บวกกับหมูสับชิ้นโตและเครื่องในอร่อยเต็มคำ มีหอมกลิ่นไหม้เล็กๆ เป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน เคล็ดลับความอร่อยคือการนำโจ๊กมาต้มแบบหม้อต่อหม้อให้เดือด แล้วค่อยบรรจงใส่หมูสับสดลงไปเคี่ยวจนสุกด้วยไฟแรง จะใส่ไข่หรือไข่เยี่ยวม้าก็ตามแต่ใจชอบกันได้เลย

พิกัด: 1391 ถ.เจริญกรุง (หน้าโรงภาพยนตร์ปรินซ์ เยื้องห้างโรบินสัน) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 06.00-12.00 น. และ 17.00-21.00 น.

9 เจ๊กี โปโล

แซ่บเกินใครต้องร้านนี้ ที่พลาดไม่ได้ก็คือ ไก่ทอด เสิร์ฟพร้อมกระเทียมเจียวที่โรยไว้ด้านบน หนังกรอบ เนื้อนุ่ม อันเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้ จะจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วหรือน้ำจิ้มไก่ทอดแล้วแต่ใจชอบเลย ส่วนส้มตำก็มีให้เลือกหลากหลาย ลาบ น้ำตก ปลาเผา คอหมูย่าง ต้มแซ่บ มีพร้อม อ่านแค่นี้ก็มีน้ำลายสอกันแล้วล่ะ

พิกัด: ซอยสนามคลี (ซอยโปโล) แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 07.00-21.00 น.

10 ตั้งซุ่ยเฮงโภชนา

เจ้าแห่งเป็ดพะโล้และห่านพะโล้แห่งย่านสะพานเหลืองที่สืบทอดกิจการมากว่า 50 ปี ที่ควรลองอย่างยิ่งคือ บะหมี่เป็ด ที่เสิร์ฟพร้อมหม้อดินซึ่งข้างในมีปีกกับตีนนุ่มลิ้น น้ำซุปหอมจนต้องซดให้หมดไม่เหลือ ส่วนไฮไลต์อย่าง เป็ด ก็ทั้งนุ่ม ทั้งเนื้อแน่น หั่นบางๆ พอดีคำ อีกเมนูที่อยากให้ชิมสักครั้งคือ เป็ดอบหม้อดิน จิ้มน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านสักหน่อย รับรองว่าติดใจแน่นอน

พิกัด: 528/45 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เวลาเปิดบริการ: ทุกวัน 16.00-22.30 น.

และก็ไม่ได้มีเพียง 10 ร้านที่ Sanook! Travel แนะนำไปเท่านั้น ตรวจสอบรายชื่อร้านสตรีทฟู้ดอื่นๆ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ Michelin Guide Bangkok ประจำปี 2018 จากด้านล่างนี้ได้เลย