5 ที่เที่ยว หนีร้อนไปพึ่งเย็นที่ "ดาลัด" เวียดนาม
ถ้าเมืองไทยมันร้อนนัก ก็ขึ้นเครื่องบินราคาไม่เกิน 4,000 บาท ไปรับอากาศหนาวที่เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม กันดีกว่า พอลงเครื่องที่สนามบินเลียน เคือง แล้วก็ขึ้นแท็กซี่เข้าเมืองได้เลย โดยสนามบินอยู่ห่างจากเมืองประมาณ 35 กิโลเมตร ที่นี่ราคาแท็กซี่ไม่แพงมาก แต่ถ้าใครอยากใช้ Grab Taxi เมืองนี้เขาก็มีให้ใช้กันแล้ว ทีนี้มาดูกันเลยดีกว่า ว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง
1. พระราชวัง (King Palace) ตั้งอยู่บนเนินเขาล้อมไปด้วยป่าสน พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นวิลล่าของเศรษฐีชาวฝรั่งเศส สร้างก่อนปี ค.ศ. 1940
หลังจากนั้น 9 ปี สมเด็จพระจักรพรรดิ บ๋าว ดั่ย Bảo Đại (ทรงเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 13 และพระองค์สุดท้ายของเวียดนาม) ทรงซื้อวังนี้มาเพื่อแปรพระราชฐานในช่วงหน้าร้อน
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1956 ประธานาธิบดี Ngo Dinh Diem ใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นพระราชวังส่วนตัวของประธานาธิบดี โดยได้มีการขุดอุโมงค์ใต้ดินเพิ่มเพื่อใช้สำหรับเป็นทางออกฉุกเฉิน
ค่าเข้าชมพระราชวัง 40,000 ดอง หรือ 58 บาท
2. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ XQ (XQ Da Lat Historical House) เป็นสถานที่จัดแสดง และขายงานศิลปหัตถกรรมที่มีชื่อในเวียดนาม และอย่างที่ทราบกันว่าเวียดนามได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากประเทศจีน ทำให้เมื่อมาถึงที่นี่ ก็จะมีความรู้สึกเป็นเวียดนาม ผสมจีน ผสมเกาหลี ผสมญี่ปุ่น เข้ามาอย่างละนิดอย่างละหน่อย เชื่อว่าที่นี่จะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ที่รักงานศิลปะ
ที่นี่มีห้องแสดงงานศิลปะชั้นเยี่ยม รวมถึงงานปักที่สวยงาม ซึ่งสามารถถ่ายทอดความงดงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี
ส่วนราคาของแต่ละชิ้นนั้น ก็ไม่ธรรมดาคิดเป็นเงินได้ก็ หลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว (ในประเทศไทยก็มีงานปักลักษณะนี้เรียกว่าผ้าปักไหมน้อย ในโครงการศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ)
ค่าเข้าหมู่บ้านประวัติศาสตร์ 20,000 ดอง หรือ 28 บาท
3. หุบเขาแห่งความรัก (Valley of Love) ที่นี่มีทัศนียภาพที่งดงาม ทั้งยังมีความโรแมนติก จึงทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมของคนเวียดนาม และนักท่องเที่ยว
มีทะเลสาบอันเงียบสงบที่สร้างขึ้นมาอย่างทะเลสาบ Da Thien อยู่ตรงกลางหุบเขา โดยมีป่าต้นสนล้อมรอบ
สามารถขึ้นรถเที่ยวชมเส้นทางธรรมชาติ ถ่ายรูปกับสวนกุหลาบ และรูปปั้นจำลองสถานที่สำคัญต่างๆ ของโลกได้ด้วย
ค่าเข้าหุบเขาแห่งความรัก 40,000 ดอง หรือประมาณ 58 บาท
4. น้ำตกดาทันลา (Datanla Waterfall) ทีเด็ดของน้ำตกแห่งนี้ต้องบอกตรงๆ ว่าไม่ได้อยู่ที่น้ำตก แต่อยู่ที่วิธีการลงไปที่น้ำตก ที่เราต้องนั่งรถเลื่อนบนรางไฟฟ้าลงไป
อารมณ์เหมือนเล่นเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ในสวนสนุก เพราะต้องบังคับให้ไปข้างหน้า หรือชะลอความเร็วกันเอง
เวลาเข้าโค้งนี่บอกเลยว่าหวาดเสียวเบาๆ และถ้าเพื่อนที่ขับตามมาข้างหลังเป็นคนรักความเร็ว ก็จะได้อารมณ์ รถบั๊ม ผสมเข้ามา แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถเดินลงไปที่น้ำตกได้
พอไปถึงน้ำตกก็จะมีร้านกาแฟ ที่ดาลัดให้จิบเบาๆ สำหรับสายชิลล์ และมีมุมถ่ายรูปหลายจุด โดยน้ำตกที่นี่มี 2 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปได้
มีคู่รักวัยรุ่น และคุณตาคุณยาย จูงมือกันมาเที่ยว ทำให้น้ำตกแห่งนี้มีความหวานขึ้นมาทันที
นอกจากนี้หลายครอบครัวยังจูงลูกจูงหลานมาเที่ยวกัน และแน่นอนว่าไม่มีลงไปเล่นน้ำนะ เพราะอากาศช่วงเดือนธันวาคมแบบนี้อยู่ที่ 11 องศา เท่านั้น
ขาขึ้นถ้าไม่อยากเดินก็นั่งรถล้อเลื่อนขึ้นไป รอบนี้จะไม่เสียวเท่าไหร่ เพราะใช้รางที่เป็นระบบไฟฟ้าพาเรากลับขึ้นไป
ค่าเข้าน้ำตกดาทันลา ผู้ใหญ่ 30,000 ดอง หรือประมาณ 43 บาท เด็ก 15,000 ดอง หรือ 22 บาท
ค่ารถเลื่อน (Roler coaster) 60,000 ดอง หรือ 87 บาท ราคานี้ทั้ง ไป-กลับ
5. ตลาดกลางคืน (Night Market) ตลาดนี้อยู่ริมทะเลสาบซวนเฮือง (Xuan Huong Lake) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองดาลัด ทุกคนสามารถซื้อของฝากได้จากที่นี่ โดยในตลาดจะมีขายเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาวทั้งหลาย มาขายในราคาถูก นอกจากนี้ยังมีผัก ผลไม้ สมุนไพร และของฝากต่างๆ ด้วย
ที่กลางตลาดเป็นจัตุรัส มีนักดนตรีมาขับกล่อมบทเพลงภาษาเวียดนาม ท่ามกลางบรรยากาศหนาว แต่เต็มไปด้วยความสุข และมีวัยรุ่นหนุ่มสาวนัดกันมานั่งเล่น กินอะไรอย่างละนิดละหน่อย บางคนเป็นแฟนคลับนักดนตรีด้วย
ชาวเวียดนามยังชอบมานั่งซดซุป, เฝอ (ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม) และเหล่าของปิ้ง ย่าง ที่เสียบไม้ไว้ให้เลือกเยอะมาก (หน้าตาใช้ได้ แต่น้ำจิ้มคิดว่ายังแพ้ของบ้านเรา)
นอกจากนี้ที่เห็นเยอะคือ พิซซ่าเวียดนาม (ที่รสชาติไม่เหมือนพิซซ่าอย่างที่เราคุ้นเคย แต่รสชาติใช้ได้ไม่ผิดหวัง) ราคา 20 - 25 บาท เทไข่ลงบนแป้ง ใส่กุ้งฝอย และปลาเล็กปลาน้อย โรยด้วยหอม และอื่นๆ ราดซอสพริก ตามด้วยมายองเนส กรุบกรอบกำลังดี
อัลบั้มภาพ 69 ภาพ