“นิไรคาไน” ดินแดนเทพโพ้นทะเลโอกินาวา
จะเป็นวัฒนธรรมไหนก็ตามต่างก็มีความเชื่อเรื่องดินแดนของเทพอยู่เสมอ ในขณะที่คนไทยจินตนาการถึงเขาพระสุเมรุ คนริวกิว (琉球) หรือปัจจุบันคือโอกินาวา (沖縄) ก็มองออกไปนอกทะเลและจินตนาการถึง “นิไรคาไน (ニライカナイ)” ดินแดนเทพที่อยู่ ณ เส้นขอบฟ้าค่ะ ในช่วงปีใหม่แบบนี้ที่เทพเจ้าจากนิไรคาไนจะมาเยี่ยมโลกมนุษย์ตามความเชื่อของโอกินาวา เรามารู้จักนิไรคาไนกันค่ะ
นิไรคาไนคือที่แบบไหน?
“ทะเลแห่งนิไร (ニライの海)” หนึ่งในผลงานศิลปะที่ถูกจัดแสดงในหอสันติภาพ อนุสรณ์สถานแห่งสันติภาพ (平和祈念公園) จังหวัดโอกินาวา เป็นผลงานที่มีธีมคือ “นิไรคาไน”
นิไรคาไนเป็นความเชื่อที่พบได้ในเกาะโอกินาวา (沖縄本島) เกาะอามามิ (奄美大島) และจังหวัดคาโกะชิมะ (鹿児島県) ของญี่ปุ่นค่ะ ตามความเชื่อแล้วนิไรคาไนตั้งอยู่โพ้นทะเลตะวันออกของเกาะโอกินาวา เป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่อุดมสมบูรณ์และมีความสุข เป็นดินแดนในอุดมคติ กล่าวได้ว่าเป็นสรวงสวรรค์ในความเชื่อของคนในพื้นที่ก็ว่าได้ค่ะ และที่ดินแดนนี้จะมีเทพสูงสุดอยู่องค์หนึ่งซึ่งปกครองเทพองค์อื่นๆ ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขค่ะ คำเรียกนิไรคาไนนั้นต่างกันออกไปตามแต่ละเกาะที่มีภาษาถิ่นเป็นของตัวเองค่ะ เช่น นิรุยะ (にるや) นีระ (にーら) นิโร (にろー) หรือบ้างก็เรียกนิไรคาไนว่าวังมังกร (竜宮) เป็นต้นค่ะ
ในภาษาถิ่นมีคำเรียกคนของนิไรคาไนว่า “อามันจุ (あーまんちゅ)” โดย “อามะ” แปลได้ว่า “ที่นั่น” และ “จุ” หมายถึง “คน” ค่ะ รวมกันแล้วแปลได้ว่า “คนของที่ที่ห่างไกลออกไป” ซึ่งก็คือคนจากนิไรคาไนที่อยู่โพ้นทะเลนั่นเองค่ะ
ดินแดนของเทพและวิญญาณ
แม้เทพเจ้าต่างๆ จะอาศัยอยู่ที่นิไรคาไน แต่ก็จะมีช่วงเวลาที่เทพเจ้าจะมาเยือนโลกฝั่งนี้อยู่ค่ะนั่นคือช่วงขึ้นปีใหม่ค่ะ โดยเทพเจ้าจะมาเยือนโลกมนุษย์และอยู่ที่นี่จนถึงสิ้นปีจึงจะกลับไปยังนิไรคาไน และจะกลับมาเยือนอีกในตอนปีใหม่ค่ะ
เทศกาลต้อนรับเทพเจ้าจากนิไรคาไนของเกาะยาเอยามะ (八重山)
นอกจากเป็นดินแดนของเทพเจ้าแล้ว นิไรคาไนยังเป็นดินแดนของวิญญาณอีกด้วยค่ะ ถ้าเป็นความเชื่อของคนไทยเราที่เชื่อในวัฏสงสารก็จะเชื่อว่าวิญญาณล้วนเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ แต่สำหรับคนโอกินาวาแล้วนิไรคาไนเป็นดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดวิญญาณของเรา และเมื่อเราตายไป วิญญาณของเราก็จะกลับไปยังที่ที่เราจากมา นั่นคือนิไรคาไนค่ะ และหลังจากผ่านไปเจ็ดปีให้หลังจากที่เสียชีวิต วิญญาณนั้นๆ ก็จะกลายเป็นเทพคุ้มครอง (守護神) ที่ปกป้องดูแลผู้คนต่อไป กล่าวคือเป็นดินแดนที่วิญญาณคนตายจะเกิดใหม่นั่นเองค่ะ
ทั้งนี้คาดว่ามาจากรากฐานความเชื่อของโอกินาวาที่นับถือวิญญาณบรรพบุรุษนั่นเองค่ะ และช่วงเวลาเจ็ดปีนี้ตรงกับกระบวณการทำพิธีศพของคนโอกินาวาด้วยค่ะ โดยพิธีศพแต่โบราณของโอกินาวานั้นจะไม่นำร่างผู้เสียชีวิตไปเผาหรือฝังดิน แต่จะนำใส่หีบเก็บกระดูกไว้และรอเจ็ดปีให้ร่างนั้นสลายไปเหลือแต่กระดูกก่อนจะนำกระดูกนั้นมาล้างและนำเข้าไปบรรจุไว้ในสุสานของครอบครัวต่อไปค่ะ อาจจะเป็นช่วงเวลาเจ็ดปีนี้เองที่วิญญาณผู้เสียชีวิตจะกลับมาเกิดเป็นเทพที่คุ้มครองลูกหลานต่อไป
ตัวอย่างหีบเก็บกระดูกในพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาสึโบยะ (壺屋焼物博物館)
อาจจะฟังดูน่ากลัวบ้างสำหรับเพื่อนๆ บางคน แต่ถ้านึกถึงวัฒนธรรมไทยที่เดิมนับถือผีและวิญญาณบรรพบุรุษแล้ว อาจจะทำความเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจศึกษาวัฒนธรรมโอกินาวา “นิไรคาไน” เป็นหนึ่งในความเชื่อที่ฝังรากลึกและช่วยให้เราเห็นภาพรวมของวัฒนธรรมโอกินาวาได้มากขึ้นทีเดียวค่ะ ในโอกาสสิ้นปีเก่าขึ้นปีใหม่นี้ มองออกไปนอกทะเลตะวันออกเพื่อส่งและต้อนรับเทพจากนิไรคาไนกันค่ะ