วันเดียวเที่ยวนครนายก ขึ้นรถ ล่องเรือ ลงโคลน เล่นน้ำ
เสียงเครื่องยนต์เรือหางยาวดังสะท้อนบนผืนน้ำกว้างใหญ่ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชล สร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2536 เพื่อเก็บกักน้ำ และควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร และไร่นาในหน้าฝน ทั้งยังเป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลกอีกด้วย
ล่องเรือพาเพลิน 3 น้ำตกงาม
แสงแดดยามสายส่องกระทบผิวน้ำระยิบระยับ สายลมพัดมาตามช่องแนวขุนเขาที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ เรือแล่นแหวกผืนน้ำส่งละอองน้ำกระเซ็นขึ้นมากระทบใบหน้า เพียงอึดใจต่อมา เสียงเครื่องยนต์ก็ดับลง เรือจอดนิ่งอยู่ที่แนวพงหญ้า ซึ่งเห็นลำธารน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลลงสู่เขื่อนอยู่ข้างๆ
1.น้ำตกแสนงอน
ผมกระโดดลงจากเรือ สะพายกล้องแล้วคว้าเชือกปีนป่ายขึ้นไปตามโขดหินผา เพื่อมุ่งไปสู่น้ำตก “แสนงอน” จุดหมายแรกของเราที่ชื่อช่างล้อกับทางที่ไปถึงซึ่งลำบากพอตัว ผมสูดหายใจลึก
สัมผัสได้ถึงความชุ่มชื่นและกลิ่นอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติอันงดงามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขื่อนเช่นนี้ มอสและเฟิร์นแทรกตัวอยู่ตามโขดหินรายทาง เมื่อก้าวขึ้นมาบนแนวโขดหินชั้นสุดท้ายภาพน้ำตกสะท้อนแสงแดดเป็นสีขาวนวลก็ทำให้ผมหายเหนื่อยจนร้องว้าวออกมา
น้ำเย็นฉ่ำใสสะอาดไหลลงมาเป็นสายเติมความชุ่มชื่นให้กับผืนป่าโดยรอบ เสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังสะใจสมกับอีกชื่อหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกหูแตก ผมเก็บภาพอันมหัศจรรย์นี้ แล้วไต่โขดหินกลับไปเรือมุ่งหน้าสู่น้ำตกที่หมายต่อไป
2.น้ำตกคลองคราม
เรือลำน้อยแล่นตัดผ่านผืนน้ำกว้างใหญ่อีกครั้ง ตะวันยามสายลอยโด่งบนผืนฟ้า ไม่ช้าหัวเรือเราก็แตะเทียบที่แนวฝั่งซึ่งมีพงหญ้าถูกถางไว้เป็นทางเดิน เพื่อไปยังน้ำตก “คลองคราม”หรือ “คลองสงคราม” ซึ่งชื่อน้ำตกมาจาก ช่วงต้นปี2487 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่2 ทหารญี่ปุ่นที่เข้ามายึดพื้นที่บริเวณเขาชะโงกได้เดินทางเข้ามาตัดไม้บริเวณน้ำตกแห่งนี้ แล้วส่งไปยังกาญจนบุรี เพื่อเอาไปตัดทอนเป็นไม้หมอนรถไฟเป็นจำนวนมาก
ทางเดินไปน้ำตกนี่ง่ายสบายกว่าที่แรก มีฝูงผีเสื้อสีสวยบินเล่นล้อไปตามดอกไม้งามซึ่งขึ้นอยู่ริมทาง ลำธารใสไหลรินจากน้ำตกต้นน้ำขนาบข้าง ทำให้บรรยากาศโดยรอบช่างชวนฝันยิ่งนัก ป้ายคลองครามเด่นหล้าอยู่บนต้นไม้บริเวณน้ำตกที่มีผู้คนกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ผมควักน้ำเย็นๆ ลูบหน้าให้สดชื่น ก่อนจะมุ่งไปสู่น้ำตกสุดท้าย
3.น้ำตกช่องลม
สะพานไม้ไผ่สี่ท่อนวางพาดระหว่างโขดหินสองฝั่งซึ่งมีลำธารไหลเชี่ยวอยู่เบื้องล่าง ช่วยเพิ่มความเร้าใจให้กับน้ำตก “ช่องลม” ซึ่งอยู่อีกฝั่งของสะพาน ผมก้าวไปอย่างกล้าหาญ ไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดชวนหวาดเสียว ก่อนจะกระโดดไปตามโขดหินน้อยใหญ่ที่เป็นทางเดินน้ำไปสู่ผาหินที่มีน้ำไหลซู่ออกมาจากช่องหิน อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตก
แม้ผมไม่ได้ลงเล่นน้ำเองเพราะต้องเก็บภาพ แต่ภาพของผู้คนที่มาเล่นน้ำตกทั้งสามแห่งด้วยใบหน้าสนุกสนานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าสถานที่นี่ช่างเหมาะแก่การพักผ่อนเติมพลังให้กับร่างกายยิ่งนัก
ตะลุยป่า ฝ่าลำธารไปกับรถATV
“พี่มันขับเหมือนมอเตอร์ไซค์ไหมครับ” ผมถามขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น ขณะขึ้นคร่อมอยู่บนรถATVสีแดงสดคันโต “ง่ายกว่าครับ สตาร์ทรถกดปุ่มซ้าย เร่งเครื่องก็กดปุ่มขวา กำเบรกเหมือนกันครับ” พี่เจ้าหน้าที่บอกยังไม่ทันจบผมก็บึ่งเจ้าสี่ล้อตัวโตออกไปแล้ว และเนื่องจากหลังไปชมน้ำตกไม่นาน ฝนต้นฤดูหนาวก็สาดเทลงมาตอนเที่ยงจนเส้นทางที่ใช้ขับปกติซึ่งวิบากอยู่แล้วยิ่งวิบากไปอีก
กิจกรรมขับรถATV นี่ถือเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวนครนายก เราเริ่มต้นขับเป็นแถวขบวนไปตามทาง เส้นทางที่ขับผ่านนั้นร่มรื่นไปด้วยบรรยากาศสบายๆ ใต้ร่มไม้แต่เบื้องล่างกลับเต็มไปด้วยหลุมบ่อและอุปสรรคมากมาย ทั้งทางลาดชัน เอียงซ้าย ขวา กระเด้งหน้าหลัง จนผมมารู้ตัวอีกทีก็ขับซิ่งตะลุยป่าด้วยความเมามันส์สะใจทั้งที่ตอนแรกเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าขับเร็ว
ถึงทางโค้งบ่อโคลนก็หักเลี้ยวจนโคลนสาดกระจายเปรอะเต็มตัวไปหมด พอเนื้อตัวเละเทะได้ทีก็ทิ้งตัวบึ่งลงฝ่าลำธารใสๆ ที่ไหลมาจากภูเขาด้วยความเร็วเต็มสูบจนน้ำแตกกระจายสาดกระเซ็นเปียกปอนไปทั้งตัวที่กระเด้งไปมาจากพื้นใต้ผืนน้ำที่มีก้อนหินเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ระหว่างทางผมแวะชมสวนกวางน่ารักกว่าห้าสิบตัวที่เลี้ยงอยู่กลางป่าให้ได้ชม ถ่ายรูปและให้อาหาร เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์อันน่าจดจำไปอีกนาน “เป็นไงบ้างครับ” พี่เจ้าหน้าที่คนเดิมถาม เมื่อผมลงมาจากรถ“โคตรมันส์เลยพี่” ผมยิ้มกว้างแล้วเดินไปล้างเนื้อล้างตัวขึ้นรถรางชมเมือง บนหลังวีรชนตะวันอัสดงคล้อยลงต่ำไปทางแนวขุนเขาที่มีหมอกบางๆ ห่มคลุมอยู่อีกฝากหนึ่งของแนวสันเขื่อนสูงตระหง่าน
ผมกำลังนั่งรถรางชมเมืองนครนายกที่อยู่เบื้องล่างเขื่อน รถรางเลี้ยวโค้งตรงสุดสันเขื่อน ผมหันกลับไปมองด้านหลังเห็นภาพเมืองนครนายกเบื้องล่างไกลสุดลูกลูกตาจนไปสุดแนวขุนเขาอีกฝากหนึ่ง ขนาบข้างผืนน้ำกว้างใหญ่ในเขื่อนโดยมีกำแพงเขื่อนขุนด่านปราการชลอันแข็งแกร่งขั้นกลางไว้สมกับชื่อที่มาจากวีรชนคนกล้าของเมืองนครนายกนั้นคือขุนหาญพิทักษ์ไพรวัน หรือ ขุนด่าน วีรชนในสมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งช่วยรบกับทัพพระยาละแวกของพม่าเพื่อรอทัพของพระนเรศวรเดินทางมาช่วยจนทัพพม่าแตกพ่ายไปในที่สุด
ผมกลับมาที่ฝั่งอีกครั้ง ยามเย็นผู้คนยิ่งหน้าตา ทั้งขาจรและประจำ พ่อแม่จูงลูกน้อย หนุ่มสาวเดินคู่กัน บ้างหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ บ้างขี่จักรยานรับลมชมวิว บรรยากาศโดยรอบทำให้ผมรู้สึกว่าสถานที่นี่ไม่ใช่แค่เขื่อนทั่วๆไป ที่ใช่เพียงกักเก็บน้ำไว้เท่านั้น แต่นี่คือแหล่งรวมความสุขและพักผ่อนหย่อนใจของผู้คนทั้งหลายซึ่งอยู่ใกล้เมืองหลวงอันวุ่นวายแออัด หากคุณต้องการเติมพลังให้กับชีวิต ที่แห่งนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีที่เดียว
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ