ชวนไปลองบะหมี่เกี๊ยวซุปตาร์ "โหน่ง ชะชะช่า" นครนายก
พาไปชิม บะหมี่เกี๊ยว ซุป'ตาร์ โหน่ง ชะชะช่า นครนายก อีกร้านอาหารชื่อดังที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ การมาทำงานที่นครนายกรอบนี้ ทำให้มีโอกาสได้แวะมาฝากท้องที่ร้าน บะหมี่เกี๊ยว และทำให้ได้สัมภาษณ์พี่โหน่ง ชะชะช่า ที่มาดูแลร้านเอง ถึงที่มาที่ไปของร้าน
ไอเดียเด็ดกับคอนเซ็ปต์ พร้อมที่มาที่ไปของร้าน
ด้วยความที่ผมเป็นชอบค้าขายมาตั้งแต่เด็กและด้วยความที่ทำงานในวงการบันเทิงคือเล่นตลกมานานแล้ว เลยคิดว่า ถ้าเราอายุมากขึ้นเราจะทำอาชีพอะไร หนังสือเราก็ไม่ได้เรียนมาสูงมากมาย เลยคิดมองเรื่องค้าขายดีกว่า และด้วยเป็นคนที่ชอบทานบะหมี่อยู่แล้วด้วย ภรรยาเลยกลายเป็นแรงหลักในการไปคิดค้นสูตรบะหมี่
"นี่เป็นประโยคแรกของบทสนทนาระหว่างเรา ว่าทำไม บะหมี่เกี๊ยว ซุป'ตาร์ โหน่ง ชะชะช่า ถึงเกิดขึ้นมา"
แต่กว่าจะเปิดได้ขนาดนี้ก็หมดไปเยอะเหมือนกัน เส้นทำเอง ซ้อมทำกินกันเอง ให้ได้สูตรที่อร่อยที่สุดก่อน ทำเองกินเอง ไม่ว่าจะเป็นเส้น น้ำซุป ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนได้สูตรที่ถูกใจ น้ำซุปรสชาติที่ใช้ได้แล้ว เลยทำให้ได้เปิดโรงงานที่คลอง 4 แล้วทำเส้นเอง
เริ่มแรกเรายังไม่ได้เปิดร้านใหญ่แบบนี้นะ เราไปขายตามตลาดเป็นร้านเล็กๆ ก่อน อย่าง เจเจกรีน ซ้อมขายไปเรื่อยๆ ผลตอบรับคือดีมาก แต่ตัวผมเองเริ่มไม่ไหว เพราะต้องทำงานทุกวัน ของก็ต้องขาย อยู่ดึกก็ไม่ไหว ทำให้พักผ่อนไม่พอ เลยตัดสินใจยกร้านให้น้องชายบริหารต่อ (ปัจจุบันยังขายอยู่)
ส่วนตัวผมเองก็มาได้ที่ตรงนี้ ด้วยความที่เป็นคนจังหวัดนครนายกอยู่แล้ว ทำให้ได้มาเที่ยวน้ำตกบ่อยๆ และได้เห็นที่ตรงนี้ ตอนเจอใหม่ๆ มันยังเป็นที่รกร้างอยู่เลย ที่ก็ยังไม่ได้ถม ป้ายก็ยังล้มอยู่ เลยลองโทรติดต่อดู และได้พูดคุยซื้อขายกัน เพราะเจ้าของที่กำลังบอกขายพอดี
ได้ที่แล้วก็ยังไม่เกิดร้านอย่างปัจจุบัน
แรกๆ เราก็ยังไม่ได้เปิดร้านใหญ่โตแบบปัจจุบันนะครับ เราทดลองขายกันก่อนเกือบปี ซ้อมขายไปเรื่อยๆ ค่อยๆ เก็บรายละเอียด feedback ของลูกค้าอยู่เกือบปี สูตรน้ำราดต่างๆ ของเมนูในร้านก็ได้มาด้วยความเอ็นดู ต่อให้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้นะ บางอย่างก็ต้องส่งน้องสาวเข้าไปเรียนรู้ไม่เหมือนแต่ก็ได้ใกล้เคียง
ทะเลาะแต่ยอม ความขัดแย้งที่ลงตัว
กว่าจะได้ร้านใหญ่ขนาดนี้ก็ทะเลาะกับภรรยา เพราะตัวเขาอยากให้เปิดร้านเล็กๆ ไม่ได้อยากให้เปิดร้านใหญ่ขนาดนี้ เพราะขายบะหมี่ทำร้านใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีใครเขาทำกัน! แต่ผมไม่อยากทำร้านเล็กๆ เพราะผมเป็นคนชอบของเก่า (เมียยังเก่า) อยากเอาของเก่าที่ซื้อเก็บสะสมไว้ที่บ้านคลองสองมาแต่ง อยากแต่งร้านทั้งหมดด้วยของเก่าที่ซื้อเก็บ กว่าจะได้ร้านใหญ่ขนาดนี้ทะเลาะกันหลายวันเลย ไหนๆ จะสร้างแล้วก็สร้างให้มันดีไปเลย
ในอาณาจักรบะหมี่ พื้นที่ตรงนี้มีอะไรบ้าง
จากที่มีแค่บะหมี่อย่างเดียว ด้วยความที่คิดถึงนักท่องเที่ยวว่าหากเขามาเที่ยวไหว้พระ เที่ยวน้ำตก ขากลับต้องมีคนอยากกินกาแฟ ก็อยากให้แวะนั่งเล่น เลยไปหาตู้คอนเทนเนอร์มาลงเพิ่ม ทำเองหมดทุกอย่าง ตั้งแต่มองหาว่าขนาดต้องใหญ่แค่ไหน มีแบบไหนบ้าง มาลงเพิ่ม
ช่วงปีสองปีแรกไม่ได้พัก เหนื่อยแต่มีความสุข
ด้วยความที่เป็นคนจริงจังและใส่ใจกับทุกเรื่องทำให้ลงมือทำเองทุกอย่าง รวมไปถึงการลงมือหาอุปกรณ์ทุกอย่าง ทำร้านเอง ไม่ว่าจะหาของ สั่งซื้อ ต้องไปดูเอง ต้องตื่นเช้า แถมต้องอัดรายการทุกวัน สรุปเลยได้ ตู้คอนเทนเนอร์มาทั้งหมด 6 ตู้ พร้อมทั้งเป็นคนจัดโซนเองทั้งหมด แต่ 6 ตู้กว่าจะได้ดีไซน์ออกมาแบบนี้คิดเยอะมาก (อย่างที่เห็น) คือทุกอย่างคิดเองหมด
นอกจากร้านกาแฟ ก็ยังมีร้านไอศกรีมอีกร้าน แต่ตอนนี้หยุดไว้ก่อนเพราะแฟนทำไม่ทัน แฟนผมเขาเป็นคนทำไอศกรีมเองไม่ได้รับมา จะจ้างคนอื่นก็ไม่เหมือนเราดูแลเอง เลยตัดสินใจปิดไปก่อน ของทุกอย่างจะทำเองทั้งหมด ไม่รับที่อื่นมาขาย อีกร้านเป็นร้านขายลอดช่องของน้องสาว ลอดช่องน้ำกะทิ เขาทำเองอร่อยมาก (อยากให้ลอง)
เมนูโปรด "โหน่ง ชะชะช่า"
ด้วยความที่เป็นคนชอบทานบะหมี่อยู่แล้ว กินเป็นประจำคงบอกไม่ได้ว่าอะไรคือเมนูพิเศษ กินได้ทุกวันไม่เบื่อจนเมียถาม...กินไม่เบื่อเพราะมันอร่อย แต่จะมีบางช่วงที่มีการคิดสูตรใหม่ๆ ขึ้นมาทานเอง เช่นช่วงที่ลดความอ้วน ก็จะมีบะหมี่น้ำต้มยำไม่ใส่มะนาว ด้วยความไม่ชอบทานเปรี้ยว แต่ถ้าไม่ทานต้มยำก็จะเป็นบะหมี่เกี๊ยวน้ำ คือใส่เกี๊ยวกรอบแช่ไปเรื่อยๆ (เหมือนราดหน้า) ก็จะกลายเป็นเกี๊ยวกรอบ เราไม่ใส่บะหมี่ใส่แค่เกี๊ยวกับน้ำร้อนอร่อยไปอีกแบบ
คุยกับเจ้าของร้านกันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาสั่งอาหารมาลองพร้อมทั้งสำรวจร้าน อย่างที่พี่โหน่งบอกไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า ของทุกอย่างมาจากความชอบส่วนตัว สิ่งของที่นำมาตกแต่งร้านก็เช่นกัน เป็นของเล่นที่ พี่โหน่ง สะสมมาเรื่อยๆ นับสิบปี พอเปิดร้านก็นำมาตกแต่งร้าน ดังนั้นตัวร้านทั้งด้านนอกและด้านในจึงมีดีไซน์ชิคๆ เก๋ๆ ออกมาตามคาแรคเตอร์ของพี่โหน่งเลย
ส่วนนี้สายชิลล์ต้องชอบแน่ๆ เพราะที่ร้าน มีมุมให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆ มากมาย และเชื่อว่าใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ ต้องแวะ ถ้าไม่ทานก็ต้องถ่ายรูปร้าน
ขั้นตอนการสั่งอาหารก็ไม่ยาก จ่ายเงิน รับน้ำ รอคิว เสิร์ฟที่โต๊ะ
ลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 10 บาท แต่อร่อยลืมอะ ลูกชิ้นหมูเด้งดี น้ำจิ้มก็เด็ดดวง
มาดูในส่วนของอาหารกันต่อดีกว่า อาหารที่ขายในร้านเน้นเป็นบะหมี่ครับ ไม่ว่าจะเป็น บะหมี่เกี๊ยวแห้งต้มยำ, บะหมี่ต้มยำแห้ง, บะหมี่เกี๊ยว, บะหมี่หมูแดงหมูกรอบ, ข้าวหมูแดงหมูกรอบ (ธรรมดา)
หรือเมนูใหม่ๆ ที่ทางทีมคุณโหน่งคิดขึ้นมาเองเป็นเมนูพิเศษของทางร้านอย่าง สปาเก็ตตี้เส้นชาโคล เอ้ย...ไม่ใช่ เส้นหมึกดำ ซึ่งหากินได้ที่ร้านนี้เท่านั้น
ข้าวหมูตุ๋น เมนูที่ได้เร็ว กินง่าย และอร่อย เนื้อหมูที่ตุ๋นจนนุ่มแทบละลายในปาก พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ เขียนรีวิวไปก็หิวไป อยากกลับไปกินอีก!
'ต้มแซ่บเล้ง' ร้อนๆ ซดคล่องคอ! ที่ร้านมีทั้งแบบต้มจืดและแบบแซ่บซี้ด เลือกสั่งได้ตามชอบ
ข้าวซอยก็มีนะ แต่เป็นเส้นบะหมี่ เห็นมั้ยละว่าที่ร้านสามารถนำเส้นบะหมี่มาทำอาหารได้หลากหลายมาก
มาร้านบะหมี่ก็ต้องสั่ง "บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง" มาลอง เอาเป็นว่าสั่งแบบเบสิกคือ บะหมี่เกี๊ยวหมูกรอบ ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำมาลองให้ครบ ชิมน้ำซุปเค็มกำลังดี เส้นบะหมี่สายไหมอร่อยดี เหนียว นุ่ม รวมๆ แล้วถือว่ารสชาติอร่อยถึงใจดี ส่วนตัวชอบแบบแห้ง น้ำหมูแดงที่ราดมาเยอะชุ่มฉ่ำ อร่อยดี
ต่อกันที่ "บะหมี่แกงเขียวหวานไก่ที่เสิร์ฟพร้อมไข่ต้ม"
นอกจากนี้ภายในบริเวณร้าน ยังมีส่วนของร้านขนมหวานและร้านกาแฟที่ทางคุณโหน่ง แนะนำว่าเป็นของน้องสาว ของหวานเชิญทางนี้นะจ๊ะ
โซนของร้านกาแฟ ที่ได้พูดถึงกันไว้ตอนต้น
ใกล้ชิดกับลูกค้าชนิดที่ว่าใครชอบกิน ก็กินไป ใครชอบถ่ายรูปส่งมานี่
การเดินทางไปก็ไม่ยาก ร้านอยู่บนถนน รังสิต-นครนายก ตรงแยกสะพาน จปร. เลยจ้า (ร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม) ร้านใหญ่ สังเกตง่าย หรือสามารถโทรสอบถามทางได้ที่เบอร์ 061 918 8989