เคล็ดไม่ลับ : วิธีสำรองและป้องกันภาพถ่ายหายระหว่างทริป [ Chill Journey ]
อันนี้เป็นคำถามสำหรับมือใหม่ที่น่าจะเคยมีคำถามคาใจกันนะ
“ระหว่างทริปนี้พี่พก Sd card ไปเยอะแค่ไหน”
เพราะบางคนถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ไปกันทีก็ตั้งนาน จะให้เอา notebook ไปเก็บข้อมูลด้วยก็ 2 กิโลแหนะหนักชิบ รวมทั้งก็อาจมีเหตุให้ข้อมูลสูญหายระหว่างทริปอีก เช่น SD card เสีย , harddisk พัง หรือที่แย่สุดคือถูกขโมย
วันนี้ผมให้คำแนะนำไว้ 3 ข้อสรุปแบบสั้นๆดังนี้
1. เอา SD card ไปหลายๆใบ
2. Backup ลงอุปกรณ์จัดเก็บอื่น เช่น external harddisk , flash drive
3. Backup เข้าสู่ระบบ Cloud storage เช่น , dropbox , google drive , icloud
สำหรับคนที่เก่งเทคโนโลยีคงเข้าใจแล้ว แต่สำหรับคนไม่สันทัด ผมขออธิบายแบบภาษาบ้านๆให้ฟังทีละข้อนะ
ข้อที่ 1… เอา SD card ไปหลายๆใบ
. ตอนนี้ SD card มีความจุเยอะครับ เช่น 32 GB , 64 GB , 128 GB บางคนก็แบบว่าซื้อ 128 GB ใบเดียวไปเลยแล้วใช้ยาวๆ อันนี้ผมไม่แนะนำนะ เพราะมันมีโอกาสที่จะพังได้ ถ้าทั้งทริปคุณใช้การ์ดใบเดียวเลยแล้วมันดันพังหล่ะ ภาพความทรงจำทั้งทริปหายเกลี้ยงเลยนะ ดังนั้น ณ ตอนนี้ผมแนะนำ 32 GB หลายๆใบแทนครับ ( ผมมี 4 ใบ ) อย่างน้อยถ้ามันจะซวยพังไปสักใบ เรายังมีอีกหลายใบที่ยังอยู่
ข้อที่ 2 … Backup ลงอุปกรณ์จัดเก็บอื่น
. อันนี้ก็ง่ายคงทำกันอยู่แล้ว เนื่องจาก SD card มันมีราคาแพง ถ้าทริปคุณยาวจะให้ซื้อเยอะก็คงไม่ไหว ในกรณีที่พก notebook ไปด้วยก็สามารถ backup(สำรองข้อมูล) ไว้ใน External harddisk , flash drive ได้ครับ
. แต่ถ้าไม่อยากพกไปเดียวนี้มันมี gadget ที่ช่วยให้ชีวิตการเดินทางง่ายขึ้นแล้วไม่ต้องพก notebook ก็สำรองข้อมูลได้มีหลายแบรนด์หลายยี่ห้อ ลองหายี่ห้อและรุ่นที่ใช่กันดูครับ
ข้อที่ 3 Backup เข้าสู่ระบบ Cloud storage
. อะไรคือระบบ Cloud storage ? คำถามนี้คงต้องอธิบายกันยาว เอาเป็นว่ามันคือ ระบบพวก dropbox , google drive , icloud พวกนี้อะครับที่เวลาเราโยนไฟล์อะไรลงไปในนั้นแล้วมันก็จะไปอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเปิดจากเครื่องไหนไฟล์มันก็ยังอยู่ นั้นแหละครับมันมีชื่อเรียกว่าระบบ Cloud storage ( ผมขอไม่สอนวิธีใช้ในโพสนี้นะ google โลด )
. ทำไมมันถึงสำคัญ…ผมขอเล่าจากประสบการณ์จริงของพี่คนหนึ่ง พี่เค้าเดินทางไปอเมริกาใต้ 3 เดือน พี่เค้าเอา SD card ไปแค่นิดเดียว ทุก 1-3 วันเค้าจะโหลดเข้ามือถือแล้วก็ backup ต่อเก็บไว้ใน google drive อีกทีหนึ่ง ( นอกจากจะเก็บรูปแล้ว ยังให้พ่อแม่เข้ามาดูรูปด้วยว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ ยังมีการเคลื่อนไหวนะ 555 )
. ทีนี้ตอนเค้าเดินทางเกือบจะครบทริปกลับไทยแล้ว “มือถือถูกขโมย” ลองจินตนาการทริปในฝันที่เราเก็บภาพทั้งหมดไว้ในอุปกรณ์อะไรสักอย่างแล้วมันถูกขโมย สิ่งที่อยากได้กลับมาไม่ใช่ของแต่มันคือ “ความทรงจำ” ที่อยู่ในภาพถ่ายเหล่านั้นถูกไหมครับ?
. หลังจากผมได้ฟัง ตอนผมเดินทางผม backup ทุกคืนเลย ผมจะโหลดภาพเข้ามือถือไว้ ต่อไวไฟ hostel ตั้งทิ้งไว้คืนหนึ่งตื่นเช้ามาก็เสร็จแล้ว ( ผมใช้ google photo แต่คิดว่าทางฝั่ง ios ก็มี icloud นะ )
ด้วย 3 ขั้นตอน ผมก็สบายใจได้แล้วหล่ะว่าความทรงจำที่ผมถ่ายเก็บไว้ มันจะไม่หายไปไหนแน่ๆ
. ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้อ่านนะครับ ภาพความทรงจำเราสำคัญกว่ากล้องและสิ่งใด เคยคุยกันเล่นๆกะเพื่อนว่าถ้าถูกโจรปล้นนี่จะบอกว่า “พี่เอาไปได้ทุกอย่างเลยครับ ผมขอ SD card อย่างเดียว” คือภาพถ่ายมันย้อนกลับไปถ่ายไม่ได้แล้วไง
===
มาพูดคุยกับชิล มนุษย์เงินเดือนที่ฝันจะไปรอบโลกได้ที่ช่องทางนี้เลย
Facebook : http://www.fb.com/ChillJourney
Instagram : @ChillJourneyTH