8 Don Muang Survival Guide : เอาตัวรอดแบบไม่แพง ในสนามบินดอนเมือง

8 Don Muang Survival Guide : เอาตัวรอดแบบไม่แพง ในสนามบินดอนเมือง

8 Don Muang Survival Guide : เอาตัวรอดแบบไม่แพง ในสนามบินดอนเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายๆคนคงเบื่อกับการรอคอยแท็กซี่ที่สนามบินดอนเมืองใช่ไหมคะ นับวันก็ยิ่งแออัดขึ้นทุกที ได้ข่าวแว่วๆว่า เดี๋ยวนี้คิวแท็กซี่ 500 คิว เป็นเรื่องปกติกันไปแล้ว อีกอย่างเวลามารอต่อเครื่องที่นี่ ต้องหาข้าวกิน ก็ไม่ค่อยมีที่กินให้เลือก ภัตตาคารชั้น 4 ก็ไม่ ON A BUDGET เอาซะเล้ยยยยย

สภาพคิวเรียกแท็กซี่ในสนามบิน ไม่จืดจริงๆ
สภาพคิวเรียกแท็กซี่ในสนามบิน ไม่จืดจริงๆ

วันนี้ เราจะมาแนะนำ 8 survival guide ในสนามบินดอนเมือง รวมที่กินราคาประหยัด อร่อย ขนส่งมวลชนที่ไม่ต้องรอคิวเป็นล้าน และราคาถูกคุ้มค่า คิดว่าจะช่วยทำให้ชีวิตที่ดอนเมืองของเพื่อนๆง่ายขึ้น ตามมาเลยค่ะ

 

1. ที่เรียก TAXI แบบเหนือชั้น + ป้ายรถเมล์เข้าเมือง

สำหรับคนที่จะหาแท็กซี่ขึ้น โดยที่ไม่อยากไปต่อคิว taxi สนามบิน และเสียเพิ่มอีก 50 บาท

มองหาป้ายโรงแรม อมารี ดอนเมือง ได้เลย เดินเข้าไปกดลิฟท์ไปทางเชื่อมที่ชั้น 3 ค่ะ

IMG_1737

เดินเข้าไปในทางเชื่อมได้เลย ประตูโดเรมอน บานเล็กๆ มองหาแทบไม่เจอนี่ล่ะค่ะ(ยังดีที่มีป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟ และป้ายรถประจำทาง) จะพาเราออกไปนอกสนามบิน

IMG_1736
ประตูเทาๆที่เหมือนทางหนีไฟนั่นล่ะค่ะ ผลักเข้าไปได้เลย

ออกไปแล้ว เลี้ยวขวาแรกลงไปรอรถแท็กซี่ที่วิ่งผ่านไปผ่านมาได้เลย โบกและต่อรองเอาตามชะตากรรมนะคะ ไกลไปไม่ไป ใกล้ไปไม่ไป ส่งแก๊สบ้าง ตามสไตล์ อิอิ

แต่ถ้าใครคิดว่ารถเมล์ หรือ รถตู้ประจำทาง เป็นทางเลือก เดินตรงไปอีกหน่อย ใกล้ๆ family mart มีป้ายรถเมล์ค่ะ

สาย 29 ไปสถานีรถไฟฟ้าได้ค่ะ วิ่งเส้นวิภาวดี มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยฯ สยาม ไปสุดที่หัวลำโพง และ สาย 59 วิ่งผ่านพหลโยธิน วงเวียนหลักสี่ อนุสาวรีย์ชัยฯ สนามหลวงค่ะ รถตู้เท่าที่รู้ จะมีสายจากรังสิต ผ่านมาบุญครอง ไปสุดที่ท่าน้ำสี่พระยาค่ะ(เส้นทางนี้มีรถเมล์ 187 อีกสายด้วย)

IMG_1719
ลงปุ๊บเรียกแท็กซี่ปั๊บได้เลยค่ะ เดินตรงๆไป แอบไกลนิดนึงมีป้ายรถเมล์ด้วยนะคะ

 

2. ป้ายรถเมล์ และรถไฟ

เดินข้ามไปอีกฝั่ง เป็นฝั่งขาออก ขึ้นสาย 29 และ 59 ขาออก มุ่งหน้ารังสิต ได้ค่ะ หรือจะลองเรียกแท็กซี่ฝั่งนี้ดูก็ได้ รถเมล์สายอื่นๆยังมี 187, 510, 523, 538 อีกค่ะ ส่วนใหญ่มุ่งหน้ารังสิตกันทั้งนั้น

IMG_1735
ทางแยกลงสองฝั่งชานชาลา เคาท์เตอร์ตั๋วอยู่ฝั่งเข้ากรุงเทพค่ะ ควรติดต่อให้เรียบร้อยก่อน

บรรยากาศทางลงสถานีรถไฟออกจะน่ากลัวหน่อยๆค่ะ เหมือนหนังซอมบี้เลยยยย

ทางลาดสำหรับลากกระเป๋าเดินทางซะด้วย แต่บรรยากาศซอมบี้เกิ๊นนนน
ทางลาดสำหรับลากกระเป๋าเดินทางซะด้วย แต่บรรยากาศซอมบี้เกิ๊นนนน

ใครที่อยากจะขึ้นรถไฟฟรี อารมรณ์สโลว์ไลฟ์ ต้องสอบถามรอบและออกตั๋วที่เคาท์เตอร์ค่ะ อย่าเชื่อรอบที่ติดกระดานอยู่ เพราะมันไม่ตรงเลย แหะๆๆ

IMG_1732
จะขึ้นรถไฟฟรี มองหาเคาท์เตอร์นี้สิคะ

 

3. ป้ายรถเมล์ A1, A2

จริงๆแล้วในสนามบินยังมีทางเลือกที่ทรหดน้อยกว่านั้นค่ะ และยังเร็วกว่าด้วย คือรถเมล์สาย A1 ที่จะขึ้นทางด่วน ไปลงหน้าเซนทรัลลาดพร้าว แล้วเลี้ยวขวาเข้าสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต และไปสุดสายที่สถานีขนส่งหมอชิต แต่บางครั้งถ้ารถติดมากๆแถวถนนกำแพงเพชร หรือไม่มีผู้โดยสาร เค้าอาจจะไม่ไปนะคะ สอบถามก่อนขึ้นรถด้วย

รถออกประมาณทุก 15 นาที แต่ต้องเผื่อการจราจรติดขัดด้วย อาจจะช้า หรือเร็วกว่านั้น

สำหรับค่าตั๋ว 30 บาทถ้วนค่ะ ขามาสนามบินสามารถขึ้นได้จาก BTS หมอชิตเช่นเดียวกัน

IMG_1742
รถเมล์ A1 มีสม่ำเสมอ ไม่ค่อยขาดค่ะ พึ่งพาได้เป็นอันดับ 1 สำหรับเรา

สาย A2 รถน้อยกว่ามาก ยังไม่ค่อยได้เห็นตัวเป็นๆเลย ขึ้นทางด่วนเช่นกัน แต่ไปลงอนุสาวรีย์ชัยฯค่ะ ซึ่งเราว่าไม่ต่างมาก เพราะลงหมอชิต ก็นั่ง BTS ไปอนุสาวรีย์ชัยฯ แป๊บเดียวเอง

ใครเลือกทางนี้เดินออกประตู 6 หันหน้าไปด้านขวาเลยค่ะ

IMG_1738
จะขึ้นรถเมล์ A1, A2 หรือ Shuttle bus ไปสุวรรณภูมิ ทางออกนี้ค่ะ

 

4.  AIRPORT SHUTTLE BUS

ถ้ามีไฟล์ทต่อที่สุวรรณภูมิ ให้ออกประตู 6 ด้านซ้ายจะมีเคาเตอร์รถ shuttle bus ขึ้นฟรีค่ะ โดยเราจะต้องโชว์  booking number ที่จะบินที่สุวรรณภูมิให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนก่อน

ปกติก็จะใช้เวลา 45 นาที - 1 ชั่วโมงไปถึงสุวรรณภูมิ แต่เวลาเดินทางควรเผื่อไว้สักชั่วโมงหน่อยๆค่ะ รถติดกรุงเทพฯนี่น่ากลัว แม้จะวิ่งบนทางด่วนตลอดทางก็ตาม บริการนี้มีที่ทางออก 2 arrival hall ของสุวรรณภูมิด้วยเช่นกันค่ะ

IMG_1744
บนรถมีที่วางกระเป๋าด้วย แต่ที่นั่งค่อนข้างน้อยค่ะ อาจจะได้ยืนไปตลอดทาง
IMG_1743
ตารางเวลา shuttle bus ไปสุวรรณภูมิ ตามนี้เลยค่ะ

 

5.  AIRPORT LIMOBUS EXPRESS

ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจมากค่ะ เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 เป็นรถบัสปรับอากาศขนาด 33 ที่นั่ง มี Wifi ฟรีในรถบัสด้วยนะคะ

รถบัสจะจอดให้บริการที่ชานชาลาขาเข้า ดอนเมือง ประตู 5 จำนวน 2 คัน

ให้บริการใน 2  เส้นทาง ได้แก่

1. ดอนเมือง – เพลินจิต (ห้างอัมรินทร์พลาซ่า ต่อ BTS ชิดลมได้) – สวนลุมพินี (บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ต่อ MRT สีลม และ BTS ศาลาแดงได้ ) –  ดอนเมือง

2. ดอนเมือง – ถนนข้าวสาร (ลงใกล้วัดชนะสงคราม) – ดอนเมือง

คิดค่าโดยสาร 150 บาทตลอดสายค่ะ

โดยรถเที่ยวแรกจะออกจาก ดอนเมืองเวลา 09.30 น. และเที่ยวสุดท้ายออกเวลา 24.00 น.

และมีรถบัสจอดให้บริการที่สวนลุมพินี 2 คัน และที่ถนนข้าวสาร 2 คัน โดยรถเที่ยวแรกจะออกจากสวนลุมพินี และถนนข้าวสาร เวลา 04.00 น.และเที่ยวสุดท้ายออกเวลา 20.30 น.

รถบัสที่วิ่งออกจาก ดอนเมือง จะออกทุกๆ 30 นาที ในขณะที่รถบัสที่วิ่งออกจากสวนลุมพินี และถนนข้าวสาร จะออกทุกๆ 1 ชม.ค่ะ

 

BIG_25981
ภาพจาก Airportthai

 

6. + 7.  MAGIC MINIMART +  MAGIC FOOD POINT

ทีนี้มาหาที่กินข้าวกันดีกว่า สนามบินดอนเมืองมี food court และร้าน minimart สวัสดิการของการท่าอากาศยานค่ะ เป็นแหล่งฝากท้องของพนักงานที่นี่ ราคาไม่แพงมากนัก และคุณภาพคุ้มค่าดีค่ะ แต่ทางไปจะลึกลับนิดนึง

ที่น่าแปลกใจคือนักท่องเที่ยวจีนไปกินกันบ่อยมาก มีทั้งไปเอง มีทั้งไกด์ชูธง พาลากกระเป๋าไป จนแม่ค้าพูดจีนได้หมดแล้ว มีเมนูภาษาจีนอีกต่างหาก พี่จีนนี่น่ากลัวจริงๆ

สำหรับคนที่สนใจ รับกระเป๋า เดินเลี้ยวขวาเลยค่ะ

IMG_1749
เดินตรงผ่านบันไดทิศเหนือไปเลย

เลยร้านกาแฟในตัวอาคารออกไปอีก จะเห็นป้าย ทางออกกรุ๊ปทัวร์ และคลินิกประจำสนามบิน เดินตรงออกไปเลยค่ะ

IMG_1764
ออกประตูนี้ค่ะ

ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพด้านขวา ด้านซ้ายจะเป็นจุดขึ้นรถทัวร์ค่ะ


ผ่านธนาคารกรุงไทย พนักงานฟังบรีฟเสร็จเพิ่งเลิกพอดีเลย

เดินไปสุดทางจะมีบันไดเล็กๆเลี้ยวลงด้านขวาติดกับตัวตึก เดินลงไปแล้วตรงต่อไปเลยค่ะ ใกล้จะถึงแล้ว

อย่าคิดว่าเป็นทางตันค่ะ ลงบันไดเล็กๆทางขวา แล้วตรงไปเลย
อย่าคิดว่าเป็นทางตันค่ะ ลงบันไดเล็กๆทางขวา แล้วตรงไปเลย

ตึกข้างหน้าที่ดูคล้ายๆจะเป็นทางรถวิ่งนั่นล่ะค่ะ เราจะถึงป้ายแรก คือ magic minimart ที่แม้จะเล็กสักหน่อย แต่มีของกินของใช้ราคาไม่แพง พอพึ่งพาได้อยู่ ใครลืมแปรงสีฟันยาสีฟัน จะซื้อสบู่ หรือหามาม่ากินเล่นๆ จอดป้ายนี้ได้เลยค่ะ

น้องนกก็ใช้บริการนะคะเนี่ย
น้องนกก็ใช้บริการนะคะเนี่ย

เดินไปอีกนิ๊ดเดียว จะเจอ magic food point ที่ดูเผินๆเหมือนจะปิด เพราะกระจกทึบมาก แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ร้านเปิดค่อนข้างเช้า ประมาณ 6 โมง และขายจนดึกเลยค่ะ เรียกว่ามาสองทุ่มยังมีลุ้น อาหารมีหลากหลาย ราคาเริ่มที่ 35 บาทกันเลยทีเดียว แต่ทั่วๆไปจะประมาณ 50-60 บาทค่ะ คุณภาพก็ตามรูปเลย เรียกว่าพึ่งพาได้ดีทีเดียว

กระจกมืดๆจะดูเหมือนปิดมากค่ะ แต่ถ้าไม่เกินสามทุ่ม มันไม่ปิดแน่ๆ เข้าไปได้เลย
กระจกมืดๆจะดูเหมือนปิดมากค่ะ แต่ถ้าไม่เกินสามทุ่ม มันไม่ปิดแน่ๆ เข้าไปได้เลย
ข้าวหมกไก่บิ๊กบู้มมมม เนื่องจากป้าจะปิดร้านแล้ว แหะๆ
ข้าวหมกไก่บิ๊กบู้มมมม เนื่องจากป้าจะปิดร้านแล้ว แหะๆ

 

ก๊วยเตี๋ยวต้มยำทะเล กุ้ง หมึก ปลา ลูกชิ้น มาเต็ม จมอยู่ในซุปอีกเพียบ ชามนี้แค่ 50 บาทเท่านั้น แช่บมาก เติมเกี้ยวได้ไม่อั้น ข้าวหมกไก่ หมกเนื้อ ในจานตรงข้ามก็เด็ดเวอร์ 50 เท่ากัน
ก๊วยเตี๋ยวต้มยำทะเล กุ้ง หมึก ปลา ลูกชิ้น มาเต็ม จมอยู่ในซุปอีกเพียบ
ชามนี้แค่ 50 บาทเท่านั้น แช่บมาก เติมเกี้ยวได้ไม่อั้น
ข้าวหมกไก่ หมกเนื้อ ในจานตรงข้ามก็เด็ดเวอร์ 50 เท่ากัน
สุกี้ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ
สุกี้ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ
ร้านเยอะแยะเลยค่ะ เลือกเอาตามสะดวก
ร้านเยอะแยะเลยค่ะ เลือกเอาตามสะดวก แต่อาจจะต้องเบียดกับทัวร์จีนนิดนึงนะ

ถ้าใครขี้เกียจเดิน ใน arrival hall ยังมีร้านกาแฟบางร้านที่มีอาหารง่ายๆ ข้าวกล่องขายด้วย กล่องละ 60 บาท ร้านนี่น่าจะคุ้นๆกันอยู่แล้วนะคะ อยู่ติดกับคิวเรียกแท็กซี่เลย ส่วนคุณภาพ เรายังไม่เคยลองค่ะ ติดใจ magic food point เลยไม่ค่อยได้ไปกินที่อื่น

ร้านนี้มีข้าวกล่องราคาเริ่มที่ 60 บาท เราว่าแพ้ที่ food court นะ แต่อาจจะเป็นที่พึ่งของคนขี้เกียจเดินได้ดี
ร้านนี้มีข้าวกล่องราคาเริ่มที่ 60 บาท เราว่าแพ้ที่ food court นะ แต่อาจจะเป็นที่พึ่งของคนขี้เกียจเดินได้ดี

 

8. LEFT BAGGAGE

ถ้าใครจะรอเครื่องนาน หรือต้องออกไปข้างนอกก่อน ที่นี่มีบริการฝากกระเป๋าค่ะ ใน arrival hall จะมีเคาท์เตอร์รับฝากอยู่ใกล้ๆกับลิฟท์ และบันไดเลื่อน ด้านทิศเหนือค่ะ เดินออกมาเลี้ยวขวาทางเดียวกับไป magic food point เลย ค่าบริการวันละ 75 บาทค่ะ

ฝากกระเป๋ามองหาเคาท์เตอร์นี้ได้เลย
ฝากกระเป๋ามองหาเคาท์เตอร์นี้ได้เลย
เวลาทำการตามนี้ค่ะ
เวลาทำการตามนี้ค่ะ

จบแล้วค่ะ สำหรับ survival guide ในสนามบินดอนเมือง ไว้วันที่ 24 ธค. 2015 terminal 2 เปิด จะมาอัพเดทให้อีกน้าาาา

ใครรู้อะไรดีๆในสนามบินดอนเมืองอีกอย่างลืมบอกกันบ้างนะคะ

 

ติดตามตอนต่อไปได้ทาง http://travel.sanook.com/blog/author/earnonabudget/

และอย่าลืมแวะมาคุยกันที่เพจ www.facebook.com/earnonabudget นะค้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook