รีวิว อาหารไทยแนว Street food ในโรงแรมที่แซ่บมาตั้งแต่เชฟ! ราคาเริ่มต้นจานละ 95 บาท! มีที่นี่ที่เดียว Metro on Wireless@Hotel Indigo Bangkok Wireless Road
วันนี้ชุ้งชิ้งมีร้านอาหารไทยแนว Street food ในโรงแรมมาฝากค่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณลุงอ้วนที่ชวนมาร้าน Metro on Wireless ห้องอาหารของ โรงแรม Indigo ถ.วิทยุ โรงแรมนี้อยู่ใกล้ๆกับพลาซ่า แอทธินีเลย ขอบอกเลยว่าเกินความคาดหมายของตัวเองไปมากจิงๆ ก่อนมาก็คิดว่าจะเป็นร้านอาหารไทยในโรงแรมที่มักจะต้อง drop รสชาติจัดจ้านลง แต่ทันทีที่จานแรกเสิร์ฟออกมา ชุ้งชิ้งยิ้มแฉ่งเลยจ้า คือสะดุดตาตั้งแต่ภาชนะ เห็นสีสันจัดจ้าน เห็นรสนิยมของเชฟว่าต้องเป็นคนขี้เล่น เฟี้ยวฟ้าวแน่ๆ และทันใดนั้นเอง เชฟจิมมี่ ก็เดินแบบออกมาทักทาย ชิ้งนี่กรีสสสสสสสสสสสสสสสเลยค่า เชฟอัลไล ทำไมถึงแซ่บได้ขนาดเน้! ชอบอ่ะ 555 entertain ลูกค้าชนะเลิศ ดิไอดอลหนูเลย อิอิ
มาจานแรกเลยน้า เป็นประมาณออเดิร์ฟจ้า ใส่ถาดสังกะสีแจ่มๆมาแบบนี้เลย ซึ่งมี หมูสะเต๊ะ ลุยสวน ปอเปี๊ยะเป็ด และ ใบชะพูห่อแหนมคลุก ตัวปอเปี๊ยะ ทีแรกฟังว่าเป็ดก็คิดว่าคงเคี้ยวยาก แต่ที่ไหนได้ เป็นเป็ดบดจ้า นุ่มๆเลย หอมพริกไทยดำฉุยๆเลยน้า อร่อยค่ะ เสิร์ฟมาพอกรุบกริบ ไม่เยอะไป เลยเรียกน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียว
ถัดมาเป็น ไก่ห่อใบเตยค่ะ เมนูนี้ค่อนข้างหาทานยากแระ วันนี้เสิร์ฟเก๋ๆมาในตะกร้าสาน พร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ แบบแรกก็เป็นน้ำจิ้มสีดำหวานๆเหมือนทั่วไป และน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย ซึ่งเชฟก็เข้าใจนำมาเสิร์ฟคู่กัน เพิ่มความน่าสนใจค่ะ ตัวไก่เป็นชิ้นใหญ่เป้งเลย หอม แต่นุ่มทั้งคำ
เมนูนี้ก็หาทานยากค่ะ รู้จักหรือเคยกินกันอ๊ะป่าวว่า? เมนูนี้คือ ยำส้มโอ จ้า เชฟเลือกส้มโอเก่ง ฉ่ำและไม่ขมเลย ยำมารสชาติทั้งเปรี้ยวหวานกำลังดี กินแล้วสดชื่นกันปายยยยย ^___^
จานนี้ทีเด็ดเลยจ้า หมูคลุกฝุ่น เสิร์ฟมาในถาดแบบยังไม่ยำ พอมาถึงโต๊ะ พนักงานจะถามว่าทานเผ็ดรึเปล่า จากนั้นก็เติมพริกป่นเข้าไปค่ะ ปิดฝาแล้วเชคๆ ต่อหน้าเรา จากนั้นค่อยเทลงในชามที่มีผักรอง ซึ่งหมูปรุงรสมาพอดี นุ่มมากๆจนต้องถามเคล็ดลับจากเชฟ ซึ่งเชฟก็ใจดี ยอมตอบด้วยว่าหมักนมมาค่ะ หอมข้าวคั่ว พอเผ็ดกินกินผักที่แนมมา Perfect combination ตระการทั้งสายตาและรสชาติค่ะจานนี้
สลัดอกไก่ ค่ะ ที่เห็นแดงๆนั่นไม่ใช่พริกนะจ๊ะ แต่มันคือเม็ดทับทิม ส่วนอกไก่นั่นผ่านการซูวีมา นุ่มจนต้องตกใจ ชุ้งชิ้งรับรอง!
ข้าวสวยที่อื่นเสิร์ฟยังไงไม่รู้ แต่ที่ Metro on Wireless เค้าเสิร์ฟมาแบบนี้จ้า จะเลือกข้าวขาว หรือข้าวไรส์เบอรี่ หรือจะเอาทั้ง 2 ข้าวเลยก็เลือกเอาตามใจกันไปค้าบบ
เมนูนี้เข้าใจง่าย กุ้งแม่น้ำย่าง+น้ำจิ้มซีฟู้ด ค่า เค้าผ่าแบะกุ้งมาแบบนี้ชื่นใจเจงๆ กินสะดวก แป๊บเดียวหมด 555
แกงเผ็ดเป็ดย่าง สูตรเชฟเอียน จ้า รสชาติกลมกล่อม มีใส่ผลไม้อื่นๆเข้ามาเพิ่มมูลค่าด้วย อาทิ แอปเปิลเขียว ลิ้นจี่ เมนูนี้เวลาไปกินที่ต่างประเทศแพงมั่กๆ โชคดีเราอยู่ประเทศไทย ถ้าไม่มีเป็ดย่าง แนะนำให้ลองใช้หมูย่างเอาค่ะ ก็อร่อยน้า เคยทำแร้น ^___^
เนื้อวากิวย่างจิ้มแจ่ว สั่งระดับความสุกได้นะคะ เลยขอแบบ Medium ไป ก็ได้ Medium มาสมใจ เนื้อนุ่มๆ หั่นมาบางพอดี๊ กินกับแจ่ว ฟินเฟ่อร์ๆ จานนี้กินไปครึ่งนึงคนเดียวเลย กรีสสสสสสสสสสสส ค่อยไปรู้สึกผิดเช้าวันรุ่งขึ้นเอาค่ะ ^ ^’
ปลาหิมะราดซอสกระเพรา ตัวปลาสุกมาพอดีเลยค่ะ นุ่มจนแทบจะละลายในปาก สด ส่วนซอสกระเพรารสชาติจัดจ้านเลยนะคะ จานนี้ลุงอ้วนชอบมากกกกกกกก 555
จานนี้คือ เนื้อแกะผัดฉ่า ค่ะ เช่นกัน เราสามารถเลือกความสุกของเนื้อแกะได้ ซึ่งก็เลือก Medium ไปเหมือนเดิม หั่นออกมาเนื้อเลยเป็นสีชมพูสวยงามอย่างที่เห็น นุ่มค่ะ และไม่มีกลิ่นคาวเลย แป๊บเดียวก็หมดจานแม้หอมใหญ่ยังไม่เหลือ เอิบ... -.-‘
จานนี้คือ คั่วกลิ้ง ค่า ชอบที่เค้าโปะไข่ดาวมาแบบนี้ เพราะมันเข้ากันดีเชียว ว่าแต่ทำไมไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน 555
ต้มแซ่บหอยเชลล์ ร้อนๆมาเสิร์ฟแล้วจ้า น่าสนใจที่ใช้หอยเชลล์นี่แหล่ะ ทำให้เพิ่มมูลค่าทางจิตใจไปอีกหลายขั้นเลยทีเดียว
อาหารแนว street food จะขาด หมี่กรอบ ไปได้อย่างไร? ชิ้งเป็นคนแพ้เต้าหู้ค่ะ คือเห็นไม่ได้ ต้องกิน ทันใดนั้นเองก็คิดขึ้นมาได้ว่า ตลกดี นี่เรานั่งกินหมี่กรอบในร้านอาหารสวยๆระดับนี้อยู่รึเนี่ย 555 เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติดีจีจี
มาถึงของหวานกันบ้างนะคะ เมนูแรกนี่ยอมรับว่าใช้ชีวิตมา 26ปี (แต่ฝากไว้กับธนาคารอีกกี่ปี เค้าไม่บอกนะ 555) เพิ่งเคยเห็นค่ะ เมนูนี้มีชื่อเก๋ๆว่า ข้าวกระยาคู เค้าว่ากันว่าเป็นขนมที่ทำถวายพระพุทธเจ้า เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับท้อง แก้หิวกระหาย ชูกำลัง และแก้อาการอ่อนเพลีย บางกระแสบอกว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ทุกวันนี้ข้าวกระยาคูเป็นหนึ่งในขนมไทยที่หาทานยากแล้ว ทำจากน้ำข้าวยาคูจากข้าวอ่อน texture เค้าจะนุ่มๆ หอมใบเตยมั่กๆ หวานอ่อนๆ พอกินกับน้ำกะทิที่เค็มนิดๆ อร่อยลงตัวค่ะ
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย เครปกล้วยหอม จานนี้จ้า อาหย่อยๆ ^____^
จริงๆแล้วร้านอาหาร Metro on Wireless มีอาหารไทยประมาณ 80% และอาหารต่างชาติอยู่ 20% ค่ะ มีเครื่องดื่มให้เลือกเยอะเลย ทั้งไม่มีแอลกอฮอล์และที่มีแอลกอฮอล์ ไวน์ลิสก็มี แชมเปญก็มีน้า แอบเล็ง Free Flow เอาไว้ค่ะ อิอิ
มาลองชมบรรยากาศสวยๆในร้านดูนะคะ
หลังจากได้มาสัมผัส ชิ้งรู้สึกว่าของดี ราคาไม่แพงมีอยู่ในโลกใบนี้จิงๆ ดีใจที่ได้มารู้จักค่ะ ร้านก็สวยมากกกกกกกกก เชฟก็ฝีมือดีมากกกกกกกกกกกกก เชฟจิมมี่มีประสบการณ์เป็นเชฟในร้านอาหารไทยระดับ High-end อย่างร้านอาหาร ศิวดล โรงแรมสุโขทัย มาหลายปีค่ะ พอมาเป็นเชฟที่นี่ได้รับโจทย์ให้มาทำอาหารแนว Street food ทีแรกเชฟบอกว่าแอบเครียด 555 แต่หนูว่าเชฟสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจค่ะ อาหารทุกจานต้องมีความฟิน ความเก๋ ความโดดเด่น แสดงตัวตนของเชฟที่ขี้เล่นออกมาเต็มๆเลยฮะ! อ้อ ร้านอาหารนี้เค้าเน้นขายเซ็ตเมนูช่วงกลางวันให้พนักงานออฟฟิศแถวๆนั้นนะคะ ราคาอยู่ที่เซ็ตละ 229 มีชุดน้ำพริกเสิร์ฟในปิ่นโตเก๋ๆวางที่โต๊ะเป็น complimentary ด้วยแหล่ะ ไว้ต้องมาลอง
ไหนๆมาถึงโรงแรมแล้ว พาไปเดินดูห้องพักและบรรยากาศรอบๆซักเล็กน้อยนะคะ Hotel Indigo Bangkok Wireless Road เป็นโรงแรมแนวบูทีค ที่มีความเก๋ในทุกรายละเอียดเลย แต่ละชั้นก็มีความแตกต่าง คนที่ดีไซน์ช่างละเอียด ช่างคิด ช่างพิถีพิถัน รู้สึกว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์จากสิงคโปร์ ที่ประทับใจที่สุดก็ตรงหน้าโรงแรมค่ะ ลายตรงกระจกอ่านเป็นภาษามอสว่า Hotel Indigo Bangkok Wireless Road ที่ประทับใจรองลงมาเล็กน้อยก็คือสระว่ายน้ำที่เปิดโล่ง เห็นวิวของถ.วิทยุแบบแจ่มๆไปเลย ส่วนรีวิวโรงแรมฉบับเต็ม ไว้ขอมานอนพักซักคืนก่อนน้า แล้วจะมาเล่าให้ฟังจ้า วันนี้ไปแระ บะบาย...