Don’t Miss List! ของชุ้งชิ้งเมื่อมาเยือนเชียงใหม่ จะมีร้านอาหารอะไร? สถานที่ไหนติดโผบ้างน้า? แถมพาไปรู้จักนักแข่งหน้าตาน่ารักๆ และเรียนรู้วิธีขับขี่อย่างปลอดภัยที่งาน Toyota Motorsport
ชุ้งชิ้งไม่ได้ไปเยือนเชียงใหม่นานแล้วเจ้า ทริปนี้เลยทำการบ้านมาดีพอสมควร ลิสไว้หมดแล้วค่ะว่าอยากไปไหนบ้าง กินร้านอะไรบ้าง เดี๋ยวเพื่อนๆมาลุ้นกันดูนะคะ ว่าร้านอาหารร้านไหน และสถานที่ใดบ้างที่จะชนะใจ จนสามารถเข้าไปอยู่ในลิส Don’t miss ของชิ้งได้บ้าง ^___^ วันที่ออกเดินทาง ไปกับนกแอร์ค่ะไฟล์ท 3 ทุ่มครึ่ง
ต้องบอกว่าทันทีที่ถึงสนามบินเชียงใหม่ รู้สึกว่าเมืองนี้ friendly จุง ค่าแท็กซี่เอย ค่ารถแดงเอย ไม่ยักก่ะแพงเหมือนเมืองท่องเที่ยวทางภาคใต้เลยน้า ชื่นใจจัง ^___^ วันนั้นโบกแท็กซี่ไป อุ๊ยตายคันละ 150 บาทเท่านั้น ก็มาถึงที่โรงแรม DusitD2 แล้ว โรงแรมนี้อยู่ในตัวเมืองค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสนามบินเท่าไหร่ เดินทางสะดวก ห้องสวย เตียงนุ่ม และน่านอนดังภาพ แถมอาหารเช้าคือดีงาม จนต้องจัดเต็มทุกเช้าเบย ^___^
ขณะนั้นเป็นเวลา 5 ทุ่ม! อย่าคิดว่าชิ้งจะอาบน้ำนอนนะคะ ที่ไหนได้รีบเติมแป้ง ปัดแก้ม เซ็ตผมแล้วออกไปหาอะไรอร่อยๆกินต่อเลยจร้า ไม่ใช่อะไร พอดีตารางแน่นมากค่ะ กลัวกินและไปไม่ครบตามที่ลิสมา ^ ^’
ร้านแรกที่จะไปคือ ร้านซุ้มเฮียฮ๋ง สาขาแม่โจ้ ซึ่งเป็นสาขาที่เพิ่งย้ายมาใหม่ใหญ่กว่าเดิม เพราะร้านนี้เปิดถึงดึกค่ะ ชิ้งขอให้ทางโรงแรมช่วยเรียกรถแดงให้ คำเตือน! ต้องสื่อสารให้ดีนะคะ ว่าจะไปที่สาขาใหม่ มิฉะนั้นคนขับรถอาจพาไปสาขาเดิมที่ปิดไปแล้ว คืนนั้นเลยนั่งรถเวียนหาอยู่นานเลย อ้อ! เนื่องจากดึกแล้ว เราสามารถขอให้พี่คนขับรถจอดรอรับเรากลับโรงแรมได้นะคะ
แม่เจ้า! ขนาดดึกแล้วคนยังแน่นร้านเลยค่ะ คืนนั้นฝนตกปรอยๆ ยังต้องยืนต่อคิวรอนะจ๊ะ เฮียฮ๋งบอกว่าปรกติต้องรอคิวนานกว่านี้ อี๊ก! พอดีฝนตก คนเลยไม่เยอะเหมือนทุกวัน ระหว่างยืนรอ เราก็จะได้ยินเสียงเฮียฮ๋งเจ้าของร้านตะโกนโหวกเหวกเป็นระยะๆค่ะ แก้ง่วงดี 555 คือเฮียเค้ามีลีลาที่กวนๆ แต่ทุกคนแทนที่จะกลัว กลับขำและติดใจในลีลาเฮียกันทั้งนั้น จนต้องไปขอถ่ายรูปกับเฮียกันใหญ่ แฟนคลับเฮียนี่ตรึมราวกับมาริโอ้มาเองนะฮะ ไม่ธรรมดา 555
ร้านนี้เป็นร้านขายบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงชามใหญ่ยักษ์มหึมาสะท้านฟ้าค่ะ คือจานไซส์ปรกติก็มีน้า แต่เท่าที่เห็น ทุกโต๊ะสั่งจานยักษ์ทั้งน้าน มาลองฟังชื่อเมนูของทางร้านนี้กันค่ะ ฮาดี! 555 เริ่มจาก...
จานธรรมดาใส่บะหมี่ 2 ก้อน
จัมโบ้ 4 ก้อน
โคตรจัมโบ้ 12 ก้อน
โคตรโง่ 24 ก้อน
คุ้มเห้ 36 ก้อน
เ_ดเข้ 48 ก้อน
พ่อมึ_ตาย 60 ก้อน และ
ตามหาพ่อ 84 ก้อน
วันที่ไปๆกัน 6 คน เฮียเลยแนะนำ "คุ้มง่าวๆ" เป็นเซ็ตเมนู ซึ่งประกอบไปด้วย “โคตรโง่” เป็นบะหมี่ 24 ก้อน+ซุปกระดูกหมู 2 ถ้วย+น้ำแข็งใส 2 ถ้วย เซ็ตนี้ 450 บาท หารกันออกมาตกคนละ 75 บาทเอง แต่รู้สึกเหมือนกินไปคนละ 570บาท 555 เพราะชามมันใหญ่มาก หนักมาก กินแล้วแน่นมากค่ะ
โฉมหน้าเฮียฮ๋งเจ้าของร้านคนดังค่ะ
ตอนแรกพวกเรา 6 คนหนักใจกันมากเพราะกัวว่าจะกินไม่หมด แต่สุดท้ายก็หมดเกลี้ยงเลย >.< ในฐานะแม่ครัว ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ การจะลวกเส้นบะหมี่ถึง 24 ก้อนเนี่ย เค้าต้องใช้หม้อใบใหญ่ ทยอยๆลวกบะหมี่กว่าจะครบ 24 ก้อน ไหนจะผักอีก แถมต้องมานั่งบรรจงจัดจานให้สวยงามอย่างที่เห็นอีก งานปราณีตนะนั่น ในขณะที่ลูกค้าก็แน่นร้านเลย ถือว่าอาหารออกไว บริหารจัดการดีค่ะ
แว๊บแรกที่เห็น ประทับใจในความอลัง แถมจัดจานมาซะสวยงามเลย พอชิมก็ต้องชมว่า ลวกเส้นมาได้พอดี ไม่แข็งและไม่เละไป ตัวหมูแดงก็ฉ่ำ ไม่แห้งเหมือนร้านบะหมี่ข้างทางทั่วไปค่ะ เกี๊ยวก็อร่อยดี น้ำราดก็เจ้มจ้น ออกหวานๆ เหมือนน้ำราดหน้าหมูแดง แต่ที่ทุกคนชอบที่สุดเลยคือน้ำซุปถ้วยบะเร่อที่เสิร์ฟมาด้วย เค้าให้กระดูกหมูชิ้นเป้งๆมาเลยนะคะ แทะกันมันส์ไปจิ๊ ชิ้งแอบคำนวนต้นทุนวัตถุดิบที่ทางร้านใช้นะคะ ยอมรับว่าถ้าต้องขายในราคานี้จิงๆ ชิ้งเองก็คงไม่สามารถทำให้อร่อยมากกว่านี้ได้อีกแล้ว เฮียเค้าเหยียบสุดจิงๆค่ะ ข้าน้อยนับถือๆ คืนแรกที่เชียงใหม่น่าประทับใจจุงเบย นอนแระ พรุ่งนี้ค่อยลุยกันต่อค่า ^___^
หลังจากกินอาหารเช้าราวกับราชาแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่งาน Toyota Motorsport ค่ะ ต้องบอกว่านี่คือการมาร่วมงานเป็นครั้งที่ 2 ของชิ้ง หลังจากไปรอบที่ภูเก็ตมาแล้ว ชุ้งชิ้งต้องขอขอบคุณทาง Toyota นะคะที่เชิญชิ้งมาร่วมงานอีกครั้ง เอาจริงๆถึงไม่เชิญก็แพลนว่าจะมาอยู่แล้วค่ะ เพราะอยากมาเชียร์เพื่อนนักแข่งที่ได้รู้จักจากทริปที่แล้ว ^__^ แถมสนามก่อน ชิ้งพลาดกิจกรรมดีๆไปหลายอย่างด้วยค่ะ ครั้งนี้เลยมาอย่างคนมีประสบการณ์ มีการทำการบ้านมานะจ๊ะ คือทำ schedule มาจากบ้านเลย ว่าเวลานี้ๆอยากไปร่วมกิจกรรมอะไรในงาน Toyota Motorsport บ้าง พอช่วงไหนว่างก็จะรีบแว่บออกไปปฏิบัติภารกิจพาเพื่อนๆตระเวณกินและเที่ยวตาม Don’t miss list ที่มีไว้ในใจ ดังนั้นเพื่อให้การรีวิวครั้งนี้ smooth ไม่สับสน ชุ้งชิ้งจะขอรีวิวเป็นเรื่องๆไปค่ะ ไม่งั้นเพื่อนๆต้องงงแน่ๆ เพราะเดี๋ยวไปโผล่นั่น เดี๋ยวไปโผล่นี่ 555
ชิ้งว่าชิ้งพาเพื่อนๆมาเดินเที่ยวที่ตลาดบ้างดีกว่า เพราะชิ้งช้อบชอบ ^___^ คือชิ้งเป็นคนชอบเรียนรู้ผู้คน ดูวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ สำหรับชิ้ง มันมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกค่ะ งั้นเริ่มจากตลาดแรกนะคะ
“ตลาดรวมโชค”
ตลาดรวมโชคจะมี 2 โซนค่ะ ด้านนอกจะขายพวกผักพื้นบ้านที่มาวางขายเต็ม 2 ข้างทาง ต้องบอกว่าวัตถุดิบบางอย่างก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ส่วนโซนด้านในตลาดจะขายของกินเพียบ ตั้งแต่รถด่วน แมลงทอด ไส้อั่ว แคปหมู น้ำพริก ฯลฯ ซึ่งคนเหนืออัธยาศัยดีนะเจ้า ยิ้มแย้ม ใจดี น่ารักขนาด ^ ^
ถัดมาค่ะ ไป "ตลาดวโรรส” กานนนนนนน
ตลาดวโรรสมีบรรยากาศเรียบง่าย ที่นี่มีผลไม้น่าสนใจหลายอย่างเลยค่า แต่ชุ้งชิ้งอยากขึ้นรถ3ล้ออ๊ะ ^ ^
ขอคั่นอารมณ์ด้วยอาหารอร่อยบ้างค่ะ กับชื่อร้านโป๊ๆที่ชื่อว่า ร้านโอ้กะจู๋ ^ ^ คือเจ้าของร้านชื่อว่าคุณอู๋กับคุณโจ้ ก็เลยจับชื่อของทั้ง2คนมารวมกันแล้วเล่นผวนคำ ก็เลยออกมาเป็นโอ้กะจู๋
ร้านโอ้กะจู๋เป็นร้านดังค่ะ บรรยากาศดี น่านั่ง ร้านใหญ่ด้วย ก็ไม่น่าแปลกที่จะต้องต่อคิวอีกแล้วจ้า แต่ทางร้านน่ารัก เค้าเตรียม welcome drink ไว้ให้ดื่มขณะที่นั่งรอด้วยค่ะ ความเก๋ของร้านนี้น่าจะอยู่ที่มีการปลูกผักออร์แกร์นิคเองที่ด้านหลังร้าน แถมอนุญาตให้เราเดินลงไปถ่ายรูปด้วยนะคะ ดังนั้นทันทีที่สั่งอาหารเสร็จ ไม่รอช้า รีบดอดไปแชะภาพกับน้องผักสดทันที ^___^
มีเพื่อนดีมีชั้ยไปกว่าครึ่ง ^__^ เพราะทันทีที่อาหารมา มีเดินลงมาตามจ้า ไปเหอะๆ ชักหิวแย้ว
อาหารหน้าตาดีมากกกกกกกกกก กรีสสสสสสสสสสส และจานก็ใหญ่มากกกกกกกกกกกกกก แบบนี้ถ้าไปกัน 4 คน อาจจะสั่งซัก 3 จานพอค่ะ เริ่มจากจานแรก
สลัดปูนิ่มพร้อมลงไปอยู่ในท้องแล้วค่า ^___^ ทางร้านทอดมาใหม่ๆกรอบๆเลย ถ้าเพื่อนๆอยากได้ปูนิ่มชุบแป้งทอดแบบนี้ ก็แค่ปรุงรสแป้งทอดกรอบด้วยผงปรุงรส พริกไทยป่นเล็กน้อย แล้วผสมน้ำเย็น จากนั้นก็นำปูนิ่มลงไปชุบ แล้วกางแขนกางขาปูให้แผ่ออก แล้วทอดในกระทะน้ำมันพอท่วม ไม่ต้องใช้ไฟแรงมากนะคะ ทอดไปจนเหลืองกรอบเลยค่า ทางร้านเสิร์ฟมาพร้อมน้ำสลัด 2 แบบ ตัวปูนิ่มน่าจะเหมาะกับน้ำสลัดแบบข้น ส่วนผักน่าจะเหมาะกับน้ำสลัดแบบใส กินแนมกับผักสดกรอบๆ ดีงามอ๊ะ ^___^
เสต็กปลาอัลมอนด์กรอบ เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้านค่ะ ปลาที่ใช้คือปลาดอรี่ ทอดในน้ำมันข้าวโพด คือหอมอัลมอนด์ดีค่ะ เวลากัดจะได้สัมผัส texture นุ่มๆของปลา และ texture กรอบๆของตัวอัลมอนด์ในคำเดียว ซอสมิโสะที่ให้มาก็เข้ากันดี อร่อยได้มาตราฐาน ^___^
สลัดแซลม่อนซาชิมิกับมะม่วงน้ำดอกไม้ จานนี้ชิ้งชอบเลยค่ะ รสชาติจัดจ้านประมาณยำ พอเจอกับมะม่วงน้ำดอกไม้และอะโวคาโด้เข้าไป มันช่างสดชื่นลงตัว จานนี้เลยซัดไปเยอะเป็นพิเศษ อิอิ
เสต็กแฮมราด apple sauce แฮมรมควันเนื้อนุ่มดีค่ะ ได้กลิ่นย่างหอมๆออกมานิดนุงด้วย ราดแอ๊ปเปิ้ลซอสที่ออกหวานๆ ก็ชื่นใจดีค่า
เสต็กซี่โครงสะพานโค้ง ราดซอสบาร์บีคิว จานยักษ์
เสต็กไก่ห่อไส้ชีส เมนูนี้ก็ชอบอีกแย้ว คือเค้าทอดมาร้อนๆ ด้านนอกกรอบ พอกัดโดนชีสด้านในแล้วฟิน mash potato อร่อยอ๊ะ มันนวลเนียน ก็เลยตักแล้วก็ตักแล้วก็ตักเข้าปาก แหะ แหะ
ปิดท้ายอาหารคาวด้วยสลัดผลไม้จานนี้ค่ะ มาดูเมนูน้ำ และขนมบ้างนะคะ
พุดดิ้งอัญชัน อร่อยดีค่ะ หวานไม่มาก สีสวยเน๊าะ
นอกจากนี้ทางร้านยังมีพวกเค้กไว้ให้บริการด้วยนะคะ สีสันยั่วยวนไม่ใช่น้อย ^____^
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ก่อนจะนอนมาต่อกันด้วยร้านอาหารพื้นเมืองร้านนี้ค่ะ ข้าวซอยนิมมาน
ร้านนี้เป็นร้านที่ตกแต่งสวยงาม เมนูเด็ดคงหนีไม่พ้นข้าวซอยสินะคะ ^_____^ ซึ่งทางร้านมี topping ให้เลือกเยอะมากกกกกกกก เป็น 10 อย่างเลยค่ะ งั้นขอเลือกข้าวซอยซุปเปอร์โบลว์แล้วกันเน้อ ซึ่งสามารถเลือก topping ได้ 4 อย่าง หลังจากนั่งทะเลาะกับเพื่อนอยู่ซักพักหนึ่ง สุดท้ายลงตัวที่ไข่เจียว หมูกรอบ กุ้ง และไส้อั่วคร่า 555
คำเตือน! โปรดระวังน้ำลายไหลนะค้า ^ ^’
ข้าวซอยซุปเปอร์โบลว์ชามนี้ 129 บาทค่ะ ถ้าสั่งแค่หน้าเดียวราคาอยู่ที่ชามละ 65บ.-75บ. ถือว่าไม่แพงเลยนะคะกับร้านอาหารสวยๆแบบนี้ ^____^ ข้าวซอยรสชาติดี ส่วนตัวอยากให้เจ้มจ้นมากกว่านี้อีกค่ะ แต่ก็แล้วแต่คนชอบ อยากบอกว่าเส้นบะหมี่แบนๆที่เรียกว่า เส้นเปาะ แบบนี้แหล่ะถึงจะเหมาะสมกับข้าวซอย สำหรับเพื่อนๆที่อยากทำหมี่กรอบ ก็แค่ตั้งน้ำมัน แล้วใส่เส้นบะหมี่ลงไปทอดค่ะ แต่อย่าใช้ไฟแรงน้า ไม่งั้นจะไหม้ซะก่อน ทอดใหม่ๆกินตอนร้อนๆ หัวใจบอกเลยว่าใช่! อิอิ ถือว่าทางร้านไอเดียดีที่เพิ่มหน้าต่างๆเข้าไป ทำให้ข้าวซอยน่าสนใจมากขึ้น แต่ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆให้บริการนะคะ ไม่ได้มีแค่ข้าวซอยอย่างเดียว
ชุ้งชิ้งขอกดปุ่ม forward ไปเช้าวันใหม่เลยค่า วันนี้ไปเที่ยวซุปเปอร์มาร์เก็ตเก๋ๆที่ชื่อว่า *ริมปิง* กานนนนนนนน J เชื่อมั้ยว่าเป็นสถานที่ลำดับต้นๆที่เข้ามาอยู่ใน Don’t miss list ของชิ้งเลยน้า ก็แหมเค้าเป็นแม่ครัวนินา คริคริ
ได้ยินกิตติศัพท์ของริมปิงมานาน ในที่สุดได้มาเยือนกับเค้าซักทีค่ะ ริมปิงเน้นขายพืชผักออร์แกนนิคค่ะ และวัตถุดิบที่ค่อนข้างหายากต่างๆ แต่ของไม่แปลกก็มีขายนะคะ 555
ไม่เพียงแต่พืชผักผลไม้ออร์แกนนิคเท่านั้น ของทะเล กุ้งตัวโตๆ หอยเชลล์ตัวหย่ายๆก็มีขายค่า
มาดูมุมเนื้อดูบ้างค่า มีเนื้อนำเข้าให้เลือกซื้ออยู่พอสมควร ขาหมูเผานี่ก็ trim มาซะงามเลยแล้ว wrap พลาสติกไว้ดูถูกสุขลักษณะฝุดๆ ไก่ทั้งตัวแบบล้วงไส้ออกก็มีนะจ๊ะ ^___^
ริมปิงมีหลายสาขาทั่วเชียงใหม่ค่ะ เสียดายที่ไม่มาเปิดที่ กทม.บ้าง สาขาที่ไปในวันนั้นอยู่ที่ มีโชคพลาซ่า ค่ะ
มาถึงตอนนี้เหลืออีกแค่ 3 topics ที่จัดอยู่ใน Don’t miss list! ของชิ้งแล้วค่ะ งั้นไปกันต่อกันเลยนะคะ ^___^ กับอาหารล้านนาที่ร้าน เรือนคำอิน ร้านนี้เจ้า จิงๆคือมากินเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะตรงดิ่งไปสนามบินค่ะ นั่งกินไปก็ลุ้นไปเพราะเวลาเฉียดมากกกกก ถือว่าเป็นมื้อเสียวมื้อนึงในชีวิตเลยนะ เพราะลุ้นกันหมดทุกคนยันแม่ครัวและพนักงานเสิร์ฟ 555
ซุบมะเขือร้อนๆมาเสิร์ฟแล้วค่ะ ใครรักสุขภาพ ใครกลัวอ้วน แนะนำเมนูนี้เลยจ้า ชิ้งชอบผักนุ่มๆแบบนี้เลย กินแล้วยาวๆกันไป เพราะหยุดไม่ได้แย้ว ^ ^’ ชามนี้อาจจะคล้ายๆแกงเลียงในภาคกลาง แต่ชิ้งว่าซุบมะเขือชามนี้อร่อยกว่ามากค่ะ เนี่ยพูดแล้วยังอยากกินอีกเลย งื้อ! น้ำลายหก ส่วนไส้อั่วก็อร่อยค่ะ หอมเครื่องเทศ กินแนมกับพริกและผักสดต่างๆ ถึงกับฟินเลยค่า
เห็ดหอมทอด น้ำจิ้มซีฟู้ด
ลาบคั่ว จานนี้อร่อยจนต้องสั่งมาเบิ้นค่ะ แตกต่างจากลาบภาคกลางนะคะ จานนี้ออกจะแห้งๆ รสชาติเจ้มจ้น หอมสมุนไพร เพิ่มความอร่อยด้วย texture กรอบๆจากหอมแดงเจียว จะกินเปล่าๆ หรือจกกับข้าวเหนียว หรือจะห่อผักก็อร่อยทั้งน้านนน
เป็นครั้งแรกของชิ้งเลยค่ะที่ได้กิน แกงโฮะ แกงโฮะคือประมาณมีอะไรเหลือๆก็ใส่ๆเข้าไป มีวุ้นเส้นด้วยนะคะ รสชาติอร่อยค่ะ กลมกล่อมเลย จานนี้เลยกินไปเยอะเหมือนกัน ^___^
ไหนๆ มีใครตอบได้อ๊ะเป่าว่าเมนูนี้คือเมนูอัลไล? เวลาน้อย ขอเฉลยเลยแล้วกันค่า 555 จานนี้เค้าชื่อ ม้าฮ่อ ค่ะ เป็นอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากแล้ว ด้านบนเป็นหมูบดรสชาติหวานๆเค็มๆคล้ายๆสาคูไส้หมูค่ะ ด้านล่างเป็นสับปะรด ถือว่าเป็นเมนูทานเล่นที่เรียกน้ำย่อยได้ดีนะคะ
ร้านเรือนคำอิน เป็นร้านอาหารในรีสอร์ตค่ะ บรรยากาศร้านสวยงาม เป็นประมาณบ้านล้านนา พนักงานยิ้มแย้ม บริการดี ใครผ่านไปแถวนั้น ลองแวะทานดูนะคะ
เอาหล่ะค่ะมาถึงสถานที่สุดท้ายที่ชิ้งประทับใจที่สุดเลย ก่อนจะพาไปเที่ยวงาน Toyota Motorsport
*ถนนวัวลาย*
ถนนทั้งเส้นเต็มไปด้วยของขายเต็มไปหมดเลยค่ะ ตั้งแต่เสื้อผ้า ของแต่งตัว แต่งบ้าน ยันของกิน เดินแล้วชิวดีจิงๆเลย
แต่สิ่งที่ทำให้ชิ้งประทับใจที่สุดเลยคือนักร้องมืออาชีพวงนี้ค่ะ
พี่ๆเค้าร้องเพลงเก็บตะวันพอดี ร้องเพราะเลยค่ะมีไลน์ประสานเสียงกันด้วยน้า น่าร้ากกกก ^___^ แถมช่วยกันเล่นเครื่องดนตรีกันทั้งวง หลายๆคนต้องเล่นเครื่องดนตรีมากกว่า1ชิ้นซะด้วยซ้ำ ตัวชิ้งและเพื่อนๆถึงกับหยุดเดินเพื่อชมการแสดงของวงพี่เค้าอย่างตั้งใจ ดูไปขนลุกไปค่ะ เพราะถึงแม้พี่ๆเค้าจะมองไม่เห็น แต่เค้าดูมีความสุข เค้ายิ้ม เค้าสนุกตลอดการร้องเพลงเลย เราซะอีก มีครบทุกอย่างแล้วสู้เท่าพวกพี่เค้ามั้ย? คิดได้แบบนี้ทำให้หัวใจดวงน้อยๆของชิ้งพองโตขึ้นมาเลยค่ะ ทันทีที่เพลงจบลง เสียงปรบมือจากคนระแวกนั้นก็ดังกระหึ่มขึ้น ปลื้มใจแทนพวกพี่ๆเค้าจัง ^___^
จึงไม่น่าแปลกเลยที่มีคนเดินเข้าไปขอสนับสนุนวงพี่เค้ากันไม่ขาดสาย สร้างรายได้ๆเยอะเลยค่า ^ ^ อ้อ! เราสามารถ request เพลงได้ด้วยนะคะ มีคนเดินเข้าไปขอเพลง หยุด ของ groove rider ด้วย ชุ้งชิ้งบอกตรงๆว่าอยากเต้นเลยอ่ะ อิอิ ใครกำลังท้อแท้ ใครต้องการกำลังใจ หรือใครอยากชมการแสดงดีๆ แวะไปชมและให้กำลังใจวงพี่เค้ากันนะคะที่ถนนวัวลายจ้า
และแล้วก็มาถึง High Light ของทริปเชียงใหม่สำหรับชิ้งค่ะ กับงาน Toyota Motorsport ^ ^ จริงๆแล้วชิ้งไปร่วมงานทั้ง 2 วันเลยค่า อย่างที่บอกพอดีลิสไว้แล้วว่าอยากเข้าร่วมกิจกรรมอะไรบ้าง กี่โมง คือทำเป็นตารางไว้เลยน้า อิอิ พอช่วงไหนว่างก็แว่บออกไปเที่ยวจิ๊ 555 กิจกรรมแรกมีชื่อว่า walk about on track ค่ะ
ชุ้งชิ้งจะยอมพลาดกิจกรรม walk about on track ไปได้อย่างไร? ก็แหม กิจกรรมนี้เค้ายอมปล่อยให้พลเมืองอย่างเราเข้าไปเดินเฉิดฉายในสนามแข่งกับเค้าบ้าง แถมได้ไปอยู่ใกล้ชิดกับดารา และนักแข่งเท่ห์ๆด้วยนะคะ แต่สำหรับชิ้ง แค่เข้าไปอยู่ใกล้ๆคงไม่พอ ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระทึก เอ้ย! ระลึกด้วยจิ 555 เอาเป็นว่าลืมร้อนไปเล้ย! ^___^/
“เกลียดการมองคนที่หน้าตา แต่พอเจอดาราขอลายเซ็น…” 555 พอร้องเพลงนี้จบปุ๊บ ฮึกเหิมๆ เอาเป็นว่าเดินเจอดาราที่ไหน ถ่ายรูปด้วยหมดฮะ! โอ้ย! ฟินจุง! หึหึห้าห้าห้า
มีประกวดกองเชียร์ด้วยนะคะ ทำให้พลันนึกถึงอดีต ช่วงซ้อมลีดเดอร์เป็นช่วงที่สนุกมั่กๆเลย ดูน้องๆแล้วอมยิ้มจ้า ^___^
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ชิ้งไม่ยอมพลาดแน่ๆ นั่นคือการประกวดเต้นค่ะ เง้อ! ยิ่งทำให้คิดถึงวัยเด็กของตัวเองเข้าไปอี๊ก จำได้ว่าตอนป.4 คุณครูให้จับกลุ่มเพื่อนให้ได้ 10 คน แล้วเลือกเพลง คิดท่าเต้นกันเอง สนุกมากกกกกกกกกกก! ยอมรับว่าตอนดูน้องๆเต้นนี่ พี่ชิ้งนี่ขาแข้งกระตุกเลยจร้า ^___^
เอาหล่ะ ออกจากช่วงวันวานยังหวานอยู่ได้แร้น ตื่นๆเน๊าะ 555 อากาศร้อนๆแบบนี้เปลี่ยนอารมณ์แวะเข้าไปเดินชิวๆในโชว์รูมดีกว่าค่ะ โชว์รูมจะอยู่โซนด้านหน้างานเลย มีรถสวยๆจอดตรึม พริตตี้สาวสวยยืนเรียงราย ^___^
Inspiration Zone มีรถแต่งมาโชว์กันด้วยค่ะ แต่ละคันงามๆทั้งนั้น
แต่ถ้าใครหิวก็ต้องแวะไปที่นี่ค่ะ Food Zone มีทั้งอาหาร และน้ำดื่มให้บริการตลอดงานเลยจร้า
อีก 1 กิจกรรมที่ผู้หญิงอย่างเราไม่ควรพลาดเลย นั่นก็คือ Lady Corner ภายในบู้ธนี้โต๊ะให้บริการเพ้นท์เล็บแบบฟรีๆด้วยนะจ๊ะ แถมมีน้องนาตาลี เดวิสมาช่วยสอนวิธีการขับขี่อย่างปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆอีกด้วย
ใกล้เวลาแข่งแล้วค่ะ แวะเข้าไปดูนายช่างเค้าขะมักเขม้นเตรียมรถแข่งในพิทกันเน้อ
และแล้วก็ถึงเวลาแข่งขันประลองความเร็วค่า ชุ้งชิ้งยังคงตื่นเต้นไม่แพ้ครั้งก่อน ตอนเราดูอยู่ข้างสนาน เวลารถขับเร็วๆผ่านหน้าไป มันจี๊ดดีจุง ชักอยากไปเรียนขับรถแข่งกับเค้าบ้างแระ อิอิ ซึ่งทาง Toyota Racing School เปิดสอนด้วยนะคะ ไปเรียนกันได้ ไปกันมั้ย? ^___^
น่าเสียดายค่ะ ที่ครั้งนี้ชิ้งไม่ได้นั่ง Car performance show ที่เป็นการขับขี่แบบ slalom และ J-turn คล้ายๆการ drift ในหนังประมาณนั้นเลยค่า แต่อยู่ข้างสนามก็ enjoy ไปอีกแบบนะคะ ขนลุกและยิ้มแฉ่งตลอดการโชว์เลยนะ! ได้เจอคุณต้นอีกแย้ว กรีสสสสสสสสสสสสสสสสสส ถึงไม่ได้นั่งไปด้วย แต่ก็ส่งกำลังใจไปคร่า ^ ^
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลาค่ะ และแล้วก็ดำเนินมาถึงพิธีมอบรางวัล และตบท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากวง Potato
งาน Toyota Motorsport เป็นมากกว่าการจัดงานแข่งรถค่ะ เพราะมีกิจกรรมดีๆให้ทำตลอดการจัดงานทั้ง 2 วันเลย สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวในสนามแข่ง หนุนใจให้ลองดูนะคะ รับรองจะติดใจนักแข่ง เอ้ย! บรรยากาศงานเหมือนชิ้ง ^___^’ ก่อนจะลากันไป ชิ้งนำตารางสนามหน้ามาฝากด้วยค่ะ
สนามที่ 4 วันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2558 ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี
สนามที่ 5 วันที่ 24 – 29 พฤศจิกายน 2558 บางแสน ไทยแลนด์ สปีดเฟสติวัล จ.ชลบุรี
เป็นการรีวิวที่ยาวมั่กๆ ขอบคุณที่ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ จุ๊บๆ ^___^ แล้วคราวหน้าชิ้งจะพาเพื่อนๆไปกินไปเที่ยวที่ไหน ก็ต้องฝากทุกท่านติดตามด้วยคร่า วันนี้ไปแระ บะบาย…