รีวิวร้านอาหารมิชิลินห้องแถว (Michelin Guide) ที่ฮ่องกง จัดไป 12 ร้านใน 2 วัน กับงบเบาๆใครๆก็กินได้! ^___^ by ChingCanCook

รีวิวร้านอาหารมิชิลินห้องแถว (Michelin Guide) ที่ฮ่องกง จัดไป 12 ร้านใน 2 วัน กับงบเบาๆใครๆก็กินได้! ^___^ by ChingCanCook

รีวิวร้านอาหารมิชิลินห้องแถว (Michelin Guide) ที่ฮ่องกง จัดไป 12 ร้านใน 2 วัน กับงบเบาๆใครๆก็กินได้! ^___^ by ChingCanCook
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

DSC03233_Fotor_Collage_resize

เรื่องมีอยู่ว่า เพิ่งมีการประกาศร้าน มิชิลินห้องแถว (Michelin Guide) 23ร้านที่ฮ่องกงเมื่อต้นเดือนพ.ย.58ที่ผ่านมาค่ะ blogger สายกินอย่าง ชุ้งชิ้ง #ChingCanCook ตื่นเต้นมั่กๆ เพราะชอบมากกกกกกกกกเลย อาหารอร่อยและออกแนวสตรีทราคาเบาๆแบบนี้ ดังนั้นไม่ขอรอช้า รีบจองตั๋วเครื่องบินไปตระเวนกินทันทีสิคะ ซึ่งช่วงปลายปีแบบนี้ออกโปรกันเยอะมากกกกกกกกกกก แล้วมาลุ้นไปด้วยกันนะคะว่าทริป 2 คืน 2 วันครั้งนี้ ชุ้งชิ้งจะพาไปกินได้กี่ร้าน ตามมาเลยจร้า ^___<

ชิ้งเลือกไฟล์ท 6.40น.ค่ะ จะได้ไปถึงฮ่องกงประมาณ 10 โมงก่าๆ จากนั้นก็เดินทางไปโรงแรมซึ่งน่าจะถึงใกล้เที่ยงพอดี พอฝากกระเป๋าเสร็จก็เริ่มออกตระเวนกินกันได้เลย ทุกอย่างช่างลงตัวเป็นอย่างยิ่ง ^___^

โหลดกระเป๋าเสร็จแย้ว เดินตัวเบาเลย ยังพอมีเวลาเดินเล่นที่สนามบินเล็กน้อยค่ะ แต่อย่าลืมดูเวลา boarding time ให้ดีด้วยนะคะ กันพลาด แล้วก็มานั่งรอหน้า gate จ้า แต่หัวใจเนี่ยไปถึงฮ่องกงแร้น ^___^

DSC01714_resize

DSC01680_resize_resize

ประเดิมมื้อแรกของทริปด้วย ข้าวกระเพราไก่ อิอิ เค้ามีเขียนแคลอรี่ที่ฝากล่องด้วยนะ ทั้งกล่องเพียง 239 แคลอรี่เท่านั้นจ้า งั่มๆ ^___^

DSC01764_resize_Fotor_Collage_resize

2 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ ก็มาถึงสนามบินฮ่องกงแล้วค่า อากาศกำลังดีเลยทีเดียว ^___^ หลังๆเห็นคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเยอะมาก แต่จิงๆชิ้งว่าฮ่องกงน่าเที่ยวออกน้า ถูกทั้งทริป ทั้งค่าบิน ค่ากิน ค่าเดินทาง คือไปญี่ปุ่นทริปนึง สามารถบินไปฮ่องกงได้เกือบ 3 รอบ อิอิ แถมบินแป๊บเดียวก็ถึง อยากไปเมื่อไหร่ก็ไปได้ ดูอย่างทริปนี้ของชิ้งสิคะ มีเวลาแค่ 2 วัน ก็สามารถตะลุยกิน ตะลุยเที่ยวได้อย่างชุ่มปอดเบย ^____^ ไหนจะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษก็ง่าย รถไฟฟ้าก็ไม่ซับซ้อน และเป็นศูนย์รวมของอาหารทุกชาติ ปลอดภัยอีกต่างหาก เพราะกฎหมายที่นั่นแรงมากเลย ใครอยากตามรอยบินมาเปลี่ยนบรรยากาศ ชิมอาหารต้นตำรับฮ่องกงแบบชิ้ง เค้าไม่หวงน้า เค้าหนุนใจ อิอิ

DSC01771_resize

ซึ่งการเดินทางจาก Airport ไปโรงแรมก็ไปได้หลายวิธี แต่ชิ้งเลือก airport express ค่ะ แล้วไปต่อ free shuttle bus ซึ่งจะไปส่งเราใกล้ๆโรงแรมเลย คือเค้าจะจอดเป็นจุดๆไปค่ะ ก่อนขึ้นเราก็แค่บอกเค้าว่าเราอยู่โรงแรมอะไร แล้วให้เค้าแนะนำว่าให้เราลงตรงไหน อ้อ! แนะนำให้ซื้อ Octopus card ด้วยนะคะ บัตรนี้ใช้นั่งรถไฟฟ้าก็ได้ ซื้อของที่เซเว่น หรือร้านสะดวกซื้อ ยัน Mcdonalds ก็ยังได้ สะดวกฝุดๆไปเลยค่า มีค่า deposit 50 เหรียญ แต่เราสามารถแลกเงินคืนได้ตอนกลับ ถ้าจำไม่ผิดจะเสียค่าบัตรจิงๆแค่ 9-10 เหรียญนี่แหล่ะ

DSC01781_resize

Airport Express มีที่เสียบให้ด้วย ใครมีสายก็เสียบชาร์จได้เลยจ้า ^ ^ รถไฟจะมาหยุดที่ station นี้ค่ะ

 DSC01782_resize

จากนั้นก็กดลิฟต์ไปที่ L2 เพื่อไปขึ้น Free Shuttle bus จ้า

DSC01785_resize

พนักงานบริการดีน้า มีช่วยยกกระเป๋าด้วยค่ะ โดยที่กระเป๋าจะกองรวมกันอยู่ที่ด้านหน้าของรถ ส่วนคนก็เดินไปนั่งด้านใน สบายๆ ^___^

 

ในที่สุดก็มาถึงโรงแรมประมาณ 11 โมงนิดๆ ตามที่คิดไว้เป๊ะ! แต่เค้าให้เช็ค-อินได้บ่าย 2 แหน่ะ แต่มิเป็นไร เราสามารถฝากกระเป๋าได้จ้า แล้วออกไปตระเวนกินกันได้เล้ย!

DSC01790_resize

DSC01791_resize

บรรยากาศที่เราคุ้นเคยค่ะ ประมาณตึกสูงๆ คนเยอะมากกกกกก เวลาเข้าร้านอาหาร เหมือนกำลังเล่นเก้าอี้ดนตรี พอลุกปุ๊บ มีคนมาต่อปั๊บ 555 แล้วมีของขายเต็ม2ข้างทางไปหมด คนพูดกันเสียงดัง แต่ก็เข้าแถวเป็นระเบียบ อ้อ ที่คลาสสิคสุดๆก็ต้องเป็นรถแท็กซี่ กับรถรางสิเน้อ ^ ^

DSC01792_resize

น่ากินเน๊าะ oops! ไม่ใช่สิ น่าซื้อมาใส่เน้อ ^ ^’

DSC01793_resize

DSC01902_Fotor_Collage_resize

เอาหล่ะค่ะ เรามาเริ่ม “ภารกิจตามล่าสร้างลายแทงร้านมิชิลินห้องแถว กับชุ้งชิ้งที่ฮ่องกง” กันได้ ณ บัดนี้...

 

ร้านที่ 1

Block 18 Doggie’s Noodle

ที่ตั้ง 27A NING PO STREET, JORDAN, TEL: 9360 6644

1

DSC01797_resize

DSC01796_resize

DSC01795_resize

DSC01804_resize

ร้านนี้คนต่อแถวเยอะมาก! แต่ภาษาอังกฤษไม่มีซักตัว เอาเป็นว่าลอกคนข้างๆแล้วกันจ้า เพราะเห็นสั่ง noodle เส้นขาวๆอ้วนๆชามนี้แทบทุกโต๊ะ

DSC01805_resize

DSC01806_resize

อารมณ์ประมาณกินเส้นเปียกบ้านเรา ลื่นๆคอดี ไฮไลต์น่าจะอยู่ที่ไช้โป้วที่มีทั้งแบบเค็มและเผ็ดให้บริการ แอบเห็นคนข้างๆใส่ไม่ยั้ง 555 ชามค่อนข้างเล็กเหมาะกับนู๋ชิ้งเลย

DSC01801_resize

DSC01809_resize

ชามนี้ให้อารมณ์ประมาณกระเพาะปลาบ้านเราม้างงงงงงค้า มี texture ของไข่ เห็ดหูหนู และถั่วงอก ออกเปรี้ยวนิดๆ กินก็ลื่นคอดี น่าจะเป็นเมนูขายดีลำดับที่ 2 ของร้านนี้เลยค่ะ

DSC01810_resize

DSC01811_resize

อันนี้เป็นลูกชิ้นปลาค่ะ เหมือนคนที่นี่จะชอบลูกชิ้นปลานะคะ ไปไหนก็เห็นมีขายเต็มไปหมด น่าจะเป็น snack ของคนที่นี่ ลูกชิ้นไม่คาว หนึบดีค่ะ

DSC01808_resize

สั่งมา 3 อย่างตก 285บาทเท่านั้น! อาหารร้านนี้ทำให้ได้รู้จักกับรสชาติใหม่ ซึ่งถึงแม้จะยังไม่คุ้นเคยกันแต่ก็คบเป็นเพื่อนได้สบาย ไม่แน่นะ ถ้าคบกันไปนานๆอาจผูกพันจนถึงขั้นรักกันได้ ไม่งั้นคนคงไม่ต่อคิวกันเยอะขนาดนี้ค่ะ

มาต่อกันที่ร้านที่ 2 เลยน้า อย่ารอช้า เพราะอยู่ตรงข้ามกันเลยค่ะ 555 ร้านนี้เป็นร้านขนมแบบจีนบ้างค่ะ

 

2. Kai Kai

ที่ตั้ง 121-123 PARKES STREET, JORDAN

2

DSC01814_resize

DSC01815_resize

DSC01823_resize

DSC01816_resize

DSC01817_resize

DSC01818_resize

DSC01819_resize

พยายามจะลอกเมนูสุดฮิตจากโต๊ะรอบๆตัว ปรากฏว่าแต่ละคนสั่งกันมาหลากหลายมาก ไม่รู้จะลอกใครดี สุดท้ายเลือกเมนูที่ตัวเองอยากกินก็แล้วกานนนน พอดีเห็นคำว่า stewed papaya with rock sugar น่าสนใจดีเลยสั่งมาค่ะ ซึ่งก็จะเป็นมะละกอนุ่มๆในน้ำขิงหอมๆ หวานอ่อนๆจากน้ำตาลกรวด ก็อร่อยดีนะคะ ชอบขนมสไตล์จีนตรงที่ดูไม่อ้วนมาก กินแล้วไม่ค่อยรู้สึกผิด อิอิ ร้านมีแอร์ นั้งสบาย ถ้วยนี้ 19 เหรียญ ก็ประมาณเกือบๆร้อยบาทค่ะ

 

มองเวลาแล้วถึงเวลา check-in พอดี พักท้องเข้าโรงแรมซักครู่ แล้วมาลุยกันต่อนะจ๊ะ ^ ^

DSC01906_resize_Fotor_Collage_resize

ทริปนี้เลือกมาพักที่โรงแรม City View Hotel ค่ะ อยู่ใกล้ๆสถานี Yau Ma Tei ตรงข้ามมีเซเว่น ตกคืนละประมาณ 4 พันนิดๆ ห้องไม่ถึงกับเล็กมาก เพราะเคยพักเล็กกว่านี้มาแล้ว 555 ซึ่งถึงห้องจะไม่ใหญ่มากแต่ก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ+ฟรี wifi จ้า ราคานี้ไม่มีอาหารเช้านะคะ ซึ่งก็ดีเหมือนกัน จะได้ปฏิบัติภารกิจได้เพิ่มอีกมื้อ ^ ^ เอาหล่ะค่ะ อย่าพักนาน ออกไปต่อกันเลยเน๊าะ พร้อมม้ายๆ?

 

3. Lei Keung Kee

ที่ตั้ง 492 KING’S ROAD, NORTH POINT (สาขาหลัก ในรูปนี้เป็นสาขาย่อยค่ะ)

3_resize

DSC01832_resize

DSC01835_resize

DSC01838_resize

DSC01843_resize

DSC01844_resize

DSC01845_resize_Fotor_Collage_resize

ขนมอบร้อนๆออกมาเลยค่ะ กรอบๆนุ่มๆ หอมมันประมาณแพนเค้ก แป้งจะโปร่งๆนะคะ ไม่หนักไป ยิ่งถ้าได้กินตอนอากาศหนาวๆน้า คงฟินน่าดู!

 

4. Mammy Pancake

 ที่ตั้ง 8-12 CARNARVON ROAD, TSIM SHA TSUI

4

ยังอยู่กับขนมค่ะ พอดีมีอีกร้านนึงอยู่ไม่ไกลกัน แถมหน้าตาขนมก็คล้ายๆกันอีก มามะๆ กับ Mammy Pancake

DSC01865_resize_Fotor_Collage_resize

DSC01894_resize

เลือกเป็นรส Belgium Chocolate ค่ะ รสช็อคโกแลตชัดมาก สำหรับชิ้งทั้ง 2 ร้านทำออกมาได้พอๆกันนะ อร่อยทั้ง 2 ร้านค่ะ

 

5. Three Potatoes

ที่ตั้ง SHOP 5, 6/F, 30-32A NULLAH ROAD, MONG KOK

5_resize

เผลอแป๊บเดียว มาถึงร้านที่ 5 แร้นนะจ๊ะ เร็วเน้อ ^ ^ กับร้าน 3Potatoes

DSC01984_resize

DSC01976_resize

DSC01974_resize_Fotor_Collage_resize

DSC01987_resize

ที่เห็นคือ Fried onion and bacon hash brown ค่ะ คนที่คิดว่าเมนูนี้จะเลี่ยนเนยเลี่ยนชีสทายผิดนะจ๊ะ ซอสขาวๆนั่นคือ sour cream เปรี้ยวๆเลยแหล่ะ! ถ้าชอบรสชาติหนักๆหน่อย แนะนำเมนูนี้แทน Twice baked cheese and bacon potato จร้า ^___~ อร่อย อุ่นๆท้องดีค่ะ อิ่มเบาๆไม่หนักมาก

 

6. Joyful Dessert House

ที่ตั้ง 74 HAK PO STREET, MONG KOK

6_resize

ภารกิจตามล่าสร้างลายแทงร้านมิชิลินห้องแถว ที่ฮ่องกง ในวันแรกของชิ้ง ยังไม่จบนะคะ มาต่อกันที่ร้านสุดท้ายของวัน กับร้านเบเกอรี่น่ารักๆ Joyful Dessert House

DSC02029_resize_Fotor_Collage_resize

ที่หน้าร้านมีนั่งร้านไม้ไผ่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปรกติมากสำหรับคนที่นั่นค่ะ เพราะเค้าคิดว่าเบา สร้างได้เร็วกว่าการใช้หน้าร้านเหล็ก ดังนั้นไม่ต้องกลัวตึกจะถล่มนะคะ เค้าแค่แต่งหน้าร้านใหม่เฉยๆ 555 เดินเข้าร้านเลยจร้า

DSC02043_resize

DSC02048_resize

ชิ้งสั่ง Chocolate Banana Napoleon ไปค่ะ อร่อยมากกกกกกกกก แป้งกรอบ เนื้อบางเบา กินกับไอติมและกล้วยคือเข้ากันมากมาย สาวๆที่รักขนมหวาน อย่าลืมตามไปชิมกันนะคะ จิงๆยังมีอีกหลายเมนูเลยที่น่าโดน แต่ท้องดันเต็มไปซะก่อน แหะ แหะ เสียค่าเสียหายไป 58 เหรียญ (ตกเกือบ 3ร้อยบาทไทย)

DSC02044_resize_Fotor_Collage_resize

DSC02038_resize

หลังจากอิ่มจนแน่น ขอเดินเล่นแถวๆ Mong Kok ซักหน่อยนะค้า

DSC02059_resize_Fotor_Collage_resize

DSC02026_resize

มีคนมาเปิดการแสดงเต็มไปหมดเลยค่ะ คนก็เดินกันให้ลึ่ม เพลินๆดี ถูกใจโชว์ไหนก็หยุดดูได้ตามอัธยาศัย ^ ^

 

ทันใดนั้นเองก็เดินมาเจอร้านขาย Hongkong Snacks ที่ชิ้งเองเคยติดใจมาแร้น ซึ่งดีใจมั่กๆที่ได้กลับมากินอีกครั้ง ^ ^ ในเมื่อมันคือพรหมลิขิตขนาดเน้ ต้องซื้อกินสิค้า 555 และเมนูเด็ดของชิ้งก็คือหนวดปลาหมึกชุบแป้งทอด แต่เค้าใส่ผงกะหรี่หอมๆลงไปด้วย ตัวแป้งก็ปรุงรสมาพอดี กรอบๆ หอมๆ อร่อยมากอ่ะ ไว้ต้องทำแล้วแชร์สูตรในแฟนเพจซักหน่อยแร้น อิอิ โอ้ยฟินค่า! หมดวันแรกด้วยหัวใจชื่นชมยินดี ^____^/

DSC02083_resize

DSC02084_resize

 

7. Keung Kee

ที่ตั้ง 382 LOCKHART ROAD, WAN CHAI

7_resize

อย่ารอช้า เรามาต่อกันที่ร้าน Michelin Guide ร้านที่ 7 กันค่า พร้อมอ๊ะยังจ๊ะ? มาเริ่มวันใหม่ด้วยโจ๊กกระดูกหมูหอมกรุ่น ข้าวอบกุนเชียง และก๋วยเตี๋ยวหลอดกันจ้า ^ ^

DSC02172_resize

DSC02182_resize

DSC02183_resize

โจ๊กกระดูกหมูค่ะ เค้าใส่ถั่วลิสงด้วย ตัวข้าวทำได้ดีน้า ไม่เหลวไป ไม่ข้นไป กระดูกหมูก็ต้มมาจนนุ่มเลย

DSC02188_resize

DSC02191_resize

ข้าวอบกุนเชียง ความพิเศษของจานนี้น่าจะมาจาก duck liver Dried Sausage หรือไส้กรอกตับเป็ดนั่นเอง ซึ่งทำได้ดีเลยค่ะ เค้าจะมีกลิ่นเฉพาะของเค้า แต่นี่ถือว่าไม่แรง ทำได้ดีเลย เครื่องก็เยอะ มีทั้งกุนเชียง เห็ดหอม จานนี้ 34 เหรียญ (ประมาณร้อยห้าสิบบาทไทย)

DSC02185_resize

ส่วนตัวชิ้งชอบก๋วยเตี๋ยวหลอดจานนี้ที่สุดเลยค่ะ ตัวเส้นก๋วยเตี๋ยวเค้าเอาไปย่างจนเกรียมนิดๆ มีส่วนที่กรอบๆ ส่วนซอสที่ราดมามี 2 แบบ อันนึงจะสีเข้มๆออกรสชาติหวานๆ ส่วนอีกตัวจะเป็นซอสถั่วๆ ทั้งคู่ลงตัวอร่อยมากกกกกกกกกกก เคยกินที่ร้านอื่นเส้นเค้าจะนุ่มๆ ไม่มาย่างกระทะแบบนี้ค่ะ แนะนำจากใจเลยค่ะ จานนี้ราคาเบาๆ 17 เหรียญจ้า (ประมาณ 80บาท)

DSC02193_resize

8. Butchers Club

ที่ตั้ง LANDALE STREET, WAN CHAI, TEL: 2552 8281

8_resize

มาถึง Michelin Guide ร้านที่ 8 แล้วจ้า คราวนี้เปลี่ยนมากินเบอร์เกอร์กันบ้างนะคะ กับร้าน The Butchers Club Burger ร้านเก๋มาก วัยรุ่นฝุดๆ

 DSC02270_resize

DSC02274_resize

DSC02275_resize

DSC02295_resize

DSC02302_resize

สั่งเบอร์เกอร์เนื้อ, duck fat fries ซึ่งก็คือมันฝรั่งอ้วนๆนั่นแล และโค้กซีโร่ไปจ้า ตัวเบอร์เกอร์ก็รู้สึกถึงความเป็นโฮมเมด ตั้งแต่ตัวขนมปังแร้น ไส้เบอเกอร์หอมเนื้อมากกกกกก ย่างมาพอดี แต่ออกร่วนๆหน่อย ซอสที่ราดมาก็อร่อย มื้อนี้โดนไป 150 เหรียญ (ประมาณ 750บาทไทย)

DSC02276_resize

9. MakKee

ที่ตั้ง 21-23 FORT STREET, NORTH POINT

9_resize

รอช้าอยู่ใย ไปร้านที่ 9 กันต่อเลยนะคะ

DSC02347_resize

DSC02351_resize

DSC02352_resize

DSC02353_resize

เห็นเป็นร้านธรรมดาๆแบบนี้ คนต่อคิวเพียบนะค้า ^ ^

DSC02363_resize

เกี๊ยวซ่า ไส้รสชาติดีนะ แต่แป้งอาจจะหนาไปหน่อยสำหรับชิ้ง ถือว่าเป็นเกี๊ยวซ่าเวอร์ชั่นคนจีนก็แล้วกานนนน น้ำจิ้มเปรี้ยวๆประมาณซีอิ้วใส่น้ำส้มสายชูกับขิงแก่ซอย

DSC02368_resize

ลูกชิ้นปลา มีกลิ่นปลาแต่ไม่คาว เนื้อหนึบแน่น บางโต๊ะก็สั่งมากินเป็นลูกๆแบบนี้ ในขณะที่บางโต๊ะก็สั่งกินเป็นบะหมี่น้ำ ไม้นี้ 6 เหรียญค่ะ ประมาณ 30 บาทบ้านเรา

DSC02380_resize

เสี่ยวหลงเปา ตัวไส้เข้มข้น หอมน้ำมันงากับขิงอ่อนๆ นู๋ชิ้งนี่บรรจงใช้ตะเกียบคีบมาจูจุ๊บแล้วกัดไปเบาๆก่ะดูดน้ำซุปเต็มที่ ปรากฏว่าไม่ค่อยมี เลยเงิบนิดหน่อย 555 เสิร์ฟมา 5 ลูก เพียง 20 เหรียญเท่านั้น ตกประมาณร้อยนุง ราคามิตรภาพฝุดๆ ^___^'

DSC02383_resize

 

10. Chin Sik 31

ที่ตั้ง 49 SHIU WO STREET, TSUEN WAN

10_resize

อย่าถามว่ากินแล้วไปอยู่ไหนหมดนะคะ เพราะตอบไม่ได้เหมือนกานนนน 555 งั้นเราไปต่อกันที่ร้านที่ 10 เลยเน๊าะ กับร้านนี้ที่ชิ้งชอบมากกกกกกกกกกก

DSC02412_resize

DSC02426_resize

DSC02427_resize

DSC02432_resize

พอเข้าร้านก็เลือกเส้นที่เราชอบ แล้วเลือก topping ได้ 3 อย่าง ชิ้งก็เลยเลือกเป็นเส้นฮกเกี้ยน หรือหมี่เหลืองไป ส่วน topping ขอเลือกเป็นเกี๊ยวปลา ลูกชิ้นเนื้อ และเนื้อเปื่อยค่ะ ขอสารภาพตรงๆว่าแว๊บแรกที่เห็นไม่ประทับใจเลย รู้สึกจัดจานออกมาธรรมดามั่กๆ เลยไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอตักเข้าปากเท่านั้นแหล่ะ ตางี้โตเลย เผลอแป๊บเดียวเท่านั้นเกลี้ยงเลยฮะ ตัวน้ำซุปกลมกล่อมมากกกกกกก ไม่ได้มีแค่มิติของกลิ่นเนื้อที่เป็น base ของตัวน้ำซุปเหมือนร้านทั่วไป อร่อยๆๆๆๆๆ แนะนำจากใจเลยจร้า

DSC02445_resize

DSC02449_resize

เครื่องปรุงต่างๆ สามารถปรุงได้ค่ะ อิอิ แต่สำหรับชิ้งแค่เติมน้ำพริกเผาเป็นพอ ^ ^

 

11. Cheung HingKee

ที่ตั้ง 13 CHUEN LUNG STREET, TSUEN WAN

11_resize

Welcome to ร้าน Michelin Guide ร้านที่ 11 กันเลยนะจ๊ะ ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ชิ้งชอบมากกกกกกกกกกกกก ^ ^

DSC02452_resize

DSC02457_resize

ร้านนี้เด่นด้วยเมนูนี้ค่ะ เพื่อนๆพอจะเดากันได้มั้ยเอ่ยว่าคืออะไรเอ่ย? ชิ้งเฉลยเลยนะคะ เค้าคือเสี่ยวหลงเปานั่นเอง คือพอกัดแล้วด้านในจะมีน้ำซุป แต่ผิวด้านนอกจะกรอบๆ ประมาณเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น วันที่ไปชิ้งสั่งเป็นเซ็ตค่ะ ก็จะมีเสี่ยงหลงเปา 2 ลูก วุ้นเส้นน้ำใส1ชาม +น้ำชามะนาวสไตล์ฮ่องกง 1 แก้ว เซ็ตนี้อยู่ที่ 40 เหรียญ (ประมาณ 200บาทค่ะ) สุดยอดแห่งความคุ้มค่า ^ ^

DSC02478_resize_Fotor_Collage_resize

วุ้นเส้นน้ำใส ชิ้งว่าแลดูน่าสนใจ ดูเบาๆดี น้ำซุปกลมกล่อมแต่ชิ้งว่าพอใส่น้ำพริกเต้าเจี้ยวถ้วยนี้แล้วยิ่งอาหย่อยค่ะ เพิ่มมิติเผ็ดและเค็มเข้าไป

DSC02498_resize

DSC02491_resize_Fotor_Collage_resize

ชิ้งชอบเสี่ยวหลงเปาเจ้านี้มากกกกกกกกกก น้ำซุปข้างในหอม กลมกล่อมฝุดๆ หมูด้านในก็ปรุงรสมาพอดี๊ พอดี คำแรกใช้มือหยิบมากัด ปรากฏน้ำซุปแตกออกมาเลอะหมดเลย 555 แนะนำให้วางบนช้อนนะคะ แล้วค่อยกัดเข้าปาก อิอิ หมูบดนี่ให้มาเต็มปากเต็มคำมาก ชอบผิวสัมผัสด้านนอกที่กรอบนิดๆประมาณเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่นเลย ร้านนี้แนะนำจากใจเลยจ้า

 

12. Congee king

Shop A, G/F, Fasteem Mansion, 307-311 Jaffe Road, Wan Chai, Hong Kong

12_resize

และแล้วก็มาถึงร้านมิชิลินห้องแถวร้านสุดท้ายสำหรับทริปนี้แล้วค่ะ เป็นร้านขายโจ๊กที่ได้ Michelin guide 6 ปีซ้อน ชุ้งชิ้งเลยขอเลือกมาเป็นร้านฟินาเล่ร้านที่ 12 ค่า คนไทยอาจจะคุ้นเคยกับร้านโจ๊กสีม่วง ลองมารู้จักกับร้านนี้บ้างนะคะ แล้วจะติดใจ ฮิ้วววววววว

DSC03211_resize

DSC03214_resize

DSC03242_resize

DSC03243_resize

DSC03246_resize

ก่อนอื่นชิ้งต้องยอมรับก่อนว่าไม่ชอบตับๆๆๆนะ แต่ตับร้านนี้คือเนื้อเต่งฟูหนา หนึบนุ่มกำลังดี พอกัดเหมือนมีความฉ่ำออกมา เนื้อไม่ทรายและกลิ่นไม่แรงเหมือนตับทั่วไป แถมไม่แข็งด้วยจร้า ส่วนสีข้าวของโจ๊กตับหมูจะออกสีเข้มกว่าโจ๊กเนื้อวัวสไสด์นิดนุง ใส่ขิงซอยเป็นเส้นบางเฉียบ หอมเชียว เวลามองจะเห็นเนื้อข้าวเป็นเม็ดๆอยู่ แต่พอกินมันเนียนนุ่มลิ้น และได้ texture ที่มีความเหนียวหนืดเล็กๆ อร่อยและฟินมากกกกค่ะ ยิ่งได้กินกับปาท่องโก๋นะ ที่สุดของชุ้งชิ้งเลย อิอิ

DSC03236_Fotor_Collage_resize

มาที่โจ๊กเนื้อวัวสไสด์ พอดีกินก่อนโจ๊กตับหมูค่ะ เลยคิดว่าอร่อยแร้น ตัวข้าวเอย textureที่สัมผัสได้คล้ายๆกัน แต่ไม่ใส่ขิงซอย ไฮไลต์น่าจะอยู่ที่ชิ้นเนื้อวัว คือนุ่มมากกกกกกกก

DSC03230_Fotor_Collage_resize

อีก 1 เมนูที่กรีสสสสสสสสคือ กระดูกอ่อนหมูตุ๋น (pig cartilage) เป็นส่วนที่ติดเอ็นหรือกระดูกอ่อน นำมาตุ๋นจนนุ่มจิงๆ คือแค่ใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาเนื้อหมูก็กระเพื่อมให้รู้ว่านุ่มจิงแร้น นุ่มจนกินได้ทั้งชิ้นเป้งๆนั้นเลย เวลาเคี้ยวจะได้รสเปรี้ยวที่ปลายลิ้น และกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งมาจากผิวเปลือกส้มโอ ตัดเลี่ยนได้ดี น้ำซอสที่ราดมาเข้มข้นดีจิงๆค่ะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ? ชักอยากจองตั๋วเครื่องบินตามไปกินม้ายยยย 555 ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา หว้าถึงเวลากลับบ้านซะแร้น ขอบอกเลยว่าสนามบินที่ฮ่องกงใหญ่มากกกกกกกกกกก ควรไปถึงก่อนอย่างน้อยซัก 2 ชั่วโมงนะคะ เพื่อนๆต้องเช็คให้ดีว่าสายการบินที่จองมาต้องไปที่ terminal ไหน

DSC02641_resize

 DSC02645_resize

ขอทิ้งทวนทริปนี้ด้วยลาซานย่าไก่ชีสเยิ้มๆ ^ ^ หรือ Chicken Lasagna ค่ะ อาหย่อยยยย!

เป็นรีวิวที่ยาวมั่กๆเลย ขอบคุณจิงๆที่ติดตามนะคะ ชุ้งชิ้งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า content นี้จะเป็นลายแทงร้านอร่อยที่พอจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆนะคะ สิ้นปีแล้ว ขอให้เพื่อนๆไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ขอให้เป็นช่วงเวลาที่ดี และเดินทางปลอดภัยค่ะ แล้วครั้งหน้าชุ้งชิ้งจะพาไปเที่ยวไหน หรือพาไปกินอะไร ฝากติดตามด้วยนะจ๊ะ วันนี้ไปแระ บะบาย...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook