Lunch @ Fauchon ให้คุณได้สัมผัสกับอาหารฝรั่งเศสสุดอร่อยและบรรยากาศสุดชิคในราคาไม่แพงอย่างที่คิด
ร้านขนมฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Fauchon ที่มาพร้อมกับคอนเสปท์เก๋ๆ อย่าง Food, Fun, Fashion & French มาเปิดสาขาที่ EmQuartier ทั้งที แถมยังเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรูปแบบ Full function restaurant ที่เสิร์ฟทั้งอาหารคาวหวานอีกต่างหาก แน่นอนว่างานนี้เราไม่พลาดที่จะไปรีวิวมาให้ทุกๆ คนได้ฟังกันค่ะ
ร้าน Fauchon ก่อตั้งขึ้นในปี 1886 โดยคุณ Auguste Fauchon
จากร้านขายผักผลไม้และผลิตภัณฑ์นมเนยชั้นเยี่ยมจากแคว้นนอร์มังดีทางคุณโฟชองก็เริ่มขยับขยายขายขนมอบและเบเกอรี่ด้วยในปี 1895 ก่อนจะตามมาด้วยบริการอาหารและน้ำชาจนกลายเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่ผู้ดีฝรั่งเศส
ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่ง อาหาร ขนม และชาผสมกลีบดอกไม้ โฟชองจึงโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ขนมก็มีหลากหลายเพิ่มเติมมาตลอด โดยเฉพาะเอแคลร์ เค้ก และมาการองอันเลื่องชื่อ แถมยังเน้นดีไซน์เน้นความสวยงามเรียกได้ว่าอาหารและแฟชั่นเป็นหนึ่งเดียวกัน
จนในที่สุดก็มีการเปิดสาขาที่ญี่ปุ่นและขยายไปเรื่อยๆ ในหลายประเทศทั่วโลกในเวลาต่อมา
แหมฟังอย่างนี้แล้วก็ยิ่งอยากสัมผัสอาหารแบบฝรั่งเศสแท้ๆ กับเขาบ้าง วันนี้เลยจะพามาลองชิมเมนูอาหารมื้อกลางวันของโฟชองกันค่ะ
ร้านโฟชองที่ EmQuartier ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋มีสไตล์ เข้ามาแล้วรู้สึกได้ถึงความชิค ที่ให้คุณมานั่งสบายผ่อนคลาย ชมผู้คนเดินขวักไขว่ในห้างหรู
นั่งได้ไม่นานขนมปังร้อนๆ ก็มาให้ทานรองท้อง
ขนมปังกรอบๆ ร้อนๆ มาพร้อมกับเนยสามชนิด
เนยก็เป็นเนยชั้นดีจากฝรั่งเศสที่คัดสรรแล้วแถมยังมีสามชนิด คือแบบธรรมดา แบบโรยเกลือ และแบบโรยพริก ซึ่งพริกที่ใช้เป็นพริก Espelette จากฝรั่งเศสเช่นกัน
มาถึงอาหารกันบ้าง เริ่มจากเมนู Pumpkin Veloute (150B)
ซุปข้นฟักทองหอมกรุ่น โรยครูตองชิ้นเล็กๆ มาพร้อมกับเนื้อฟักทองหั่นเต๋าชิ้นเล็กกำลังดี แถมยังมีเซอร์ไพรส์ด้วย poached egg
ที่ชอบที่สุดคือตัวซุปข้นที่ทำมาเนื้อเนียนนุ่ม สมกับชื่อ veloute ที่แปลว่า velvet หรือกำมะหยี่นั่นเอง
มีซุปแล้วก็ต้องมีสลัดผัก Victoria Salad (325B) เป็นสูตรของสลัดแบบที่ภรรยาของคุณโฟชองชอบ คือมีทั้ง แซลมอนรมควัน เนื้อปู หน่อไม้ฝรั่ง น้ำสลัดรสอมเปรี้ยวที่ผสมดิลล์และมะนาว ชื่อเมนูเลยชื่อวิคตอเรียตามชื่อคุณภรรยานั่นเอง
ชามนี้ก็มี poached egg อีกเช่นกัน ตัวไข่แดงเยิ้มๆ เพิ่มความเข้มข้นให้กับสลัดที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปูจานนี้เป็นอย่างดี
ต่อกันด้วย Chorizo crusted black cod (390B)
ปลาค็อดดำจานนี้เวิร์คมาก เนื้อหนานุ่ม ด้านนอกหุ้มด้วยโชริโซ่ที่ปรุงรสได้เข้มข้นและอบมาจนกรอบ วางมาบนมันบดนุ่มเนียนที่มีลูกเล่นเพิ่มความพิเศษด้วยการผสมใบโหระพาลงในมันบดด้วย
ถูกใจกับปลาไปแล้ว มาลองจานไก่กันบ้าง
Chicken Morel Tagliatelle (395B)
ไก่เนื้อนุ่มม้วนเป็นแท่งกลมที่เรียกว่า Chicken Roulade ทำมาได้ไม่แห้งเกินไป
เสิร์ฟมาบนซอสเห็ดมอเรลและมีเห็ดมอเรลกลิ่นหอมหวนหั่นเป็นชิ้นๆ โรยมาด้านบน ซึ่งเห็ดมอเรลนี้ก็ส่งตรงมาจากฝรั่งเศส
ตัวพาสต้าเป็นพาสต้าเส้นแบนแบบ Tagliatelle ที่เชฟของทางร้านต้มมาได้สุกพอดีแบบ al dente ไม่ให้เสียชื่อ แล้วผัดกับเนยก่อนจะปรุงรสรวมถึงตกแต่งด้วยต้นหอมและเฮเซลนัท ซึ่งรสสัมผัสกรุบกรอบและกลิ่นเฉพาะตัวของเฮเซลนัทนั้นช่วยทำให้จานนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก
ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ เมนู Seared Wagyu Beef (890B) ที่ถูกใจเราเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้อวากิวชั้นดีที่ทำมาได้สุกพอดี ด้านนอกปรุงรสมาเข้มข้นแต่ไม่เค็มเกิน รักษาสมดุลรสชาติไว้ได้ดี ขอบนอกเกรียมเล็กๆ ด้านในเนื้อนุ่มและฉ่ำ กัดทีจมเขี้ยว รสสัมผัสชนะเลิศมาก สมกับเป็นเนื้อวากิวแทรกลายหินอ่อนจากออสเตรเลีย
แถมยังมี Bearnaise Sauce สูตรอร่อยสมกับเป็นรสมือเชฟฝรั้งเศสแท้ๆ
ปกติจะหา Bearnaise Sauce อร่อยได้ยาก เพราะเป็นหนึ่งในซอสสุดหิน เรียกว่ายากน้องๆ ของ Hollandaise sauce ที่มีส่วนประกอบคล้ายคลึงกันอันถือว่าเป็น Mother sauce ใน French Haute Cuisine แต่ที่นี่ทำได้ข้นกำลังเหมาะ และอมเปรี้ยวนิดๆ กำลังดี ได้ใจเราไปเต็มๆ
แต่ไม่หมดเท่านี้ จานนี้ยังมีทีเด็ดอีกหนึ่งอย่างคือ Fauchon French Fries ที่ทำออกมาหน้าตาคล้ายคลึงกับ churros หรือแป้งทอดแท่งยาวที่มักเจอที่สเปนและฝรั่งเศส
ในส่วนของโฟชองก็ทำมันฝรั่งทอดหน้าตาดูใกล้เคียงกรอบนิดๆ ด้านนอก ด้านในเป็น มันฝรั่งที่ออกนุ่มๆ หนึบๆ กว่าเฟรนช์ฟรายทั่วไป คงเป็นเพราะมีส่วนผสมของแป้งและไข่อยู่ในเนื้อด้วย
ปรบมือให้จานนี้ที่ให้เราได้จบมื้อไปได้อย่างสวยงามด้วยความฟิน
เห็นคุณภาพและความน่าทานของเมนูฝรั่งเศสแท้ๆ แต่ละจานแล้วก็บอกได้เลยว่าราคาไม่ได้แพงอย่างที่นึกกลัว ส่วนใหญ่ก็จะราคาไม่ถึง 400 บาท ถ้าไม่นับตัว Wagyu Beef ที่คุณภาพระดับนี้ก็ถือว่าคุ้มเกินราคาที่วางไว้
แถมพิเศษกว่านั้น ทางร้านมีการจัดชุด ให้ความคุ้มค่าแก่ลูกค้าด้วยราคาที่ย่อมเยาลงไปอีกคือ
1 Main course + 1 Eclair of the week (450B)
1 Starter + 1 Main course (500B)
1 Starter + 1 Main course + 1 Eclair of the week (650B)
ซึ่งเอแคลร์ที่นี่อร่อยมาก แนะนำให้ลองกันค่ะ
ใครที่รีๆรอๆ ไม่ได้เข้ามาลองอาหารที่ร้านโฟชองสักทีเห็นราคาออกมาอย่างนี้แล้วคงเบาใจ ยังไงก็ลองเข้ามาจิบชาเคล้าอาหารอร่อยกับบรรยากาศเก๋ไก๋ได้ทุกวันตั้งแต่ จันทร์-อาทิตย์ 10AM-10PM นะคะ
ติดตามรีวิวร้านอร่อยและเรื่องราวสนุกสนานทั้งด้านอาหารการกินและสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่ www.facebook.com/foodiesjournie & www.foodiesjournie.com นะคะ